23 ก.ค. 2021 เวลา 12:22 • นิยาย เรื่องสั้น
ลูกชาย : พ่อครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย ?
พ่อ : แน่นอน ได้สิ , ลูกจะถามอะไร
ลูกชาย : พ่อครับ ใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ ?
พ่อ : มันไม่ใช่ธุระอะไรของลูก ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้ ?
ลูกชาย : ผมแค่อยากรู้ ได้โปรดบอกผมเถอะครับ
ใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ ?
พ่อ : ถ้าลูกต้องรู้ให้ได้ พ่อก็จะบอกให้ฟัง
ใน 1 ชั่วโมง พ่อหาเงินได้ 100 บาท
ลูกชาย : โห !!! (ทำหน้าเศร้าพร้อมกับก้มหน้าลง)
ลูกชาย : พ่อครับ ผมขอยืมเงินพ่อ 50 บาทได้มั้ย ?
พ่อของเขาโมโหอย่างมาก
พ่อ : ถ้าด้วยเหตุผลที่ลูกถาม
เพียงเพราะอยากจะขอยืมเงินพ่อ
เพื่อไปซื้อของเล่นห่วยๆ หรือ สิ่งของไร้สาระพวกนั้น
ลูกควรจะนำตัวเองตรงกลับไปที่ห้อง และ เข้านอน
พร้อมกับคิดว่าทำไมถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้
พ่อทำงานหนักทุกวัน เพื่อเลี้ยงลูกที่มีนิสัยอย่างนี้เหรอ
เด็กชายตัวน้อย เงียบลง
และค่อยๆเดินขึ้นไปที่ห้องของเขาและปิดประตูลง
พ่อนั่งลงด้วยความโมโห นึกย้อนคิดถึงคำถามของลูกชาย
เขากล้าถามกับเราอย่างนั้นได้อย่างไร
เพียงเพื่อแลกกับเงินบางส่วน
ผ่านไป 1 ชั่วโมง... อารมณ์ของพ่อเริ่มสงบลง และเริ่มคิดได้ว่า
บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่มีราคา 50 บาท ซึ่งลูกอยากได้จริงๆ
และความจริงแล้ว เขาก็ไม่เคยถาม หรือ ขอเงินเรามาก่อนเลย
ดังนั้นเอง พ่อจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปหาลูกน้อยที่ห้องนอน
พ่อ : ยังไม่นอนอีกเหรอลูก ?
ลูก : ไม่ครับพ่อ ผมยังไม่นอน
พ่อ : พ่อมาคิดดูแล้ว บางทีพ่อคงทำงานจนเหนื่อยเกินไป
ถึงได้พูดกับลูกแรงขนาดนั้น
นี่เงิน 50 บาทที่ลูกขอยืมพ่อ เอาไปสิ
หนุ่มน้อยฉีกยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง เขาก็รีบดึงแบงค์ยับๆจำนวนหนึ่ง
และ เศษเหรียญเล็กๆน้อยๆ ออกมาจากใต้หมอนของเขา
เขานั่งบรรจงนับมันอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพ่อ
ในขณะเดียวกันกับที่พ่อเริ่มจะโมโหขึ้นอีกรอบ
เพราะเห็นลูกชายซ่อนเงินจำนวนหนึ่งไว้ใต้หมอน
พ่อ : ลูกจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนี้ไปทำอะไร
ในเมื่อลูกก็มีมันอยู่มากแล้ว (พ่อถามด้วยอารมณ์เริ่มโกรธ)
ลูกชาย : เพราะผมมีไม่พอครับพ่อ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว
พ่อครับ นี่เงิน 100 บาท ผมขอซื้อเวลาทำงานของพ่อ 1 ชั่วโมง
พรุ่งนี้ตอนเย็น พ่อช่วยกลับบ้านมาหาผมเร็วๆนะครับ
ผมเพียงแค่อยากจะกินข้าวเย็นกับพ่อครับ
พ่อหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เพราะความเจ็บปวดที่หน้าอก
รู้สึกเหมือนดวงใจของเขา มันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
พ่อรีบคุกเข่าลง โผเข้ากอดลูกชายทั้งน้ำตา
พร้อมกับขอให้ลูกชายสุดที่รักยกโทษให้ตัวเขา
นี่เป็นเพียงเรื่องสั้นๆ ที่อยากเตือนให้คุณคิดว่า
เราไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย
พรุ่งนี้ หากคุณตายลงที่ทำงานของคุณ
ก็สามารถหาคนมาทำงานแทนที่ช่วงเวลาของคุณได้อย่างง่ายดาย
แต่สำหรับครอบครัวและคนที่คุณรัก พวกเขาเหล่านั้น
ไม่สามารถหาใครมาแทนที่ช่วงเวลาที่สูญเสียไปจากคุณได้
ลองถามตัวเองดูว่า ทุกวันนี้
ตัวของคุณใช้เวลาไปกับสิ่งใดมากกว่ากัน
ระหว่าง การทำงาน หรือว่า ครอบครัว ?
แล้วถามใจตัวเองอีกครั้ง ว่าสิ่งใดกันแน่
ที่มีความสำคัญกับชีวิตของคุณมากกว่ากัน ?
โฆษณา