24 ก.ค. 2021 เวลา 00:00 • ความคิดเห็น
ในห้วงยามที่โลกกำลังวุ่นวายอย่างนี้ จะระลึกถึงวลีหนึ่ง
"น้ำครึ่งแก้ว"
2
ทุกคนคงเข้าใจความหมายของมันดี มันแปลว่าคนเรามีวิธีมองโลกสองทาง
มองดีหรือมองร้าย
บางคนอาจถาม แล้วมันต่างกันยังไง? ในเมื่อมีน้ำครึ่งแก้วจริงๆ มองดีแล้วจะทำให้น้ำเต็มแก้วขึ้นมาหรือ? ก็ไม่
จะมีน้ำครึ่งแก้ว เต็มแก้ว หรือไม่มีน้ำในแก้วไม่ใช่ประเด็นอะไร เพราะบางคนต่อให้เห็นน้ำเต็มแก้ว ก็ยังมองเป็นเรื่องร้ายจนได้
2
นี่เป็นเรื่องของทัศนคติ (attitude) ต่างหาก เช่นที่ผมบอกเสมอว่า ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต สำคัญกว่าฐานะ ชื่อเสียง เงินทอง
2
ทัศนคติที่ดีจะทำให้เราไม่จมอยู่ในความทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาเอง (จำที่เคยบอกได้นะว่า เราเป็นคนปรุงแต่งทุกข์เอง) ทำให้เราไม่จมในความมืดนาน ทำให้เรามีเวลาไปขบคิดทางแก้ไข
4
เมื่อมองส่วนว่างเปล่าของแก้ว ก็จะบ่น ด่า คิดแต่เรื่องไม่ดี ไม่สบายใจ ใช้พลังงานและเวลา 95 เปอร์เซ็นต์ไปกับการบ่น อีก 5 เปอร์เซ็นต์ไปหาหมอโรคหัวใจ
1
เมื่อมองส่วนที่มีน้ำของแก้ว ก็จะใจชื้นขึ้นนิด มีความหวัง และมีสติไปแก้ไขปัญหาจริง
จะเห็นว่าทัศนคติ 'มีน้ำเหลือตั้งครึ่งแก้ว' นั้นไม่ใช่เรื่องดัดจริตหรือ 'โลกสวย' แต่มันคุ้มกว่าเห็นๆ ในเรื่องเวลา อารมณ์ และการบรรลุจุดหมาย
สิ่งที่เรียกว่า 'เรื่องเลวร้าย' ส่วนใหญ่ในโลกเป็นเรื่องของทัศนคติล้วนๆ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ 'เลวร้าย' บางคนทุกข์ธรรมดา บางคนทุกข์มาก บางคนทุกข์แล้วก็อยากให้คนอื่นทุกข์ด้วย เครียดตามไปด้วย แล้วลงท้ายด้วยไม่มีการแก้ปัญหา ไม่เกิดอะไรขึ้น
3
หลังจากนั้นก็บ่นด่ารอบ 2 รอบ 3 ต่อไป และใช้เวลาไปหาหมอโรคหัวใจมากขึ้น
ส่วนบางคนก็ก้มหน้าแก้ปัญหาไป เพราะเชื่อว่าปัญหาไม่ได้มีไว้แบก
เพราะเชื่อว่าต่อให้เป็นก้อนสำลีเบาหวิว ถือไว้นานเกินไป มันก็เมื่อย
1
เพราะเชื่อว่าเรามองไม่เห็นสีสันของดอกไม้ในความมืด
3
และไม่ลืมที่จะถามตัวเองเป็นระยะว่า "คุณเป็นส่วนหนึ่งของ solution หรือส่วนหนึ่งของ problem?"
[ติดตามข้อเขียนของ วินทร์ เลียววาริณ ได้ทุกวันที่เพจ https://bit.ly/3amiAvG และ blockdit.com]
โฆษณา