ย้อนอดีตวันที่น้องเมย์ รัชนก ขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ โดนแบน เหตุเพราะอยากไปเลือกตั้ง
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงนักกีฬาคนไทยสักคน ที่เป็นขวัญใจคนไทย เมย์-รัชนก อินทนนท์ จะเป็นชื่อแรกๆ ที่คนนึกถึง
น้องเมย์ มีคุณสมบัติทุกอย่างที่ทำให้คนหลงรัก เธอเป็นคนไทยคนแรก ที่ก้าวเป็นมือหนึ่งของโลกได้ ในประเภทเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นในกีฬาประเภทใดก็ตาม
แถมเธอยังเป็นนักแบดมินตันหญิงที่คว้าแชมป์โลกด้วยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ (18 ปี)
ไม่ใช่แค่ฝีมือที่มหัศจรรย์เท่านั้น แต่น้องเมย์ ยังมีกิริยามารยาทเรียบร้อย เวลาแข่งขันเธอยกมือไหว้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนทำความสะอาด ซึ่งทำให้ชาวโลกทึ่งไปเลยว่า เด็กคนไทยคนนี้ อะไรจะน่ารักขนาดนั้น
จากนั้นพอน้องเมย์ดัง สื่อมวลชนไปสืบค้นประวัติ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนชอบเข้าไปใหญ่ เพราะเธอเกิดในครอบครัวที่ยากจน ไม่มีต้นทุนอะไรเลยสักอย่าง พ่อแม่เป็นพนักงานในโรงงาน และน้องเมย์ก็โตมากับการเล่นกับเด็กๆ ลูกคนงานด้วยกันนั่นแหละ
ตอนน้องเมย์ 6 ขวบ โรงงานขนมไทย บ้านทองหยอด มีความเข้มงวดขึ้น และไม่ให้เด็กมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆกับ พื้นที่โรงงาน ทำให้เด็กๆ ต้องไปรวมตัวกันที่คอร์ตแบดมินตันใกล้ๆ จากจุดนั้นเอง น้องเมย์ก็เลยรู้จักแบดมินตัน ค่อยๆ นับหนึ่งจากตรงนั้น
แม้พ่อแม่จะเป็นคนยากจน แต่พวกเขาก็ทำงานหนักและอดทน ซึ่งจุดนี้เอง น้องเมย์ก็ได้ซึมซับข้อดีจากคุณพ่อ คุณแม่มาด้วย เวลาเธอฝึกฝนแบดมินตัน เธอจึงมีความมุ่งมั่นยิ่งกว่าเด็กทั่วไป เพราะเธอรู้ดีว่า ความขยัน จะเป็นหนทางให้ประสบความสำเร็จ และเธออาจจะทำให้พ่อแม่สบายก็ได้
เราจะเห็นเลยว่า เมื่อพูดถึงน้องเมย์ ไม่มีมุมไหนเลยที่คุณจะไปเกลียดเธอได้ เธอเป็นคนเก่ง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ มีมารยาท ยิ่งการเติบโตในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีต้นทุนมากมาย ยิ่งอยากให้เราเอาใจช่วยเธอให้ประสบความสำเร็จได้ไกลที่สุด
อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่ ว่าคนอย่างเมย์-รัชนก ครั้งหนึ่งก็เคยโดนคนด่าว่าโง่ และรุมสาปแช่งมาแล้ว
ย้อนกลับไปวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ประกาศยุบสภา หลังจากโดนกลุ่ม กปปส. กดดันอย่างหนัก กับเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง และประเด็นจำนำข้าว
ในวันนั้นสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. นัดรวมพลใหญ่เพื่อไปยึดทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 09.39 น. แต่ก่อนจะถึงเวลานัดหมาย นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชิงยุบสภาก่อน และประกาศการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไม่สามารถทำได้โดยง่าย กล่าวคือกลุ่มกปปส. รณรงค์โดยใช้คำว่า "ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง" คือในมุมของ กปปส. มองว่า ถ้าไม่ปฏิรูปอะไรสักอย่าง ฝั่งเพื่อไทย และตระกูลชินวัตรก็จะวนมาปกครองประเทศอีกครั้ง ดังนั้นยุบสภาไป เลือกตั้งใหม่ ก็ไม่ใช่ทางออกที่ตัวเองคาดหวังจะให้เกิดอยู่ดี
ฝั่งฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิรูปการเลือกตั้งอย่างแท้จริงได้ จึงคว่ำบาตร ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า พวกเขาก็รู้นั่นแหละ ว่าถ้าลงเลือกตั้งอีกก็แพ้อีกแน่ๆ
เมื่อถึงวันเลือกตั้ง แผนการของกลุ่มกปปส. คือทำทุกอย่าง ไม่ให้การลงคะแนนเสียงเกิดขึ้นได้เพื่อล้มการเลือกตั้ง มีทั้งการบีบคอผู้มาใช้สิทธิ์ ฉกหีบบัตร และล็อกกุญแจเข้าคูหา นอกจากนั้นยังด่าทอคนที่ไปเลือกตั้งในวันนั้นอีกด้วยว่าไม่ฉลาด ไม่เข้าใจเหตุบ้านการเมืองเอาซะเลย
