19 ก.ค. 2021 เวลา 02:16 • สุขภาพ
เชิงประจักษ์กับเชิงทฤษฎี
• หมอแผนไทยเกิดจากการสังเกต กินจริงใช้จริง (เชิงประจักษ์) ได้ผลจดบันทึกบอกต่อๆกัน
• หมอแผนฝรั่งเกิดจากตั้งสมมติฐาน ศึกษา วิจัย ทดลองกับสัตว์ในห้องปฎิบัติการ ทดลองกับคนในคลินิก(เชิงสถิติ) จดสิทธิบัตร
• คนสิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็น”กล้วยหอม” คือ ผิวสีเหลือง แต่ความคิดเป็นฝรั่ง
- ชาวสิงคโปร์นิยมฉีดวัตซีน sinovac sinofarm ของจีนมากกว่าวัคซีนของตะวันตก เหตุผลง่ายๆ “เชิงประจักษ์” ดูจากจีนเป็นตัวอย่าง
- ถ้าจีนไม่เปิดคนนอกเข้าประเทศ เขาควบคุมอยู่ด้วยวัคซีนเชื้อตาย (คือคนตายน้อยมาก)
- รัฐบาลจึงอนุญาตจัดคอนเสิร์ต จัดสวนสนาม เปิดถนนคนเดิน เปิดค้าขายปกติ
• มาตรการควบคุมโรคของจีน
- ให้ความรู้ประชาชนดูแล ป้องกัน รักษาตนเองเป็น
- ใช้เชิงรุกตรวจเฝ้าระวังรวดเร็ว ตรวจง่ายๆลดขั้นตอน ใครเดินผ่านขอตรวจได้เลย รู้ผลทันที จีนมองคนติดไวรัสเป็นพาหะไม่ได้มองเป็นผู้ป่วยจึงให้กักตัวที่บ้าน
- โรงพยาบาลรักษาเฉพาะอาการหนักเท่านั้น (เรียกผู้ป่วย)
ตัวอย่าง
• ชุมชนบริเวณไหน cluster ไหนระบาด รัฐบาลระดมทีมเข้าตรวจแบบสุ่ม (ตอนนี้พบที่ท่าเรือบ่อยมาก เช่น แถวกว่างโจวแต่รัฐจีนควบคุมได้)
- ถ้าตรวจพบจึงตรวจละเอียดเฉพาะจุด รัฐบาลจีนอาศัย app การเงินเอกชนตรวจสอบ time line
• หมอจีนเขาเร่งรักษา ใช้วิชาหมอทั้งสองแผนไม่แบ่งมึงแบ่งกู
- ถ้าเข้าโรงพยาบาลรัฐให้ผู้ป่วยเลือกจะรักษาแผนไหน (ได้พบแพทย์ทุกคน)
- หรือเข้าร้านขายยามาตรฐานของจีน ซื้อยารักษาตนเองได้เลย (มียาจีนครึ่งร้าน ประชาชนจีน 80% เลือกยาจีน)
- คนในบ้าน พากันสูดดมไอน้ำ ดื่มน้ำเยอะไม่ให้ร้อนในป้องกันติดไวรัสจากคนที่ติดมากักตัวในบ้าน (ไม่ใช่นั่งผวา ด่าสิบทิศ ด่าคนแผ่เชื้อ ด่ารัฐบาล ด่าหมอ ด่าเทวดาฟ้าดืน (ทีตี้แป้บ่อ))
• สรุป กรอบคิดของจีนและสิงคโปร์ มันไม่ใช่อยู่เพียงแค่วัคซีนหรอกครับ
1 ให้ความรู้ประชาชนในการรักษาตนเอง ช่วยกันในครอบครัวก่อน สูดดมไอน้ำ ดื่มน้ำมากๆไม่ให้เยี่ยวเหลืองเข้ม นอนมากๆ พูดเข้าใจง่ายไม่ให้ร้อนใน กินยาสมุนไพรอะไรก็ได้ขอให้ขมๆเพื่อลดไข้ ไม่เลือกชนิดพืช เช่น สะดงสะเดา มะระ บอระเพ็ คะน้า ฯ ไม่เลือกยี่ห้อ (จึงไม่เกิดภาวะขาดตลาด ยาราคาแพง) หรือจะกินยาฝรั่งก็ได้ผลเหมือนกัน
2 รัฐมีทีม hot line ทำงานร่วมกับ AI ภาคเอกชนข้อมูลจากมือถือปิดบัง time line ไม่ได้ไม่เสียเวลาซักประวิติ
