23 ก.ค. 2021 เวลา 15:05 • นิยาย เรื่องสั้น
สวัสดีวัน ศุกร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘/๒ ครับ
การเสียสละที่แท้จริงนั้น ต้องมาจากหัวใจ
และการกระทำ มากกว่าคำพูด
คนที่ได้แต่พูดว่าตนเองเสียสละ แต่แท้จริงแล้ว
ไม่ได้เสียสละอะไรเลย เมื่อถูกตำหนิหรือเพ่งโทษ จะสละอย่างเสียไม่ได้ พอให้คนเห็น คนเช่นนี้
บางที่เรียก คนเห็นแก่ตัว.
ท้าวธฤตราษฤร์ ผู้ตาบอดและใจบอด
เรื่องเล่าจาก มหากาพย์ มหาภารตะ
มาเล่าต่อสงครามวันที่ สิบสี่ ในการรบภาคค่ำครับ
ในคืนนี้ หลังจากสู้รบ กันมาสักระยะหนึ่ง
เกิดการฆ่าพวกเดียวกันเองมากมายในความมืด
คบไฟ จึงถูกจุดขึ้น ทั่วทั้งทุ่ง กุรุ
ความสว่างจากคบเพลิง นับล้านดวง ทำให้
ทั้งสมรภูมิ สว่างไสว ราวกับกลางวัน ต่างแต่
ที่มีลักษณะ เงาที่ทึบ กว่าเท่านั้น
วันนี้ อัศวถามา รบได้ดีมาก นอกจากจัดการ
จนฆโตกจะ บาดเจ็บ ต้องพักรบ ไปก่อนแล้ว
ยังจัดการฆ่า เหล่าลูกๆ ของท้าว ทรุบทตาย
เกือบหมดสิ้น เหลือแต่เพียง สองคนเท่านั้น
นั่นคือธฤตทยุม กับ ศิขันฑิน เท่านั้น
ฝ่ายเการพในคืนนี้ ผลงานค่อนข้างออกมาดี
แต่ทางฝ่ายปาณฑพ อรชุนก็ทำลาบล้าง
ไพร่พลของฝ่าย เการพ ไปเป็นอันมาก
ทางฝ่ายทุนโยธน์ ปรึกษา กับราธียะ ว่าดูท่าเจ้า
อรชุน มันคิดจะทำลายกองทัพเราให้มอดมลาย
ในคืนนี้เป็นแน่ ข้าเป็นห่วงทหารที่รบเพื่อข้า
ข้าจะไปสู้กับมันเอง
เนี่ยแหละครับมุขประจำของทุรโยธน์ เวลาจะหาใครสักคน มาแก้ไขสถานการณ์ ที่ตัวเองไม่มายด์
ราธียะ บอก เดี๋ยวข้าไปฆ่า มันเอง ข้ามีศักติ
อาวุธ วิเศษ ที่ได้มาจากพระอินทร์
พอดี กฤปาจารย์ แกอยู่แถวนั้น ได้ยินเข้า
และด้วยความไม่ชอบ ราธียะ เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว
จึงว่า ราธียะ ประมาณว่า
ดีแต่คำราม ไม่เห็น กัดสักที ดีแต่พูดไม่ต่างกับฟ้าร้องในเดือนสาม ที่ไม่มีฝนตกลงมา ดีแต่พูด
เอาหน้า เท่าที่ผ่านมาเห็นรบแพ้ เจ้าอรชุน ตลอด
อย่าเอาแต่คำรามดีกว่า จะทำอะไรก็ทำซะ.
เล่นเอา ราธียะ โกรธ มากต่อคำพูดนี้
ชักดาบออกมา แล้วว่า ข้าจะตัดลิ้นเจ้าคนปากเสียคนนี้
ความขัดแย้ง ได้เกิด ขึ้นแล้ว ในกองทัพ เการพ
แต่ยังดีที่ อัศวถามา อยู่ในบริเวณนั้น จึงเข้ามา
ช่วยกฤปาจารย์ หมายจะถล่ม ราธียะ
แต่ทุรโยธน์ ยังใช้ความสามารถพิเศษ เฉพาะตัว
ห้ามศึกนี้ไว้ได้ ก่อน
แล้วราธียะ ก็ควบ รถม้าศึก ออกสู่สนามรบด้วย
โทสะ ที่ร้อนแรง ทหารฝ่ายปาณฑพต่างเหี้ยน
เตียนในทางที่ราธียะ ผ่านไป ไม่ต่างกับใบไม้ร่วง
หรือเหมือนเอาเครื่องตัดหญ้ากวาดไป ฉะนั้น
พอดีสหเทพ หนึ่งในพวกพี่น้องปาณฑพ อยู่ในสมรภูมิ แถบนั้น จึงเข้าปะทะ กับ ราธียะ
ปรากฏว่า ทั้งสารถี ม้าและรถม้าศึกของสหเทพ
ถูกทำลายในเวลาอันรวดเร็ว
และสถานการณ์ นี้สหเทพ สามารถตายได้ทุกเมื่อ จากน้ำมือของเราธียะ แต่ ราธียะ แค่เพียง
เอาคันธนู แตะหัวของสหเทพ แล้วบอกว่า
เจ้าเด็กน้อยเจ้าไปเลี้ยงม้าเถอะ นั่นคืองานที่เหมาะกับเจ้า อย่ามาหาญสู้กับข้า
แล้วราธียะ ก็ผละไป โดยไม่ทำอันตรายแก่สหเทพ เลย เล่นเอาสหเทพ งง ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะราธียะสัญญา กับแม่คือพระนางกุนตี
ไว้ว่า จะไม่ฆ่าใครในพี่น้องปาณฑพ นอกจาก
อรชุน และยังเอ็นดู ไม่ต่างกับน้องของตน
