" อเมริกัน รอย "
ทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นทีมแห่งอนาคต หลังจากผลิตนักเตะดาวรุ่งเลือดใหม่ขึ้นมามากมายที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญในอนาคต
ยุคสมัยนี้ที่มีเต็มไปหมด โจวานนี่ เรย์น่า, จอช ซาร์เจนท์, คริสเตียน พูลิซิช, เวสตัน แม็คเคนนี่, แซร์จินโญ่ เดสท์, ไทเลอร์ อดัมส์, ยูนุส มูซาห์, แม็ทธิว ฮ็อพพ์, ทิโมธี เวอาห์
ย้อนไปในยุคก่อนหากจะหานักเตะอเมริกัน มาค้าแข้งในลีกใหญ่ยุโรป ต้องถือว่าหาได้ยากและไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก
นักเตะพรสวรรค์ชาวอเมริกัน ที่มาลองหาประสบการณ์ในยุโรป ก็มีอย่างเช่น เคลาดิโอ เรย์น่า, แลนดอน โดโนแวน, โจซี่ อัลติดอร์, ดามาร์คัส บีสลี่ย์ และหากจะถามหาคนที่โดดเด่นสุดคงเป็น คลินท์ เดมพ์ซี่ย์
แต่ถ้าจะถามหา นักเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกา นับเฉพาะที่ทักษะฟุตบอล และพรสวรรค์ล้วนๆ ในยุคก่อน คงต้องยกให้กับ รอย วีเกอร์ลี่
รอย วีเกอร์ลี่ แสดงความเป็นอเมริกัน ได้อย่างชัดเจนที่สุด ประเทศที่เปิดกว้างพร้อมอ้าแขนรับทุกเชื้อชาติ ทุกสัญชาติและวัฒนธรรม เนื่องจาก วีเกอร์ลี่ เกิดที่แอฟริกาใต้
เขาเป็นชาวแอฟริกาใต้ผิวขาว เกิดที่พรีโทเรีย เมื่อปี 1964 เล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นก่อน และเมื่ออายุ 16 ปี ก็เคยเดินทางมาทดสอบฝีเท้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยในปี 1980 แต่ก็ไม่ได้รับการเซ็นสัญญา แต่นั่นคือประสบการณ์แรกของเขากับฟุตบอลอังกฤษ
จากนั้น วีเกอร์ลี่ ก็ย้ายไปอยู่ในสหรัฐ ได้เล่นฟุตบอลระดับคอลเลจ ที่นี่ ก่อนเซ็นสัญญากับ แทมป้า เบย์ โรว์ดี้ส์ ในปี 1984
ผลงานของเขาดีมาก คว้ารางวัล รุกกี้ยอดเยี่ยมแห่งปี และโค้ชของเขาที่นี่ก็คือ ร็อดนี่ย์ มาร์ช อดีตตำนานควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มองเห็นฟอร์มของเขา
ระหว่างที่ฟุตบอลลีกคอลเลจ จบลง เขาก็ย้ายไปเล่นให้ ทาโคม่า สตาร์ส ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลแบบ อินดอร์ซอคเก้อร์
รอย วีเกอร์ลี่ เล่นเป็นกองหน้า หรือมิดฟิลด์ รวมถึงปีกได้หมด เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ ทักษะสูง เซนส์บอลเยี่ยม เขาเริ่มเตะฟุตบอลตามท้องถนนเล่นในแอฟริกาใต้บ้านเกิด สตรีทฟุตบอลหล่อหลอมทักษะพื้นฐานให้ยอดนักเตะมานักต่อนักแล้วไม่ว่าจะเป็นในแอฟริกาหรืออเมริกาใต้
ในปี 1986 ร็อดนี่ย์ มาร์ช กลับอังกฤษ ในฐานะอดีตแข้งควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส เขาไปแนะนำว่าให้เซ็นกับเด็กหนุ่มที่ชื่อ รอย วีเกอร์ลี่ แต่ คิวพีอาร์ ไม่สนใจ นั่นทำให้ "เชลซี" เดินหน้าเข้าทาบทามแทน
ด้วยวัย 22 ปี เขาก็ได้ย้ายมาอยู่กับเชลซี แต่ว่าฟุตบอลอังกฤษไม่ได้ง่ายนัก ทั้งตอนนี้และตอนโน้น