- เร่งรักษานอกจากไม่ตาย ยังลดการแพร่กระจายด้วย กักตัวที่พักนั้นแหละ (แบบจีน และสิงคโปร์)
- ถ้าหนักค่อยส่งโรงพยาบาล
• เล่ามาเยอะแยะ จะบอกเพียงว่า จีน สิงคโปร์เลือกเชิงประจักษ์มากกว่าเชิงสถิติ
1 ดูผลลัพธ์รักษาหายจริง (ไม่สนใจสถิติในห้องทดลอง)
2 สอนให้ประชาชนรักษาตนเองเป็น (ไม่ใช่ขู่ให้ตกใจ panic)
3 จีน สิงคโปร์ แม้แต่อเมริกา หรือเยอรมัน เขาไม่แบ่งแยกประชาชน ไม่มีชนชั้น ไม่มีสีเสื้อ ไม่มีศาสนา ไม่มีนายกภาคนั้นภาคนี้ เขาถือว่า มีจีนเดียวเสมอภาค ใช้กฎหมายเดียวเสมอชนชาติ (คือ ต่างชาติไม่มียกเว้น ถ้าประชาชนผิดอย่างไร ต่างชาติผิดก็เสมอชนชาติ)
4 ผมรักษาลูกสาว หลานชาย แฟนเพจ หายจำนวนมาก(เชิงประจักษ์)
- ล่าสุดที่แฟนเพจบอกกินยาห้ารากมานานแต่ติดโรคระบาดเข้ากักตัวที่โรงพยาบาล เมื่อวานโทรมาบอก
- สรุปตัวซ้อคนที่กินห้ารากไม่พบเชื้อ ส่วนสามีที่ไม่กินยาห้ารากปอดมีฝ้าขาว
• ที่ผมเขียนทุกวันสอนให้แฟนเพจดูแลตนเอง ให้ความรู้หมอแผนไทย วิชาหมอพื้นบ้าน
- ถ้าท่านไม่ร้อนใจฉี่ไม่เหลืองเข้ม ตาไม่แห้ง ตาไม่แฉะ ปากไม่เหม็น ไม่ขาดน้ำ ไม่นอนดึก โอกาสติดไวรัสน้อยมากครับ
- ยิ่งกินอาหารหรือยารสขม ยิ่งช่วยป้องกันต้านทานไวรัสดีเยี่ยม
- มีมาถาม อาหาร/ยารสเปรี้ยวต้านไวรัสจริงไหม?
- นั้นเป็นวิชาฝรั่ง พวกวิตามินซีต้านหวัดอะไรของเขาผมไม่ลึกซึ้ง (ขอให้ท่านถามเภสัชแผนปัจจุบันข้างบ้านครับ)
- หรือสมุนไพรเดี่ยวตัวนั้นตัวนี้รักษาจริงไหม?
- สมุนไพรเดี่ยวหมอแผนไทยไม่ใช้ครับ (ท่านก็ต้องถามแผนปัจจุบันเช่นกันครับ)
• สมัยผมเด็กๆ เขาจะขายเครื่องตัดไฟฟ้า โฆษณาขู่ ไฟดูดเด็กตาย หรือไฟไหม้บ้าน เป็นเรื่องการตลาด (ปัจจุบันถอดทิ้งหมดแล้วมันใช้ไม่ได้ในชีวิตจริงต้องเฉพาะบ้านสร้างใหม่ ส่วนบ้านเก่าสายไฟเก่าตัดไฟฟ้าเป็นว่าเล่นเครื่องไฟฟ้าพังพินาศหมด ตู้เย็น แอร์)
- ผมไม่ประมาท แต่ผมไม่ประสาทกินเพราะเสพข่าว จริงๆ เท็จๆ
- ผมคิดเองเป็นครับ ผมรักษาลูกสาว รักษาหลานชาย ก็กินยาห้ารากเพียงขนานเดียว (หลานนอนโรงพยาบาลก็กินยารพ.ควบคู่แต่ หลานหายก่อนได้ออกก่อนคนไม่กินห้าราก)
- เด็กๆตั้งใจกินยาทุก 2-3 ชั่วโมง นอนมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ จึงหายเร็ว ทุกวันนี้สองคนนี้รู้วิธีป้องกันตนเองเป็น (ไม่ประสาทหลอน)
- ผมหวังว่าช่วยให้สติ ให้ข้อคิด แฟนเพจไม่มากก็น้อยนะครับ
หมอบวร จันทร์โภคาไพบูลย์
ปล. เคล็ดลับไม่ป่วยง่ายๆ
๑ อ่านได้ใน www.blockdit.com/bowornvej
๒. เพจเพสบุ๊ค “บวรเวชสมุนไพรไทย”
โฆษณา