เซเล็บหลายคน ไม่อยากเจ็บตัว ก็เพลย์เซฟไม่ไปเลือกตั้งก็ได้ อย่างไรก็ตามคนที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้สื่อมวลชน คือน้องเมย์ - รัชนก นี่แหละ เพราะเธอเข้าคูหา ไปเลือกตั้งตามปกติ โดยให้เหตุผลว่า เธออยากใช้สิทธิ์ของตัวเอง กล่าวคือใครไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป แต่เธออยากไปเลือก เธอก็มาเลือก แค่นั้นเอง
ณ เวลานั้น น้องเมย์อายุ 19 ปี มันคือการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกของเธอในชีวิต เมื่อมีสิทธิ์แล้ว เธอก็มาใช้มัน ไม่มีอะไรซับซ้อน
แต่ดราม่าเกิดขึ้นตรงนี้ เมื่อน้องเมย์ "โดนด่าเละ" ด้วยคำหยาบคายสารพัดจากกลุ่มคนที่บอกว่า ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
ช่องเนชั่นโพสต์ข่าวน้องเมย์ไปเลือกตั้ง ปรากฏว่าคอมเมนต์มีแต่แรงๆ ทั้งนั้นอย่างเช่น
"ดูข่าวช่อง Bluesky บ้างนะครับน้อง อย่าเอาแต่ตีแบต ห่วงชาติล่มจมบ้าง"
"เลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต ดันเป็นครั้งอัปยศ"
"เคยเฉยๆ กับเธอนะ แต่ตอนนี้เกลียดละ"
"มัวแต่ซ้อมๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย ไปศึกษาให้มากกว่านี้"
"กลัวรัฐบาลไม่ให้งบไปแข่งล่ะมั้ง เข้าใจนะ"
"ปกติไม่เคยเชียร์ ไม่ได้เก่งกาจอะไร ฟลุคได้แชมป์ครั้งเดียว จากนั้นไม่เคยได้แชมป์เหี้ยอะไรเลย"
น้องเมย์โดนด่าเละเทะไปหมด หลายคนประกาศจะแบนเธอ ไม่ขอติดตามผลงานเธออีก ทั้งๆที่ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันเธอยังเป็นขวัญใจมหาชนอยู่เลย
หลังจากโดนด่า น้องเมย์ออกมาอธิบายในจุดยืนของเธอว่า ไม่โกรธ แต่แค่อยากใช้สิทธิ์ของตัวเอง
รัชนกกล่าวว่า "พวกเราต่างมีสิทธิ์ของตัวเอง ทุกคนก็สามารถรักษาสิทธิ์ได้ หนูมีอาชีพหลักของหนูที่จะทำเพื่อประเทศชาติและครอบครัว หนูไม่เคยที่จะยุ่งเรื่องการเมือง แต่เพียงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการใช้สิทธิ์ของตัวเอง ใครที่ไม่อยากติดตามผลงานหนู หนูไม่โกรธ แต่อยากให้แยกแยะว่า มันคนละเรื่องกันเลยค่ะ"
ความหมายของน้องเมย์คือ เธอเพิ่งอายุ 19 เธอไม่ได้คิดจะเล่นการเมือง หรือเป็นหัวคะแนนให้ใคร แต่เธอได้โอกาสเลือกตั้งครั้งแรก แล้วทำไมเธอถึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ที่ตัวเองมีได้ล่ะ คุณไม่อยากไปเลือก คุณก็ไม่ต้องไปสิ แต่เธออยากไป เธอก็ไป แค่นั้นเอง
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าการไปเลือกตั้งครั้งนั้น ทำให้เธอโดนคนกลุ่มหนึ่งต่อต้านไปสักพักทีเดียว มีการตามแซะตามแช่งตลอด ไม่ว่าจะแข่งรายการใด
คนของมหาชนอย่างเมย์-รัชนก ที่ใครๆก็เคยรัก กลายมาถูกบางคนเกลียดดื้อๆ สาเหตุเพราะเลือกจะไปใช้สิทธิ์ของตัวเอง เรียกได้ว่าต้องใช้เวลาพอสมควรทีเดียว กว่าที่สถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายอีกครั้ง
ในตลอดช่วงเวลาที่เป็นนักแบดมินตันอาชีพมา นี่คือเสียงวิจารณ์ และคำด่าที่หนักที่สุดที่น้องเมย์เจอ และเอาจริงๆ ก็น่าแปลกดีเพราะดราม่าที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดที่คอร์ตแบดมินตัน แต่เกิดที่คูหาเลือกตั้งแทนซะอย่างนั้น
ขณะที่บทสรุปของการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สุดท้ายเป็นชัยชนะของ กปปส. เพราะมี 69 หน่วยจาก 18 จังหวัด ไม่สามารถเลือกตั้งได้ สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติให้การเลือกตั้ง "ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ" เพราะไม่สามารถเลือกตั้งพร้อมกันทั่วอาณาจักรได้
การเลือกตั้งไม่สำเร็จ ทำให้เกิดสุญญากาศขึ้น และมีเหตุความไม่สงบต่อเนื่องรายวัน เป็นการเปิดช่องทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามารัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และจากนั้น คสช. ก็สานต่ออำนาจอย่างต่อเนื่องมาอีกนานหลายปี
คือกว่าที่ประเทศไทยจะได้เลือกตั้งอีกครั้ง ก็เกิดขึ้นในปี 2562 หรืออีก 5 ปีเต็ม
และก็แน่นอนว่า น้องเมย์ รัชนก ก็ยังมาใช้สิทธิ์ของเธอเช่นเดิม
- 29
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