ลีกอังกฤษ เน้นพละกำลัง เน้นบอลยาว ออกปีก ความเร็ว นี่คือเบสิคโดยเฉพาะกับยุค 80s ต่อ 90s ทำให้ วีเกอร์ลี่ ซึ่งเป็นพวกสายเทคนิค เน้นทักษะ ยังแจ้งเกิดไม่ได้เต็มที่ เขาโดนปล่อยไปให้ สวินดอน ยืมตัว
อยู่กับเชลซี 2 ปี เขาก็โดนขายไปให้ ลูตัน ทาวน์ ในปี 1988 ด้วยราคา 1 ล้านปอนด์ ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้น ลูตัน ยังเป็นทีมดิวิชั่น 1 ซึ่งเป็นลีกสูงสุด ณ ตอนนั้น
ตอนที่เขาย้ายมา เชลซี ได้ไม่นาน บรรณาธิการของนิตยสารแฟนซีน ของเชลซี ฉบับหนึ่ง เขียนทำนายเส้นทางอาชีพของ วีเกอร์ลี่ เอาไว้ว่า "วันหนึ่ง รอย วีเกอร์ลี่ จะทำประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดประตูหนึ่งเท่าที่คุณเคยเห็นมาเลย"
มันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ใช่กับเชลซี เพราะมันเกิดขึ้น ตอนที่เขาย้ายทีมอีกรอบ จาก ลูตัน ไปยัง คิวพีอาร์ ทีมที่เคยปฏิเสธโอกาสในการเซ็นสัญญากับเขาในตอนแรก
ในเดือนตุลาคม 1990 เขาเล่นให้ คิวพีอาร์ ไปเยือน ลีดส์ ที่ เอลแลนด์ โร้ด ก่อนหมดครึ่งแรกเขาได้บอลระยะ 40 หลาทางปีกขวา เขาลากหลบ แตะหลอกนักเตะลีดส์เป็นว่าเล่น แล้วพาบอลเข้ามากดด้วยขวาตรงเส้น 18 หลาเบียดโคนเสาเข้าไป
มันกลายเป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของ ดิวิชั่น 1 และ รอย วีเกอร์ลี่ จบด้วยการยิงถึง 18 ประตูในฤดูกาลนั้น เป็นรอง อลัน สมิธ หัวหอกอาร์เซน่อล เจ้าของรางวัลดาวซัลโวเพียงแค่ 4 ประตู
ถึงตรงนี้ รอย วีเกอร์ลี่ ยังไม่เคยเล่นให้ทีมชาติใดๆ เลย กระทั่งปี 1991 เขาก็ได้รับสัญชาติอเมริกัน เนื่องจากภรรยาของเขาเป็นชาวอเมริกัน นั่นเองที่ทำให้เขาสามารถเลือกเล่นให้กับอเมริกาได้
30 พฤษภาคม 1992 วีเกอร์ลี่ ในวัย 28 ปี ก็ได้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก เป็นเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติไอร์แลนด์ เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่อเมริกา มีในเวลานั้น
ก็พอดีในปีเดียวกัน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมในลีกรอง มีความทะเยอทะยานอยากประสบความสำเร็จ ก็เลยทุ่มเงิน 1.1 ล้านปอนด์ คว้าตัว รอย วีเกอร์ลี่ ไปร่วมทีม นั่นเป็นสถิติการซื้อตัวแพงสุดของทีมจากลีกรองในเวลานั้นเลย
เขาช่วยให้ แบล็คเบิร์น เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ซึ่งเปลี่ยนชื่อ รีแบรนด์ เป็นพรีเมียร์ ลีก เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือทีมกุหลาบไฟ ประสบความสำเร็จในการดึงตัวดาวยิงหนุ่มผู้ร้อนแรงสุดของอังกฤษในเวลานั้นจากเซาธ์แฮมป์ตันมาร่วมทีม นั่นก็คือ อลัน เชียเรอร์
การเข้ามาของ ฮ็อตช็อต ทำให้โอกาสลงสนามของ วีเกอร์ลี่ เริ่มน้อยลง ในปี 1993 เขาเลยโดนปล่อยตัวไปเล่นให้ โคเวนทรี
