24 ก.ค. 2021 เวลา 06:54 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🇺🇸🥊รีวิวกอง USA ภาค 2 (Active ท้าชนกับ Passive) 🇺🇸🥊
[อ่านที่นี่ที่เดียวรู้เลยกองไหนดีละ USAน่าลงทุนไหม]
วันนี้ #เด็กการเงิน ขอรวบรวมกองทุนUSAท็อปฟอร์ม รีวิวกันแบบจุกๆ อีกแล้ว โดยรอบนี้เราคัดมาเฉพาะกองแบบ Active ท้าชนกับกอง Passive ในไทย จะมีกองไหนบ้างอ่านข้างล่างได้เลย
👀ภาค 1 K-USA-A(A), KT-USA-A, TMBBLUESHIP, SCBBLN, ABAGS
1
สิ่งที่ได้จากบทความนี้
1.กอง Active ในไทยที่ลงทุนใน USA ผลตอบแทนตัวท็อป มีตัวไหนบ้าง
2.กอง Passive ในไทยที่ลงทุนใน USA ที่น่าลงทุนที่สุด
3. กองทุนUSAในไทย แต่ละกองลงทุนอะไรบ้าง ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่
4. เลือกลงทุนใน USA จะลงทุนกอง Active หรือ Passive ดี
📌แนวทางการลงทุนแต่ละกอง
📍Active:
ขอเริ่มจากกอง K-USA-A(A) ที่เป็นตัวแทนหมู่บ้านจากภาค 1 มาสู้กับกองที่เหลือในภาค 2
1️⃣K-USA-A(A) เป็น Feeder Fund ลงทุนในกองหลัก Morgan Stanley US Advantage Fund – I Shares กองนี้ก็เป็นอีกกองที่มี Morning Star 4 ดาว กองหลักมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทคุณภาพและมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นที่รู้จัก พร้อมกับมีความได้เปรียบในการแข่งขันสูง และมีกระแสเงินสดต่อราคาหุ้นดี พร้อมทั้งมีการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีเช่นกัน โดยกองนี้จะมุ่งเน้นลงทุนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น และใช้ปัจจัยพื้นฐานในการเลือกหุ้นเป็นหลัก ปัจจุบันกองนี้ถือหุ้นอยู่ประมาณ 40 ตัว โดย Morgan Stanley ใช้ Blended Benchmark อย่าง S&P500 และ Russell 1000 Growth Net 30% WTH
2️⃣KF-US เป็น Feeder Fund แต่ก่อนลงทุนกองหลัก Merian North American Equity Fund, Class I Acc (USD) แต่ปัจจุบันเปลี่ยนกองหลักแล้ว เป็นกอง 5 ดาว Morning Star อย่าง Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund, Class B Acc (USD) ตั้งแต่พ.ย. ปีที่แล้ว โดย Concept ของค่าย Baillie Gifford คือเขาเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเกร็งกำไร การลงทุนของเขา ไม่ได้ปรับพอร์ตบ่อยขนาดนั้น ทำให้มี Annual turnover แค่ 33% หลักการเลือกหุ้นของ BG ก็คือเป็นแบบ Bottom up เลือกที่ตัวบริษัทที่ดี มี Business model ที่แข็งแกร่ง
3️⃣SCBUSAA เป็น Feeder Fund ลงทุนในกองหลัก Morgan Stanley Investment Funds – US Growth Fund Class Z Accumulation เป็นกอง 5 ดาว Morning Star มี Investment approach เหมือนกับกองหลักของ K-USA-A(A) เลย
**สำหรับ Morgan Stanley Investment Funds – US growth Fund กองแม่ของ SCBUSAA และ Morgan Stanley Investment Funds – US advantage Fund กองแม่ของ K-USA-A(A) มีการแชร์ Philosophy และ Process เหมือนกัน แค่บริษัทที่ลงทุนต่างกัน ทำให้ผลตอบแทนมันต่างกันด้วย โดย US Growth จะเลือก Emerging Businesses ด้วยเสริมจาก Established business ขณะที่ US advantage จะเน้นตัวใหญ่ Established business อย่างเดียว อันนี้ก็ทำให้ US advantage เป็นกองที่มี Downside ต่ำกว่าตัว US Growth ด้วยเช่นกัน**
📍Passive:
