22 ก.ค. 2021 เวลา 10:10 • ข่าว
#เจาะประเด็นดราม่าไอศกรีมที่อิสราเอล
เมื่อ Ben&Jerry's ยอมทุบหม้อข้าวตัวเอง
1
เมื่อไม่นานมานี้ เคยแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับคนจีนทะเลาะกับน้ำเต้าหู้มาแล้ว มาคราวนี้ เป็นคิวของคนยิวทะเลาะกับไอศกรีมบ้าง
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หน้าเว็บไซท์ของไอศกรีมยี่ห้อดังของสหรัฐ Ben & Jerry's แถลงอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการขายไอศกรีมยี่ห้อดังในเขตยึดครองปาเลสไตน์ หรือ OPT (Occupied Palestinian Territory) อันประกอบด้วยเขตเวสแบงค์ เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซ่า เนื่องจากขัดกับหลัก
ธรรมาภิบาลของบริษัท
1
นอกจากนี้ Ben & Jerry's ยังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับพาร์ทเนอร์เก่าผู้ได้รับ License ผลิตไอศกรีมที่อิสราเอล ที่จะหมดสัญญาในเดือน ธันวาคม 2022 อีกด้วย แต่ไอศกรีม Ben & Jerry's ยังคงจำหน่ายในพื้นที่เขตของอิสราเอลตามปกติ
1
เมื่อมีประกาศออกมาเช่นนี้ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศก็รีบไปสอบถามกับบริษัทแม่ของ Ben & Jerry's ซึ่งก็คือ Unilever ที่อังกฤษว่าเอ๊ะ! อะไร! ยังไง?
และก็ได้คำตอบว่า จริงๆแล้ว ทาง Unilever ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการขายไอศกรีมในเขตปาเลสไตน์หรอก แต่ถึงแม้ว่า Ben & Jerry's จะอยู่ในเครือของ Unilever แต่บอร์ดผู้บริหารนั้นทำงานแยกกันอย่างอิสระ ดังนั้นหากทางฝั่งผู้บริหารของ Ben & Jerry's เห็นสมควรว่าจะงดขายสินค้าในเขตปาเลสไตน์ ก็ต้องตามนั้น ส่วนเรื่องการต่อสัญญาผู้ผลิตในอิสราเอลนั้นมีแน่นอน แต่จะมีการพิจารณาใหม่หมด ภายใต้เงื่อนไขสัญญาใหม่
1
สำหรับไอศกรีม Ben & Jerry's นั้น เป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มีต้นกำเนิดจาก รัฐเวอร์มอนท์ สหรัฐอเมริกา จากเพื่อนสนิทวัยเด็ก 2 คนคือ เบน โคเฮน และ เจอร์รี่ กรีนฟิลด์ ที่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านการเรียนทั้งคู่
1
โดยเจอร์รี่ จบมหาวิทยาลัยก็จริง แต่ไม่สามารถสานฝันเรียนต่อวิทยาลัยแพทย์ได้อย่างที่ตั้งใจ ส่วนเบนนั้น ซิ่วตั้งแต่ครึ่งทางแล้ว ทั้งคู่ก็เลยจับมือกันไปเรียนคอร์สทำไอศกรีม และเปิดธุรกิจผลิตไอศกรีมจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Ben & Jerry's ในปี 1978 และมาแรงมากถึงขนาดที่ คู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Häagen-Dazs ต้องออกมาใช้อิทธิพลตัดช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดที่บอสตัน จนมีเรื่องฟ้องร้องกันถึงโรง ถึงศาลมาแล้ว
สิ่งที่ทำให้ Ben & Jerry's มีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากแบรนด์ไอศกรีมอื่นๆในท้องตลาด ก็คือการมีจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวในสังคมที่ชัดเจน เช่นการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม การต่อต้านสินค้า GMO สนับสนุนกิจกรรม LGBTQ+ การแต่งงานเพศเดียวกัน หรือร่วมสนับสนุนการประท้วงตามกระแส Black Lives Matter ที่ผ่านมา
