21 ก.ค. 2021 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“ฮอลลีวู้ด (Hollywood)” ศูนย์กลางภาพยนตร์โลก
“ฮอลลีวู้ด (Hollywood)” คือศูนย์กลางภาพยนตร์ของโลก
2
สถานที่แห่งนี้คือสถานที่ในฝันของนักแสดงแทบทุกคน ต่างมีเป้าหมายในการก้าวสู่ฮอลลีวู้ด
ผมเคยเขียนเรื่องราวของฮอลลีวู้ดเป็นซีรีส์ แต่จะขอนำมาเล่าให้ฟังอีกครั้งอย่างย่อๆ จบในบทความเดียว
ฮอลลีวู้ด ตั้งอยู่ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยหากพูดถึงประวัติของฮอลลีวู้ด ต้องย้อนไปถึงปีค.ศ.1853 (พ.ศ.2396)
ในปีค.ศ.1853 (พ.ศ.2396) ในจุดที่ปัจจุบันคือฮอลลีวู้ด บริเวณนี้คือบริเวณรกร้างที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากกระท่อมหลังเล็กๆ โทรมๆ
1
แต่ในอีก 20 ปีต่อมา บริเวณนี้ก็ได้กลายเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่มีชื่อว่า “หุบคาเฮินก้า (Cahuenga Valley)”
หุบคาเฮินก้า (Cahuenga Valley)
ในปีค.ศ.1883 (พ.ศ.2426) ได้มีนักการเมืองและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ชื่อ “ฮาร์วีย์ เฮนเดอร์สัน วิลคอกซ์ (Harvey Henderson Wilcox)” ได้ย้ายจากแคนซัสมาลอสแอนเจลิส
วิลคอกซ์ได้ซื้อที่ดินทางทิศตะวันตกของฮอลลีวู้ดจำนวน 380 ไร่ และคิดจะทำกิจการเลี้ยงสัตว์
ฮาร์วีย์ เฮนเดอร์สัน วิลคอกซ์ (Harvey Henderson Wilcox)
แต่กิจการเลี้ยงสัตว์ของวิลคอกซ์ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นในปีค.ศ.1887 (พ.ศ.2430) เขาจึงยื่นเรื่องต่อทางการ ขอจัดสรรที่ดินของตน และในไม่ช้า ที่ดินบริเวณนี้ก็เกิดการพัฒนาเป็นชุมชน
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ฮอลลีวู้ดก็มีทั้งที่ทำการไปรษณีย์ ตลาด โรงแรม และสถานที่จำเป็นต่างๆ และในปีค.ศ.1902 (พ.ศ.2445) “เอชเจ วิทลีย์ (H.J. Whitley)” นายธนาคารและเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ก็ได้เข้ามาในฮอลลีวู้ด
วิทลีย์ได้เข้ามาเปิดโรงแรมในฮอลลีวู้ด และทำการพัฒนาที่ดินบริเวณนี้ให้เป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น และช่วยสนับสนุนด้านเงินทุนในการสร้างธนาคาร อีกทั้งยังช่วยในการนำไฟฟ้าเข้ามายังฮอลลีวู้ด
1
เอชเจ วิทลีย์ (H.J. Whitley)
ฮอลลีวู้ดกำเนิดอย่างเป็นทางการในปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446) ก่อนจะรวมกับลอสแอนเจลิสในปีค.ศ.1910 (พ.ศ.2453)
สำหรับที่มาของชื่อ “ฮอลลีวู้ด (Hollywood)” ก็ยังคงเป็นที่โต้แย้งกันอยู่
บ้างก็ว่าเป็นชื่อเมืองในโอไฮโอ ซึ่งวิลคอกซ์ได้นำมาตั้งเป็นชื่อคอกสัตว์ของตน แต่บ้างก็ว่าวิทลีย์เป็นคนคิดชื่อนี้ออกขณะไปฮันนีมูนกับภรรยา
1
แต่ไม่ว่าที่มาของชื่อคืออะไร แต่ฮอลลีวู้ดก็ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ทุกขั้นตอนในฮอลลีวู้ด คือภาพยนตร์ในปีค.ศ.1908 (พ.ศ.2451) เรื่อง “The Count of Monte Cristo” ถึงแม้ว่าโลเคชั่นในการถ่ายทำส่วนใหญ่จะไม่ใช่ที่ฮอลลีวู้ดก็ตาม
ส่วนภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในฮอลลีวู้ดตลอดทั้งเรื่อง คือภาพยนตร์สั้นที่ออกฉายในปีค.ศ.1910 (พ.ศ.2453) เรื่อง “In Old California”
1
The Count of Monte Cristo (1908)
In Old California (1910)
