24 ก.ค. 2021 เวลา 06:15 • ท่องเที่ยว
Alone in Love
Alone in Akita - (Part 2 - Kakunodate วันฝนพรำ)
หลังจากรถบัสพามาหยุดที่จุดที่สองสั้น ๆ ณ ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าเป็นโทริอิขนาดใหญ่หน้าทะเลสาบ (ทราบภายหลังว่าชื่อศาลเจ้า Gozaonoishi Jinja)
แน่นอนว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีเรื่องเล่าเหมือนกัน จากใบปลิวโฆษณาแหล่งท่องเที่ยวของเมืองที่ฉันหยิบติดมือมาตั้งแต่สนามบิน ระบุไว้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีบ่อน้ำแห่งความเยาว์วัยที่หญิงสาวในตำนานแห่งทะเลสาบ Tazawa มาดื่มบ่อย ๆ นั่นเอง
แน่นอนว่าคนบ้าความเชื่ออย่างฉันก็ไม่พลาดที่จะซื้อเครื่องรางเพื่อความงามอันเป็นนิรันดร์กลับไป แม้ว่าสถานเสริมความงามหรือบรรดาวิตามินที่กินไปอาจจะช่วยได้มากกว่าก็ตาม
เมื่อขึ้นรถบัสอีกครั้ง ฉันก็พบว่าตัวเองหิวจนแสบไส้ เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจากนาริตะในยามเช้าตรู่แบบที่ยังไม่มีร้านไหนในสนามบินเปิด ฉันยังไม่ทานอะไรเลย
ใกล้เที่ยง ในที่สุดบัสก็มาหยุดที่เมืองคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate) เมืองแห่งซามุไร และหมู่บ้านที่กาลเวลากว่า 380 ปีได้หยุดลง
หลังจากเก็บกระเป๋าในล๊อกเกอร์ที่สถานีรถไฟ ฉันกับร่มสีดำคันน้อยที่เพิ่งสอยมาจากร้านขายของที่ระลึก ณ ทะเลสาบทาซาว่า ก็พากันไปหยุดที่คาเฟ่หน้าสถานี
แกงกะหรี่ผักที่ไร้โปรตีนนั้น ไม่ได้เติมเต็มความต้องการของสัตว์กินเนื้ออย่างฉันแม้แต่น้อย แต่จากประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวที่ผ่านมา สอนให้รู้ว่า "อย่าหวังน้ำบ่อหน้า" กับร้านอาหารมื้อหลังบ่ายสอง เพราะแทบทุกร้านในญี่ปุ่นจะยังไม่เปิด และถ้าคาเฟ่หน้าสถานี้ยังมีข้าวให้กิน นอกเหนือจากกาแฟกับขนมเบเกอรี่แล้วละก็..
จงกินประทังชีวิตไปเถิด!!
หลังจบมื้ออาหารอันไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ฉันก็เดินฝ่าอากาศขมุกขมัว กับฝนตกพรำ ๆ ไปยัง 'หมู่บ้านซามุไรโบราณ' (Kakunodate Samurai District) ด้วยความหวังว่าจะยังมีซากุระพันธุ์ย้อยให้ชมในปลายเดือนเมษา หลังจากจบฤดูล่าซากุระของฉันและผองเพื่อนในฝั่ง Kansai-Tohoku-Kanto ตั้งแต่เดือนมีนาเป็นต้นมา
(เนื่องจากภูมิภาค Tohoku อันเป็นที่ตั้งของจังหวัด Akita อยู่ภาคเหนือของญี่ปุ่น จึงมีอากาศหนาวเย็นกว่าทางภาคกลางอย่าง Tokyo ทำให้ฤดูใบไม้ผลิมาถึงช้ากว่า)
เมื่อพบแนวรั้วระแนงไม้สีดำของบ้านเก่ายาวสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับมวลมหาประชาชนที่มาพร้อมกับร่มสีสรรสดในเต็มถนนกว้างขนาดรถสองคันผ่านได้สบาย ๆ แล้วนั้น ฉันก็แน่ใจได้ว่าตัวเองมาถึงหมู่บ้านซามุไรแล้ว
โฆษณา