4️⃣TMBUS500 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Core S&P500 ETF
5️⃣SCBS&P500 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P500 ETF Trust
6️⃣TISCOUS ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P500 ETF Trust
7️⃣KF-HUSINDX ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Core S&P500 ETF
8️⃣ASP-S&P500 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P500 ETF Trust
9️⃣K-US500X ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Core S&P500 ETF **กองใหม่พึ่ง IPO**
📌 สัดส่วนอุตสาหกรรม/หุ้นแต่ละกอง
K-USA-A(A) ลงทุนในอุตสาหกรรม Info Tech 43.25%, Communication services 21.49%, Health Care 13.80%, Consumer Discretionary 10.48% และ Industrials 5.56% โดยมีลงทุนในหุ้น Shopify 6.08%, Twitter 5.81%, Twilio 5.51%, Square 5.11%, Veeva Systems 4.86%
KFUS ลงทุนในอุตสาหกรรม Info Tech 30.87%, Consumer Discretionary 24.35%, Health Care 20.41%, Communication Services 11.96% และ Financials 5.27% โดยมีลงทุนในหุ้น Shopify 8.2%, Wayfair 5.5%, Roku 5.0%, The Trade Desk 5.0%, Amazon.com 4.8% และ Moderna 4.4%
SCBUSAA ลงทุนในอุตสาหกรรม Info Tech 46.85%, Communication Services 23.09%, Health Care 15.63%, Consumer Discretionary 9.17% และ Industrials 2.45% โดยมีการลงทุนในหุ้น Shopify 6.14%, Twitter 5.13%, Snap 5.11%, Square 5.08% และ Zoom Video Communications 4.85%
TMBUS500, SCBS&P500, TISCOUS, KF-HUSINDX, ASP-S&P500, K-US500X ลงตามดัชนี S&P500 เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหน้าตาหุ้นจะไม่ต่างกันมาก โดยสำหรับ iShares จะลงทุนในอุตสาหกรรม Info Tech 27.75%, Health Care 13.21%, Consumer Discretionary 12.28%, Communication 11.09% และ Financials 11.04% โดยลงทุนในหุ้น Top 5 คือ Apple 6.17%, Microsoft 5.74%, Amazon.com 4.16%, Facebook Class A 2.24% และ Alphabet Class A 2.08%
📌 ผลตอบแทนย้อนหลังโดยเฉลี่ย
📍Active:
K-USA-A(A) ผลตอบแทน 3 ปี N/A และผลตอบแทน 1 ปี 29.87%
KF-US ผลตอบแทน 3 ปี 10.19% และผลตอบแทน 1 ปี 36.13%
SCBUSAA ผลตอบแทน 3 ปี N/A และผลตอบแทน 1 ปี N/A
📍Passive:
TMBUS500 ผลตอบแทน 3 ปี 15.02% และผลตอบแทน 1 ปี 33.92%
SCBS&P500 ผลตอบแทน 3 ปี 15.48% และผลตอบแทน 1 ปี 34.08%
TISCOUS ผลตอบแทน 3 ปี 14.40% และผลตอบแทน 1 ปี 33.21%
KF-HUSINDX ผลตอบแทน 3 ปี 14.83% และผลตอบแทน 1 ปี 32.46%
ASP-S&P500 ผลตอบแทน 3 ปี 14.39% และผลตอบแทน 1 ปี 31.81%
K-US500X ไม่มีข้อมูลเพราะพึ่ง IPO แต่ผลตอบแทนไม่ต่างกันกับกอง Passive อื่นโดยเฉพาะที่ลง iShares เหมือนกันอย่าง KF-HUSINDX และ TMBUS500
📌ค่าธรรมเนียมของแต่ละกอง
1
📍Active:
K-USA-A(A) มีค่า TER ที่ 1.1449 และมี Front-end 1.50%
KF-US มีค่า TER ที่ 1.0529 และมี Front-end 1.50%
SCBUSAA มีค่า TER ที่ 1.7024 และมี Front-end 1.605%
📍Passive:
TMBUS500 มีค่า TER ที่ 1.2145 และมี Front-end 1.00%
SCBS&P500 มีค่า TER ที่ 1.12 และมี Front-end 0.50%
TISCOUS มีค่า TER ที่ 1.3120 และมี Front-end 1.00%
KF-HUSINDX มีค่า TER ที่ 1.0282 และมี Front-end 0.50%
