เมื่อใครๆ ก็ไปเวียดนาม
เมื่อวานได้อ่านข่าวตัวเลขเม็ดเงิน Foreign Direct Investment (FDI) หรือการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ในปี 2020 ของประเทศเวียดนาม ติดลำดับ Top 20 ของทุกประเทศในโลกเป็นครั้งแรก
โดยตัวเลขเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 19 จาก 20
ซึ่งจริงๆ แล้วปีที่แล้ว เป็นช่วงที่โควิด ช็อคเศรษฐกิจโลก
ประเทศในอาเซียนนั้น มีตัวเลข FDI ที่ลดลง 25% ในขณะที่ทั่วโลก FDI ลดลง ถึง 35%
ในขณะที่สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีตัวเลข FDI ที่ลดลง 21% และ 22% แต่เวียดนามยังแข็งแกร่ง ลดลงเพียง 2% เท่านั้น
แล้วหากถามว่าประเทศไทยไปอยู่ตรงไหน ก็ต้องบอกว่า จากข้อมูลของ UNCTAD ตัวเลข FDI ของไทยปีที่ผ่านมา อยู่ที่ -6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สาเหตุที่ตัวเลขติดลบ ก็เพราะกลุ่ม TESCO ขายห้างคืนให้เจ้าสัว ซีพี ด้วยมูลค่ากว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
หากตัดผลกระทบเรื่อง TESCO ตัวเลข FDI ของไทยเมื่อปีที่ผ่านมาก็จะอยู่แค่เพียง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพียง 1 ใน 4 ของเวียดนามเท่านั้น
อาจมีคำถามต่อว่า อ้าวก็ยอด FDI ของเวียดนาม เพิ่งโตขึ้นมารึเปล่า
หากลองไปดูตัวเลข FDI 6 ปีย้อนหลัง (หน่วย พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)
ปี…………เวียดนาม…….ไทย
2015……..11.8………….5.6
2016……..12.6…………2.5
2017………14.1…………7.9
2018……..15.5………..11.1
2019……..16.2….……..3.1
2020…….15.8………..-6.1
ดูแนวโน้มก็ต้องบอกว่าใช่ คือเวียดนาม เค้าโตจริง ส่วนไทยเราก็รักษาระยะห่างจากเวียดนาม ได้สม่ำเสมอเช่นกัน
อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าไทยเราก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีชั้นสูง และอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็รับจ้างผลิต ซึ่งก็ต้องอาศัยเงินลงทุน (FDI) จากต่างชาติ
เมื่อต่างชาติไม่ค่อยอยากมา จะให้เศรษฐกิจเราโตได้ยังไง
และบริษัทใหญ่ๆ ของไทย หลายๆ บริษัทก็ปักหมุดไปลงทุนที่เวียดนามกันมาซักพักแล้ว
แอดมินเอง ก็เคยได้ไปทำงานและพูดคุยกับคนเวียดนาม ซึ่งต้องบอกว่าสัมผัสได้ถึงความสามารถ และความขยันของคนเวียดนาม แตกต่างจากคนประเทศอื่นๆ ที่เคยเจอมา
และด้วยค่าแรงที่ถูกและคนเวียดนามขยันมากจริงๆ อีกทั้งจำนวนประชากรที่มากกว่าไทยและอายุเฉลี่ยยังน้อยอยู่ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ ณ วันนี้ ใครๆ ก็มุ่งไปสู่เวียดนาม
สำหรับธุรกิจไทยที่ยังทำตลาดเฉพาะในประเทศไทย อนาคตอาจจะอยู่ยาก
เราคงต้องมองไปถึงการผลิตสินค้าหรือให้บริการ ให้ครอบคลุมประเทศเพื่อนบ้าน อย่างน้อยๆ ก็ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนม่า และประเทศที่มาแรงสุดๆ อย่าง เวียดนาม
ซึ่งเมื่อโลก และเวลากำลังเดินไปสู่อนาคต (ที่อาจไม่ใช่ไทย)
เราก็คงต้องเลือก ว่าจะอยู่ฝั่งไหน ระหว่างการหลอกตัวเอง ว่า “เราต้องชนะ” หรือการยอมรับจุดอ่อน ปรับตัว และเสริมจุดแข็ง
และ ที่สำคัญคือ การเลือก #อยู่ข้างเวลา
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