นับเป็นช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มสำหรับ วีเกอร์ลี่ เขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีสุด และที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คือ ฟุตบอลโลก USA94 กำลังจะมาถึง
ต้นปี 1994 อาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ต้องผ่าตัด แม้จะหายทันฟุตบอลโลก มีชื่อติดทีมไปด้วย สวมเสื้อหมายเลข 10 ของเจ้าภาพอเมริกา แต่เขาไม่ฟิตเต็ม 100%
วีเกอร์ลี่ เป็นตัวหลักของทีมก็จริง แต่เขาถูกใช้ในฐานะตัวสำรอง จะถูกเปลี่ยนลงมาในช่วง 30 นาทีสุดท้ายทุกนัด และน่าเสียดายที่อเมริกา ต้องตกรอบ 16 ทีมด้วยน้ำมือของบราซิล 0-1
เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับ วีเกอร์ลี่ อย่างที่สุด เพราะมันควรเป็นช่วงที่เขาเฉิดฉายที่สุด แต่อาการบาดเจ็บก็มารบกวน
เขาไม่ได้เล่นเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีก จนกระทั่งปี 1995 ก็หมดสัญญากับ โคเวนทรี เขาก็ตัดสินใจย้ายกลับไปสหรัฐอเมริกา เซ็นสัญญากับ โคโลราโด้ ราปิดส์ ในช่วงที่เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ กำลังจะคลอด
เวทีสุดท้ายในฐานะนักเตะอาชีพของเขาคือฟุตบอลโลก ฟร้องซ์ 98 ที่ฝรั่งเศส
แม้ว่าหนนี้ด้วยวัย 34 ปี เขาจะไม่ได้พีคเหมือนเดิม แต่กลับได้โอกาสลงเล่นตัวจริง 1 นัด ในเกมกับอิหร่าน แต่ครั้งนั้น อเมริกา ต้องยอมรับว่ามาตรฐานฟุตบอลอ่อนที่สุดในบรรดาทีมร่วมกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย เยอรมัน, ยูโกสลาเวีย และอิหร่าน พวกเขาแพ้รวดทั้ง 3 นัด ตกรอบแรกแบบไม่มีสักคะแนนเดียว
หลังจบฟร้องซ์ 98 รอย วีเกอร์ลี่ ก็ประกาศแขวนสตั๊ดทันที และหันมาเอาดีด้านการเล่นกอล์ฟ ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเริ่มติดใจกีฬาชนิดนี้มาตั้งแต่อยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยเขามักออกรอบกับ เคนนี่ ดัลกลิช เจ้านาย, อลัน เชียเรอร์ และ เรย์ วิลกิ้นส์ อยู่บ่อยๆ
แฟนบอลอังกฤษยุคปลาย 80s ต่อต้น 90s จดจำ รอย วีเกอร์ลี่ ได้เป็นอย่างดี เขาเล่นในอังกฤษเกือบ 10 ปี ตั้งแต่เป็นนักเตะชาวแอฟริกาใต้ จนมาเป็นผู้เล่นทีมชาติสหรัฐอเมริกา
เขาลงสนามในฐานะนักเตะอาชีพ 394 นัดยิงได้ 114 ประตู และเล่นให้สหรัฐอเมริกา 41 นัด ทำได้ 7 ประตู
มีการพูดถึงว่ามันเป็นเรื่องน่าเสียดายหาก รอย วีเกอร์ลี่ เล่นในฟุตบอลยุคใหม่ ที่แม้จะมีความเร็ว แข็งแรง แต่ก็เน้นทักษะ และเทคนิคมากขึ้น รวมถึงพื้นสนามในอังกฤษที่ยกระดับขึ้นมาแบบคนละชั้นจากสมัยก่อน เชื่อว่า วีเกอร์ลี่ จะได้แสดงฝีเท้าของเขามากกว่าในยุคโน้น
แม้เวลาจะผ่านไป 3 ทศวรรษที่แฟนบอลอังกฤษยังจดจำได้ดีโดยเฉพาะแฟนบอล คิวพีอาร์ สโมสรที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุด
รับชม 10 ประตูสุดสวยของ รอย วีเกอร์ลี่ : http://ow.ly/bC8o30rOovP
*******************
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