ASP-S&P500 มีค่า TER ที่ 1.44565 และมี Front-end 0.25%
K-US500X มีค่า TER ที่ 0.4370 และไม่มี Front-end !! แต่มี Back-end 0.15% **กองใหม่พึ่ง IPO เดือนก.ค นี้**
หากสนใจกอง Passive น้องใหม่อย่าง K-US500X ชนะเลิศแบบไร้ที่ติ ไม่มีใครสู้ได้ ต้องอย่าลืมว่าถ้า Passive ก็ผลงานไม่ต่างกันมากยุแล้ว ก็ต้องมาวัดกันที่ค่าธรรมเนียมอย่างเดียว
📌การจ่ายปันผล
กองอื่นที่รีวิวไม่มีกองไหนจ่ายปันผล ยกเว้น SCBS&P500
📌การป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
ป้องกันแบบดุลยพินิจ: ASP-S&P500
บางส่วน: K-USA-A(A), KF-HUSINDX
ทั้งหมด: SCBS&P500
ไม่ป้องกัน: KF-US, TISCOUS
📌ขั้นต่ำของแต่ละกองและเงื่อนไขดังนี้
K-USA-A(A) มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
KF-US มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 2,000 บาท และครั้งถัดไป 2,000 บาท
SCBUSAA มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
TMBUS500 มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
SCBS&P500 มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
TISCOUS มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 0 บาท
KF-HUSINDX มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
ASP-S&P500 มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 5,000 บาท และครั้งถัดไป 5,000 บาท
K-US500X มียอดซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
📌สรุป
หากดูที่ผลตอบแทนหลัก จะเห็นว่า KF-US ทำผลงานได้ดีที่สุด แต่ก็มีความผันผวนสูงกว่ากองอื่นๆ อย่างไรก็ดีกลับมี Sharpe ratio ที่สูงสุดในบรรดากอง Active ที่เราเลือกมารีวิวในวันนี้
เป็นกอง USA สไตล์ Growth ที่มีความผันผวนสูง ซึ่งเราอาจจะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่เรารับได้ สำหรับกองทุนค่าย Baillie Gifford คือถ้าเครื่องติด หรือโอกาสมาถึง มันจะขึ้นแรงทันที
มาดูการวัดกันระหว่างกองทุนค่ายMorgan Stanley ขณะที่กองจากค่าย SCBUSAA ก็เป็น ทำผลงานได้ดีเช่นกัน แต่ค่าธรรมเนียมก็จะสูงกว่ากองจากค่าย K-USA-A(A) ก็คงต้องดูว่าแม้ผลงานทำได้ดีกว่าสำหรับ SCBUSAA แต่สามารถชดเชย Front-end และ TER ที่สูงกว่า K-USA-A(A) ได้หรือเปล่า? ปัจจุบันกอง K-USA-A(A) และ SCBUSAA ยังไม่มีข้อมูลมากนักย้อนหลัง 3 ปี เลยไม่แน่ใจว่าสามารถ Beat กอง Passive ได้หรือไม่ เมื่อคิดค่าฟีของกองทุนเข้าไป แต่ถ้าดูจากกองทุนหลักทั้งสองกองนี้ก็สามารถ Beat Passive ได้อย่างสบาย จากที่ดูกองที่จะชนะเลิศสำหรับ USA คงต้องยกให้ KF-US จริงๆค่าธรรมเนียมที่ดีงามและผลงานที่โดดเด่น คงให้ต้องเขาไปสำหรับรางวัลนี้ และที่ควรระวังคือความผันผวน
แต่ถ้าเลือกความสม่ำเสมออาจจะไป SCBUSAA หรือ K-USA-A(A)
แต่ถ้าใครชอบ Passive ก็แนะนำกองใหม่ที่พึ่ง IPO นะของ K-US500X ดีที่สุดแล้ว ค่าธรรมเนียมต่ำ ชนะเลิศ
เด็กการเงินแนะนำให้มี USA เป็น Core Port ไม่เกิน 30% โดยรวมกับกองประเภท Global Equity แล้วไม่เกิน 40%
เรามีแนบชาร์ตในคอมเม้นเทียบด้วยนะ ไปดูได้!!
รีวิวกอง Global Equity: https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/219002533450551
………………………………………………………………
โฆษณา