• สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจากอะไร?
สงครามโลกครั้งที่ 1 (World War One) คือหนึ่งในเหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ โดยสงครามได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม 1914 และไปสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน 1918
สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ส่งผลให้มีทหารล้มตายมากกว่า 17 ล้านคน นับเป็นจุดหักเหสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์โลก
โดยส่วนใหญ่แล้ว หลายคนอาจจะทราบมาก่อนแล้วว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น มีที่มาจากเหตุการณ์การลอบปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Archduke Franz Ferdinand) องค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เมื่อปี 1914
แต่นั้นก็ไม่ใช่เป็นเพียงสาเหตุเดียว ที่ก่อให้เกิดมหาสงครามในครั้งนี้ ดังนั้นสำหรับบทความนี้ ผู้เขียนจะขอนำเสนอ 5 สาเหตุสำคัญ ที่เป็นต้นเหตุของมหาสงครามในครั้งนี้...
• พันธมิตรทางการทหาร (Military Alliance)
ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ในทวีปยุโรปเกิดสภาวะของความขัดแย้ง และหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ส่งผลให้เหล่าชาติมหาอำนาจต่างแสวงหาพันธมิตร เพื่อหาผลประโยชน์ร่วมกัน
โดยตัวอย่างกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่สำคัญนั้น ประกอบไปด้วย กลุ่มไตรภาคี (Triple Entente) ซึ่งประกอบด้วย จักรวรรดิอังกฤษ, ฝรั่งเศส และจักรวรรดิรัสเซีย และกลุ่มไตรพันธมิตร (Triple Alliance) อันประกอบไปด้วย จักรวรรดิเยอรมนี, จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี (แต่ในเวลาต่อมา อิตาลีได้ถอนตัวจากไตรพันธมิตร)
โดยทั้ง 2 กลุ่มนั้น ต่างเป็นรากฐานสำคัญของฝ่ายสัมพันธมิตร (Alliance : มาจากไตรภาคี) และฝ่ายมหาอำนาจกลาง (Central Powers : มาจากไตรพันธมิตร) ในสงครามโลกครั้งที่ 1
• ลัทธิจักรวรรดินิยม (Imperialism)
จักรวรรดินิยม คือแนวคิดทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการล่าอาณานิคม โดยบรรดาชาติมหาอำนาจของยุโรป ต่างเข้ายึดครองดินแดนในส่วนต่าง ๆ ของโลก เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของชาติตนเอง
ชาติมหาอำนาจเหล่านี้ ต่างพากันกอบโกยทรัพยากรและแสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง การล่าอาณานิคมครั้งสำคัญ เกิดขึ้นทั้งในทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย การแก่งแย่งชิงดีของบรรดาเจ้าอาณานิคมนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของมหาสงคราม
• ลัทธิทหารนิยม (Militarism)
การช่วงชิงอำนาจของเหล่ามหาอำนาจในยุโรป ทำให้ชาติต่าง ๆ ทำการสะสมอาวุธและกำลังทหารไว้ เพื่อใช้ในการข่มขู่, การป้องกันและตอบโต้การกระทำของชาติศัตรู รวมไปถึงแสดงถึงแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ของชาติตนเอง
โดยการแข่งขันด้านอาวุธและทหารครั้งสำคัญ ตัวอย่างเช่น การแข่งขันด้านอุตสาหกรรมและกองทัพเรือ ระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี เป็นต้น
• ลัทธิชาตินิยม (Nationalism)
ชาตินิยม คือแนวคิดทางการเมืองที่เชื่อว่า เชื้อชาติของตนเองนั้นมีความยิ่งใหญ่และอยู่เหนือกว่าชนชาติของศัตรู ลัทธิชาตินิยมทำให้เกิดความรักชาติ และนำไปสู่การรวมกันของคนที่มีเชื้อชาติเดียวกันเพื่อก่อตั้งประเทศ แต่ชาตินิยมยังก่อให้เกิดความเกลียดชังและความขัดแย้งได้ด้วย
ตัวอย่างสำคัญของปัญหาที่เกิดจากแนวคิดชาตินิยมนี้ ตัวอย่างเช่น ปัญหาในดินแดนบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina) กล่าวคือ เดิมดินแดนแห่งนี้เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวสลาฟ (Slav) แต่ในเวลาต่อมาดินแดนบอสเนียฯ ได้ถูกยึดครองโดยจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
ส่งผลให้ชาวสลาฟในบอสเนียฯ ได้ต่อต้านทางการออสเตรียฯ ความไม่พอใจนี้ยังรวมไปถึงชาวสลาฟในเซอร์เบีย ที่ไม่ต้องการให้คนเชื้อชาติเดียวกันกับตน ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองชาติอื่น ส่งผลให้ชาวสลาฟหัวรุนแรงกลุ่มหนึ่ง ได้ก่อตั้งกลุ่มหัตถ์ทมิฬ (Black Hand) เพื่อก่อความรุนแรงและต่อต้านออสเตรียฯ ในดินแดนบอสเนียฯ
• การลอบสังหาร อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์
(Assassination of Archduke Franz Ferdinand)
จากปัญหาที่กล่าวมาทั้ง 4 ข้อนี้ ส่งผลให้ทวีปยุโรปอยู่ในสภาวะพร้อมระเบิดสงครามอยู่ทุกชั่วขณะ
และจุดหักเหสำคัญที่มหาสงครามเริ่มต้นขึ้น ก็คือ เหตุการณ์การลอบสังหาร อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Archduke Franz Ferdinand) รัชทายาทของจักรวรรดิออสเตรียฯ และพระชายาโซฟี (Sophie) ที่เมืองซาราเยโว (Sarajevo) ในบอสเนียฯ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1914 โดยฝีมือของกัฟรีโล ปรินซิป (Garvrilo Princip) ชาวสลาฟหัวรุนแรง ผู้เป็นสมาชิกของกลุ่มหัตถ์ทมิฬ
การลอบสังหารครั้งนี้ ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งยุโรป จักรวรรดิออสเตรียฯ ได้กล่าวหาว่าเซอร์เบียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำในครั้งนี้ โดยได้ส่งข้อเรียกร้องต่างๆ ไปให้กับทางเซอร์เบีย แต่ด้วยความไม่เป็นธรรมในข้อเรียกร้อง ทำให้เซอร์เบียปฏิเสธข้อเรียกร้องของออสเตรียฯ
ส่งผลให้จักรวรรดิออสเตรียฯ ประกาศสงครามกับเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 1914 ซึ่งในเวลาต่อมา จากสงครามระหว่าง 2 ชาตินี้ จะกลายสภาพเป็นมหาสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในท้ายที่สุด...
#HistofunDeluxe
- 23
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
