19 ก.ค. 2021 เวลา 17:17 • ความคิดเห็น
ต่างจังหวัดกับการนั่งแท็กซี่
เมื่อประมาณ 7 ปีก่อนจังหวัดของผมเริ่มมีการเปิดให้บริการ รถโดยสารที่ต่างออกไปจาก รถสองแถว รถเมล์ คือการให้บริการรถแท็กซี่ มันดูแปลกใหม่มากสำหรับคนจังหวัดนี้ ด้วยประชากรส่วนใหญ่มีรถและรถจักรยานยนต์เป็นของตน รถสองแถว และรถเมล์เริ่มหมดความนิยนในการใช้บริการ เมื่อมีคนเรียกรถแท็กซี่โดยผ่านการโทรจากศุนย์บริการ ไม่มีการโบกรถตามถนนแล้วจะได้
เมื่อมีคนเรียนกแท็กซี่ แล้วรถเข้ามารับที่บ้านจะเต็มไปด้วยสายตาของคนทั้งหมู่บ้าน ที่สายตานั้นมองตามรถไป ว่าข้างในรถนั้นเป็นใครกัน
ด้วยค่าบริกาที่เริ่มต้น 40 บาท มันอาจแพงในสายตาของคนบ้างคน ทำให้ตอนเริ่มมีการเปิดให้บริการภาพลักษณ์ของคนบ้างคนดูว่าเป็นพวกคนไฮโซ ที่ใช้บริการ
แต่สำหรับครอบครัวผมที่เรามีกัน 3 คนกับรถจักรยานยนต์ 1 คัน การบริการแท็กซี่มันจำเป็นมากๆ ทั้งเราสามารถขึ้นรถโดยไม่โดนตำรวจเรียกเพราะ ซ้อน3 หรือไม่มีใบขับขี่ และรวมไปถึงการการเดินทางที่นอกเหนือเวลา 6 โมงเย็นที่จะเป็นเวลาการหยุดให้บริการ รถสองแถวและรถเมล์
บ้านผมใช้บริการหลายครั้งมาก ทั้งการออกเดินทางไปเข้าค่ายที่โรงเรียนนัดเที่ยงคืนรวมตัวกันที่โรงเรียน ซึ่งแม่ผมไม่สามารถขี่รถจักรยานยนคนเเดียวได้รวมไปถึงพี่าวที่ อาจเกิดเหตุร้ายได้สำหรับการเดินทางในช่วงดึก หรือการไปกินหมูกระทะ
แต่เมื่อทุกครั้งที่เรียกแท็กซี่ ด้วยซอยบ้านผมที่มีแต่บ้านผมที่ใช้บริการเพราะคนในซอยส่วนใหญ่มีรถยนต์ใช้ในการเดินทาง และการที่บ้านผมอยู่ในซอยเกือบหลังสุดท้าย แล้วรถออกจากซอยก็จะเห็นสายตาของคนในซอย ที่คิดและเดาว่าเรา3คนกำลังจะไปไหนกัน พวกเรา3คนพยายามหลบสายตานั้น อาจเป็นการไม่ชิดสายตาสำหรับคนธรรมดาอย่างครอบครัวเราที่ฐานะไม่เหมาะกับการนั่งแท็กซี่ ของคนในซอย
แต่ปัจจุบันมันต่างจากเดิมมาก รถเมล์ยกเลิกการให้บริการ เหลือเพียงรถสองแถวกับรถม่วงที่ยังคงการให้บริการ แต่กว่าจะมาแต่ละครั้งนานมาก เคยรอนานสุด 1 ชม เพราะคนใช้บริการน้อยกว่าเดิมมาก การที่เด็กสมัยนี้แทบทุกคนเหมือนข้ามผ่านการขี่จักรยานไปสู่รถจักรยานยนต์เลย ผมยังจำช่วงเวลาที่ที่ตอนไปเรียนพิเศษที่ต้องโดยสารรถสาธารณะ
รถแท็กซี่เลยเป็นปัจจัยหนึ่งสำหรับคนต่างอำเภอที่เหมารถไปรักษาที่โรงพยาบาล ผมห็นรถแท็กซี่เข้าออกโรงพยาบาลถี่มาก กลับกายรถแท็กซี่เป็นการใช้บริการสำหรับคนที่ไม่มียานพาหนะ
(การไม่มียานพาหนะ หรือการขับยานพาหนะไม่เป็น)
โฆษณา