21 ก.ค. 2021 เวลา 07:15 • ปรัชญา
เรียนออนไลน์ ไม่ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ...
การนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน วันละ 7-8 ชม. ทำให้รู้สึกได้ว่าใช้สายตาเยอะกว่าเล่นโทรศัพท์ตามปกติ แล้ววันไหนเรียนไม่ทันก็ต้องกลับมาทวนคลิปสอน ซึ่งความยาวคลิปอย่างต่ำคือ 1 ชม. แต่ก็ไม่ได้มีแค่คลิปเดียว วันหนึ่งเรียน 3 วิชาก็เป็น 3 คลิป ใช้เวลา 3 ชม.เป็นอย่างน้อย การเรียนออนไลน์ 7-8ชม. ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆอีก การใช้งานหนักๆ ต่อกันหลายๆวัน ใช้งานขณะชาร์จ ทำให้เครื่องร้อน ไม่นานก็อาจจะพังได้ อาจจะต้องเสียเงินซ่อมอีก
นอกจากเรื่องตาล้าแล้ว ยังมีอาการปวดคอ ปวดหลังเข้ามาแจม เนื่องจากว่าโต๊ะ เก้าอี้ที่นั่งเรียน ไม่ได้รองรับสรีระของเรา เมื่อนั่งนานๆก็มีปวดหลัง ปวดคอ หาไอเทมมาช่วยก็ลดไปได้บ้างแต่ไม่ได้หายไป
พอเรียนคาบต่อกัน ก็ต้องรีบออกจากห้องหนึ่ง เพื่อไปเข้าอีกห้องหนึ่ง เวลาระหว่างเปลี่ยนคาบจะขอไปเข้าห้องน้ำก็กลัวจะโดนเรียก ช่วงเวลาพักกลางวันสุดแสนจะสั้น ผลจากคาบก่อนพักปล่อยช้า แล้วคาบหลังพักอาจารย์เข้าสอนเร็ว เวลาพักเลยเหลือไม่กี่นาที การที่เราจะลุกจากเก้าอี้ออกไปหาข้าวกินก็กลัวจะออกไปเสี่ยงกับไวรัส จะสั่งเดลิเวอรี่เข้ามาก็ไม่รู้จะมาส่งทันหรือเปล่า มาส่งทันหรือออกไปซื้อกลับมาทัน จะมีเวลากินไหม หรือจะนั่งเรียนไปกินไป สมาธิก็คงจะไม่ได้จดจ่อกับที่อาจารย์สอนแน่ๆ หรือถ้าจะไม่กินเลยก็มีจะปัญหาเรื่องท้องไส้ตามมา
การเรียนออนไลน์ ทำให้ไม่ได้ออกไปไหน ก็เลยเจอแต่สภาพแวดล้อมเดิมๆ โต๊ะเขียนหนังสือ หน้าจอzoom, google meet เรียนก็ยังไม่รู้เรื่อง การบ้านก็มี งานต้องทำส่งก็เยอะ ไหนจะเรียนจากคลิปอีก เด็กมันจะมีความสุขไหมอะ เรื่องอื่นๆ ข่าวสารบ้านเมือง รอบๆตัว มันก็หดหู่ไปหมด
...ทั้งหมดเป็นแค่มุมมองของ #นักศึกษาคนหนึ่ง ถ้าลองมองในมุมของอาจารย์ หรือของนักศึกษาคนอื่นๆ ก็คงจะมีปัญหาไม่ต่างกัน
โฆษณา