ภีมะก็คราวหนึ่ง แล้ว ที่ ราธียะ มีโอกาสฆ่าได้อย่างง่ายดาย มาคราวนี้ ก็ สหเทพ อีกคน
และนี่คือการยึดถือสัจจะ ของราธียะ ที่มั่นคง
มาดูในอีกด้าน จากการมอง เหตุการณ์ในสมรภูมิ
ราธียะ ร้อนแรงมาก
อรชุน จึงบอกให้ กฤษณะ ชักรถ พาตนไปต้าน
ราธียะ แต่กฤษณะ ไม่เห็นด้วย เพราะ
กฤษณะ รู้ว่า วันนี้ ราธียะ ต้องใช้ศักติวิเศษ
เป็นแน่เพื่อฆ่า อรชุน
พอดี ฆโตกจะ ที่ไปพัก กลับมาในสนามรบ
กฤษณะ จึงให้ ฆโตกจะ ไปรับมือ ราธียะ
ทั้งหลายทั้งปวง ก็คือ กฤษณะ ต้องการเอาฆโตกจะ เป็นเครื่องบูชายัญ ต่อศักติ แทนอรชุน
แม้จะดูเห็นแก่ตัว แต่การเสียฆโตกจะ ดีกว่าเสีย
อรชุน เพราะถ้า อรชุนตาย สงครามครั้งนี้คงไม่มี
ทางชนะ
ฆโตกจะ หลังจากได้พักฟื้นมาแล้วและเป็นรากษส ที่จะมีกำลังมากในยามค่ำคืน ยินดีรับ
คำสั่งอย่างเต็มใจ อย่างไม่รู้ว่าความตายรอตน
อยู่ในไม่กี่อึดใจ ต่อจากนี้
ฆโตกจะ กระโจนเข้าสู่ สมรภูมิอย่างดุเดือด
สังหารฝ่ายเการพ ที่มากับราธียะ ด้วยมนต์ดำ
อันเป็นเอกลักษณ์ ของพวก รากษส และสามารถ
สังหาร ทหารได้คราวละไม่ต่ำกว่าพันคนเลยทีเดียว
จนเหล่า ทหารต้องมาอ้อนวอนให้ ราธียะช่วย
ว่าไม่ใหว แล้ว ถ้าท่านไม่ช่วย พวกเราจะต้องตาย
ด้วยน้ำมือของเจ้ารากษส ตนนี้เป็นแน่ในคืนนี้
ราธียะ ชั่งใจ เพราะต้องใช้ศักติ ในการนี้ และ
อาวุธนี้ จะเก็บใว้สำหรับจัดการกับ อรชุน
แต่สงสารเหล่าทหารที่ล้มตายและบาดเจ็บด้วย
น้ำมือของ ฆโตกจะ และ ราธียะ ก็ตัดสินใจ
อะไรจะเกิด ในภายภาคหน้า ล้วนเป็นเรื่องของ
ชะตากรรมทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ความทุกข์ร้อนของไพร่พลสำคัญกว่า
ราธียะ เอาศักติ ออกมา และซัดเข้าใส่ ฆโตกจะ และวาระสุดท้าย ก็มาถึงฆโตกจะ ลูกชายของภีมะ และ หลานรักของฝ่ายปาณฑพก็มาถึง
แต่ยังก่อน ก่อนที่ฆโตกจะ จะตายได้เนรมิตร่างตัวเองไห้ใหญ่โตมโหฬาร เอามากๆ เพื่อเพื่อ
ก็เพื่อ เวลาที่ตาย ร่างกาย ก็ต้องล้มลง
นั่นแหละ จุดประสงค์ สุดท้ายทางการทหาร
และเมื่อ ฆโตกจะ ล้มลง ว่ากันว่า เล่าว่า ทับทหาร
ฝ่าย เการพ ตายไปถึง หนึ่งอักเษาหินี ทีเดียว
ครับ ล้มทีทับคนตาย สองแสนกว่า ยิ่งกว่าโคลน
ถล่มเสียอีก หรืออาจใกล้เคียงกับ ปรมาณู ประมาณนั้น อาวุธลับ สุดท้าย ของฆโตกจะ นี่
โหดแท้
สงครามคืนวันที่ สิบสี่ ยังไม่จบ ครับ สงคราม
ในวันนี้ช่างยาวนาน เหมือน สถานการณ์โควิด
และยอดผู้เสียชีวิต จากสถาณการ์ณ โควิด
ก็ เกือบเท่า กับ ยอดคนตายที่ทุ่ง กุรุ ในตำนาน
เรื่องเล่า แล้ว และ มีแวว จะมากกว่า
แต่โควิด ทั้งโลก ไม่ใช่ แค่ทุ่งเดียว
และทั้งหลายทั้งปวง คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม
ที่บอกเช่นนี้คงไม่ผิด เท่าที่ดูจากสถานการณ์
หรือท่านคิดอย่างไร ทุรโยธน์ ไม่แคร์ ใคร
อยู่แล้ว จนไพร่พล แกตายหมด ไม่ยอมแพ้
สงคราม ทั้งที่ จะเซฟชีวิตคนได้อีกมากมาย
แต่แกไม่ทำ แกเอาตัวเองเป็นใหญ่
โคตร อำมหิต เลย และถ้าไม่สุดโต่งก็ไม่ได้
เป็นตำนาน ที่เล่าขานสาปแช่งในยุคหลัง
 
วันนี้ขอเอวัง ก่อนครับ
ขอบคุณ ทุกท่านที่อ่าน และ ติดตามครับ
ขอบคุณ แหล่ง ทำมาหากิน
เรื่องเล่าจากมหากาพย์มหาภารตะ
ของ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ครับ
โฆษณา