2
ถึงแม้ทาง Unilever จะเข้าซื้อกิจการ Ben & Jerry's ไปแล้วในปี 2000 และ 2 ผู้ก่อตั้งก็ไม่ได้เข้าไปนั่งในบอร์ดบริหารแล้วก็ตาม แต่ยังคงเงื่อนไขในการรักษาคาแรคเตอร์ของแบรนด์ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม และการเมืองอย่างสม่ำเสมอ และคราวนี้ เป็นคิวของการแสดงจุดยืนเคียงข้างชาวปาเลสไตน์ และไม่เห็นด้วยกับการยึดครองพื้นที่ของชาวยิวในเขตนี้
1
ซึ่ง Ben & Jerry's นับเป็นไอศกรีมที่ได้รับความนิยมอย่างมากจริงๆในอิสราเอล จากเดิมที่ชาวอิสราเอลมักนิยมบริโภคไอศกรีมท้องถิ่น ที่ใช้ไขมันพืชและวัตถุดิบสไตล์วีแกนเป็นหลัก แต่พอ Ben & Jerry's เข้าไปตีตลาด ก็เปลี่ยนรสนิยมการกินไอศกรีมของชาวอิสราเอลไปเลย ที่ชื่นชอบไอศกรีมเข้มเต็มมันนมตามสไตล์อเมริกันมากขึ้น
2
ความนิยมไอศกรีม Ben & Jerry's มีมากขนาดไหนในอิสราเอล? เอาเป็นว่า Ben & Jerry's มีโรงงานผลิตไอศกรีมเต็มรูปแบบนอกสหรัฐอเมริกาเพียง 2 แห่งเท่านั้น แห่งแรกคือ เนเธอร์แลนด์ แห่งที่สอง ก็คือที่อิสราเอลนี่เอง และชาวอิสราเอลก็นิยมนำไอศกรีม Ben & Jerry's มาใช้จัดเลี้ยงในงานฉลองเทศกาลสำคัญของชาวอิสราเอล แถมยังมีการเรียกร้องให้โรงงานที่อิสราเอลผลิตรสใหม่ๆ เหมือนที่ออกในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
แต่ในเมื่อ Ben & Jerry's ประกาศหักหน้าชาวอิสราเอลเช่นนี้ งานประท้วงต้องมาอยู่แล้ว โดยชาวอิสราเอลก็ออกมาประนามประกาศจาก Ben & Jerry's ว่าเป็นการเหยียดชาวอิสราเอล เราไม่เคยแย่งที่ของใคร แล้วก็ประท้วงด้วยการประกาศไม่ซื้อ ไม่กิน Ben & Jerry's อีกแล้ว หรือบางคนก็โพสต์คลิป เอาไอศกรีมไปโยนทิ้งถังขยะ
ส่วนรัฐบาลอิสราเอลก็บอกว่าพร้อมจะตอบโต้บริษัทไอศกรีมแบรนด์ดังอย่างแข็งกร้าว และเอ่ยว่า จะเลิกขายทำไมแค่ในเขตปาเลสไตน์ ในอิสราเอลทั้งหมดก็ไม่ต้องขายแล้ว ยกคืนไปหมดทั้งตู้แช่นั่นแหละ
1
ด้านนักรัฐศาสตร์ฝ่ายขวาของอิสราเอล ก็เย้ยว่า แบรด์ดังๆเหล่านี้ ก็แค่สร้างแคมเปญหวังทำ PR ภาพลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ล้มเหลวในเชิงปฏิบัติอย่างสิ้นเชิง และส่วนใหญ่ต้องมาคืนคำทีหลัง และ Ben & Jerry's ก็ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำแคมเปญนี้ เบอร์เกอร์เจ้าดังอย่าง McDonald's ก็เคยทำมาก่อน ยืนยันที่จะไม่ยอมไปเปิดสาขาในเขตยึดครองปาเลสไตน์ แต่สุดท้ายก็ต้องมาอัดแคมเปญง้อคนอิสราเอล
1
หรืออย่าง Airbnb เคยลบรายชื่อที่พักของผู้ให้เช่าชาวอิสราเอล ที่ตั้งอยู่ในเขตปาเลสไตน์ กว่า 200 แห่ง แต่สุดท้ายทนกระแสต่อต้านของชาวอิสราเอลไม่ไหว ก็ต้องเอารายชื่อกลับมาโพสต์ใหม่ ดังนั้นถ้าใครคิดจะมางัดข้อกับชาวอิสราเอล และ ชาวยิวในสหรัฐอเมริกา ก็ลองดู!
