23 ก.ค. 2021 เวลา 17:23 • นิยาย เรื่องสั้น
"รักแรก.. ใช่หรือเปล่า"
เคยมั้ยที่เราไม่รู้ว่า..รักแรก.. เกิดขึ้นตอนไหน แล้วมันเกิดขึ้นหรือยัง  แล้วกับพี่คนนี้ล่ะ.. ผ่านมานานเป็นสิบสิบปี
เพราะอะไร  ทำไม ฉันจึงยังคิดถึงพี่เขาไม่เสื่อมคลาย.. มันใช่.. รักแรก หรือเปล่า ทุกวันนี้ ยังเฝ้าถามใจตัวเองอยู่เลย
ฉัน เป็นเด็กมัธยมต้น ที่กะโปโล พี่คนหนึ่งเขาเรียกฉันอย่างนั้น
บ้านช่องไม่ค่อยกลับ เมื่อไรที่เลิกเรียน ฉันจะตามพี่เค้าคนนี้ไปเล่นดนตรีอยู่บ่อยๆ พี่เค้าเล่นกลอง ในขณะที่พี่คนอื่น เล่นกีตาร์ แต่ฉันกลับชอบพี่มือกลอง นะ พี่เขาอายุมากกว่าฉัน 10 ปี กว่าๆ
ลืมบอกไปว่า พี่เขาเป็นนักดนตรี ประจำวง ที่บ้านของเพื่อนเป็นเจ้าของวง ฉันมักจะทำทีเข้าไปช่วยทำงาน ช่วยทำความสะอาดเครื่องดนตรี เพื่อที่จะอยู่ใกล้ๆ พี่เขา
อะไรที่ทำให้ฉันต้องตามพี่เขาไปเกือบทุกแห่ง วันใดที่ไม่ได้เจอ ฉันเที่ยวหาหนทาง ขอให้ได้พบ ขอให้ได้เห็นได้พูดได้คุย พี่เค้าสอนให้เรารักเรียน สอนให้เขียนหนังสือลายมือสวยๆ พี่เขาลายมือสวยมาก ฉันยังจำได้ติดตา แต่งกลอนน่ารักๆ ให้เราอ่าน ร้องเพลงให้เราฟัง..
ฉันชอบที่จะนั่งแนบตัว หัวเข่าฉันเกยไปที่ตัก เอาศีรษะ พิงไปที่ไหล่ ฟังพี่เขาร้องเพลง เอามือขยี้มาที่ผมของฉัน (เขียนมาถึงตรงนี้.. นัยตาฉันเริ่มคลอเสียแล้ว)​
หายไปแล้ว สมุดโน็ต รูปทรงเลื่อย
"สมุดเลื่อยเล่มนี้ เล็กมาก มันเริ่มจะเก่าและขาดแล้ว น้องจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือจะทิ้ง ก็ตามใจ กลอนนี้พี่เขียนไว้เมื่อคืนก่อน.. สมุดเลื่อยแบบนี้มันหายากน่ะ อย่าคิดอะไรมาก.. ตั้งใจเรียนแล้วกัน"... รักจ้ะ
"" จำได้แค่นี้"" ประโยคยาวแบบนี้ มันทำให้ฉัน.. มองหาพี่เค้า ทางอินเตอร์เน็ต ตลอดเวลา
วันใดที่นั่งรถเมล์ผ่านหน้าบ้าน วันที่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด ฉันเฝ้ามองหาผ่านหน้าต่างรถเมล์ อยากให้รถหยุด หรือให้รถมันเสียมันซะตรงนั้น
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ฉันยังคงคิดถึงพี่เขา.. เกือบทุกวัน ฉันไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนคนนี้แล้ว.. เพราะฉันต้องย้ายเข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ
มันใช่รักแรกมั้ย.. หรือมันเป็นแค่เด็กที่ต้องการความอบอุ่น เท่านั้น เพราะเมื่อมาเรียนกรุงเทพฯ ฉันก็มีแฟน ตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป
เมื่อสังคมของการสื่อสารกว้างขึ้น ฉันใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตช่วยในการค้นหา.. ค้นหาพี่เค้าจากชื่อและนามสกุล ที่จำได้แม่นยำ
และแล้ววันหนึ่ง ฉันเห็นคนคนหนึ่ง มีนามสกุล ที่เหมือนพี่เค้า.. ดีใจที่สุด.. แอบอายนิดๆ ที่ต้องบอกว่า ฉันเขียนไปถามคนคนนั้น ถึงเรื่องนามสกุล และถามถึงพี่เค้า เผื่อว่าจะเป็นคนที่เขารู้จัก
"น้องคะ.. น้องนามสกุล... เหมือนคนที่พี่รู้จัก.. ต้องขออภัย ที่จะขอถามน้องว่า รู้จักคนที่ชื่อ... หรือไม่??
" รู้จักค่ะ เขาเป็นพ่อของน้องเอง"
" พ่อของน้อง สบายดีมั้ยคะ พี่เคยรู้จักสมัยพี่ยังเด็ก เขาช่วยสอนหนังสือให้พี่ค่ะ"
" พี่ทักมาช้าไป คุณพ่อป่วย เพิ่งจะเสียเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ"
มือฉันนิ่งอยู่ที่คีย์บอร์ด จำได้ว่าคิ้วขมวดเข้าหากัน ดวงตาร้อนผ่าว.. กลืนน้ำลายลงคอ
" เอาไว้ทำบุญ 100 วัน พี่จะมามั้ยคะ น้องอยู่ระยอง
ฉันนิ่งอยู่สองสามอึดใจ..
" เสียใจกับน้องด้วยนะ.. เสียใจ.. ที่พี่ไม่มีโอกาสพบและเคารพคุณพ่อน้อง.. พี่จะขอไหว้พระ ทำบุญไปถึงคุณพ่อที่กรุงเทพฯ นะคะ"
"ค่ะพี่  ขอบคุณนะคะ พี่จะเข้าไปดูรูปคุณพ่อในเฟสน้องได้ค่ะ น้องจะแชร์ไว้ให้ค่ะ"
"ขอบคุณมากค่ะ"
ฉันเข้าไปดูเฟสตามที่น้องเขาบอกค่ะ.. พี่เขาแก่ไปมาก.. แต่มีเค้าเดิมชัดเจน.. ฉันมองอยู่นาน.. พี่เขามีครอบครัวที่ดี.. ดูมีความสุข..
ฉันตัดสินใจที่จะไม่เก็บรูปพี่เขาไว้.. และเลิกที่จะติดต่อกับน้องเขาต่อไป.. ฉันรู้แล้วว่า.. คนที่ฉันเฝ้ามองหา.. โหยหาอยากจะได้เจอนั้น.. ได้จากฉันไปแล้ว.. ตลอดกาล
.. แต่ทุกวันนี้.. วันนี้.. ฉันยังคงคิดถึง.. และจำหน้าพี่เขาได้แม่นยำ.. สมุดเลื่อยเล่มนั้น หายไปแล้ว.. จำได้เฉพาะบางประโยค.. จบท้ายด้วยคำว่า.. รัก.. แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว
โฆษณา