ภายในปีค.ศ.1911 (พ.ศ.2454) สตูดิโอภาพยนตร์แห่งแรกก็ได้เข้ามาตั้งในฮอลลีวู้ด และภายในปีค.ศ.1915 (พ.ศ.2458) บริษัทภาพยนตร์หลายแห่งก็ย้ายมาตั้งในฮอลลีวู้ด
ฮอลลีวู้ดนั้นเป็นสถานที่ๆ เหมาะสำหรับการสร้างภาพยนตร์ เนื่องด้วยข้อกฎหมายหลายๆ อย่าง อีกทั้งอากาศก็ดี เหมาะที่จะใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์
ส่วนป้ายฮอลลีวู้ดอันโด่งดังนั้น เดิมทีเป็นเพียงป้ายโฆษณาธรรมดา โดยในทีแรก เขียนว่า “ฮอลลีวู้ดแลนด์ (Hollywoodland)”
1
ป้ายนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1923 (พ.ศ.2466) โดยมีค่าก่อสร้างอยู่ที่ 21,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 630,000 บาท) และติดตั้งหลอดไฟไว้ภายในกว่า 4,000 ดวง
ฮอลลีวู้ดแลนด์ (Hollywoodland)
เดิมทีนั้น กำหนดให้ป้ายนี้ตั้งอยู่เพียงหนึ่งปีครึ่ง จากนั้นก็จะมีการรื้อถอน หากแต่ในเวลาต่อมา ป้ายนี้ก็ได้กลายเป็นไอคอน เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งดินแดนนี้
ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ป้ายฮอลลีวู้ดแลนด์ก็อยู่ในสภาพที่เสียหาย แต่ก็ได้รับการปรับปรุงในปีค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) โดยมีการเอาคำว่า “แลนด์ (Land)” ออก และกลายเป็นป้ายฮอลลีวู้ดที่หลายคนคุ้นตาจนถึงทุกวันนี้
ในเวลาต่อมา คือ “ยุคทองของฮอลลีวู้ด (The Golden Age of Hollywood)” เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ นำความยิ่งใหญ่มาสู่วงการภาพยนตร์และดารา
1
ในเวลานั้น สตูดิโอภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพล และเป็นที่รู้จักในนามของ “ยักษ์ใหญ่ทั้งห้า” ได้แก่ “Warner Brothers” “RKO” “Fox” “MGM” และ “Paramount”
ยักษ์ใหญ่ทั้งห้า
ยุคทองของฮอลลีวู้ดเริ่มต้นจากภาพยนตร์เงียบหลายๆ เรื่อง โดยที่โดดเด่นในยุคสมัยนี้ ก็คือภาพยนตร์เรื่อง “The Birth of a Nation” กำกับโดย “ดีดับเบิลยู กริฟฟิท (D.W. Griffith)” ซึ่งออกฉายในปีค.ศ.1915 (พ.ศ.2458) และภาพยนตร์ตลกของ “ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin)”
The Birth of a Nation
ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin)
ในเวลาต่อมา เริ่มมีการนำภาพยนตร์เสียงมาฉาย ทำให้ความนิยมในภาพยนตร์ยิ่งเพิ่มขึ้น มีการสร้างภาพยนตร์หลายแนว ทั้งหนักรัก หนังแอ็คชั่น หนังสยองขวัญ
ดาราภาพยนตร์ต่างก็โด่งดังและร่ำรวย และฮอลลีวู้ดก็กลายเป็นดินแดนแห่งความหรูหรา
เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1 สตูดิโอต่างๆ ก็ได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อ ภาพยนตร์ปลุกใจ ซึ่งล้วนแต่เป็นคำสั่งของรัฐบาล เหล่าดาราก็ต้องช่วยโปรโมทแนวคิดของรัฐบาล
เมื่อเข้าสู่ยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) ฮอลลีวู้ดก็เข้าสู่ยุครุ่งเรืองสุดขีด และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับจากคนดูเป็นอย่างดี
1
มีการประเมินว่าในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ชาวอเมริกันก็ยังไปดูภาพยนตร์สูงถึงสัปดาห์ละ 80 ล้านคน
ในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) เป็นช่วงเวลาที่ภาพยนตร์ระดับตำนานเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Gone With the Wind” “The Wizard of Oz” หรือ “Dracula”
ตัวอย่างภาพยนตร์ดังในยุค 30
แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ก็ต้องช่วยสร้างภาพยนตร์โปรปากันด้า โฆษณาชวนเชื่อให้กับรัฐบาล ไม่ต่างอะไรจากตอนสงครามโลกครั้งที่ 1
การถ่ายทำภาพยนตร์ก็ลำบาก กองถ่ายไม่สามารถไปถ่ายที่ทะเลหรือใกล้กับฐานทัพทหาร อีกทั้งเวลากลางคืน ก็ไม่สามารถออกมาถ่ายทำนอกสถานที่
1
ในปีค.ศ.1948 (พ.ศ.2491) ศาลสูงได้ออกคำพิพากษา ไม่อนุญาตให้สตูดิโอภาพยนตร์ ครอบครองโรงภาพยนตร์ที่ฉายเฉพาะภาพยนตร์ของค่ายตน และนี่คือจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดยุคทองของฮอลลีวู้ด
1
คำพิพากษานี้ ทำให้ยักษ์ใหญ่ทั้งห้าซึ่งเคยครองโรงภาพยนตร์จำนวนมาก ต้องขายโรงภาพยนตร์ของตน ทำให้อำนาจเริ่มลดลง
นอกจากนั้น ในยุคนี้ ยังเริ่มมีการนำระบบเซนเซอร์ภาพยนตร์เข้ามาใช้ ทำให้ภาพยนตร์ต่างๆ มีการตรวจสอบก่อนออกฉาย
ในยุค 50 (พ.ศ.2493-2502) โทรทัศน์คือสิ่งที่คนกำลังนิยม และบดบังความเจิดจรัสของโลกภาพยนตร์ ทำให้ภาพยนตร์ที่ผลิตมีแนวโน้มลดลง ภาพยนตร์หลายๆ เรื่องก็ทำรายได้ไม่ดีอย่างที่คาด
แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงมีอยู่ และกลับมาได้รับความนิยมในยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) ซึ่งเป็นช่วงเวลาของสงครามเย็น
ในช่วงสงครามเย็น มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ และวงการฮอลลีวู้ดก็โดนด้วยเช่นกัน โดยคนในวงการภาพยนตร์กว่า 40 คนถูกสงสัย และต้องเข้าชี้แจงความบริสุทธิ์
1
และถึงแม้ฮอลลีวู้ด จะดูมีภาพลักษณ์ที่สวยงาม หากแต่ก็มีด้านมืด
คนหนุ่มสาวจำนวนมาก ต่างมุ่งที่จะเข้ามาสร้างชื่อในฮอลลีวู้ด หากแต่โอกาสนั้นมีเพียงน้อยนิด
หลายรายยอมทุ่มเงินเก็บไปเรียนการแสดง หรือจ่ายให้กับนายหน้าต่างๆ และเมื่อไม่สำเร็จ เงินก็ไม่เหลือ หลายคนก็หมดตัว กลายเป็นคนไร้บ้าน
บางคนก็หันหน้าไปพึ่งยาเสพติด บางคนก็ขายตัวหรือเข้าสู่วงการหนังโป๊
นอกจากนั้น ในฮอลลีวู้ด ยังมีกรณีล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ต่อมา ตั้งแต่ยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) ถึงยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) คอมพิวเตอร์เอฟเฟคท์เริ่มมีบทบาทในการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์ดังในยุคนี้ก็มีหลายเรื่อง เช่น “Star Wars” “Jaws” หรือ “E.T.”
1
ตัวอย่างภาพยนตร์ดังในยุค 70 และ 80
ในยุค 90 (พ.ศ.2533-2542) ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์เริ่มลดลง เนื่องจากการเข้ามาของวีดีโอ ตามมาด้วยดีวีดี ก่อนที่ในยุค 2000 (พ.ศ.2543-2552) ภาพยนตร์จากค่าย Disney เริ่มจะมีจำนวนมากขึ้น และกินส่วนแบ่งตลาดเป็นจำนวนมาก
ในยุคปัจจุบัน เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย ประกอบกับภาวะของโรคระบาดโควิด-19
วงการภาพยนตร์โดยเฉพาะฮอลลีวู้ดคงต้องมีการปรับตัวอีกครั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไร ฮอลลีวู้ดก็ยังคงเป็นสถานที่ๆ เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเข้าไปสัมผัสซักครั้งในชีวิต
โฆษณา