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นาฟตาลี เบนเนท กล่าวว่า เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนบังอาจมาบอยคอทประชาชนชาวอิสราเอลทั้งนั้น และกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้ ไม่ต่างจากการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ และ อิสราเอลจะตอบโต้ทางกฏหมายอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน
ข้ามฟากกลับมาที่สหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของ Ben & Jerry's ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างดุเดือดเช่นกัน โดย จิลาด อาร์เดน เอกอัครราชฑูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกา และ องค์การสหประชาติ ได้ยื่นจดหมายตรงถึงผู้ว่าการรัฐถึง 35 รัฐที่มีกฏหมายต่อต้านการบอยคอทประเทศอิสราเอลให้รีบเอาผิดกับบริษัท Ben & Jerry's และต้องยกเลิกสัญญาใดๆก็ตามที่รัฐเคยเซ็นไว้กับ Ben & Jerry's ด้วยข้อหา ต่อต้าน และเหยียดชนชาติยิว
2
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน โฆษกรัฐบาลอย่างนาย เน็ด ไพรซ์ ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับดราม่าไอศกรีมของอิสราเอลในครั้งนี้ แต่ได้กล่าวออกมาคำหนึ่งอย่างน่าสนใจว่า สหรัฐอเมริกานั้นไม่ยอมรับกระแสการเคลื่อนไหวเพื่อบอยคอทประเทศอิสราเอลก็แล้วกัน
1
สำหรับสถานการณ์ในเขตปาเลสไตน์นั้น พบว่ามีชาวอิสราเอล เข้าไปตั้งรกราก โดยที่พักที่รัฐบาลอิสราเอลสร้างให้ไม่น้อยกว่า 7 แสนคน ที่เริ่มอพยพรุกพื้นที่ชาวปาเลสไตน์ตั้งแต่หลังสงคราม 6 วัน โดยอิสราเอลประกาศถือสิทธิ์ในพื้นที่เขตเยรูซาเล็มตะวันออกที่เคยกำหนดเป็นเขตของชาวปาเลสไตน์
1
นอกจากนี้เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2020 อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังได้ทำข้อตกลงเพิ่มเติมกับรัฐบาลอิสราเอล ที่เรียกว่า Trump Peace Plan ในการยุติข้อพิพาทระหว่างปาเลสไตน์ กับ อิสราเอล และได้เฉือนพื้นที่ดินแดนในเขตเวสท์แบงค์ของปาเลสไตน์ให้อิสราเอลเพิ่มเติมอีก ซึ่งทั้งหมดเป็นการยึดครองดินแดนที่ยังไม่มีการรับรองจากนานาประเทศ แต่โดยพฤตินัย ชาวอิสราเอลก็ได้ย้ายถิ่นไปไล่ที่ชาวปาเลสไตน์มานานแล้ว
2
และเมื่อแบรนด์ไอศกรีมอย่าง Ben & Jerry's มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและยอมออกมารับเผือกร้อน ทุบหม้อข้าวตัวเอง จึงกลายเป็นดราม่าระอุ ที่ทำไอศกรีมหวานเย็นเดือดพล่านทะลุองศาทีเดียว
แหล่งข้อมูล
โฆษณา