Blockdit Logo (Mobile)
The Thinker Man
•
24 ก.ค. 2021 เวลา 17:14 • สุขภาพ
นักวิจัยชี้สารสกัดจาก “โกศจุฬาลัมพา (Artemisia annua)” ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้!!!!
1
ขณะที่นานาชาติกำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไวรัสที่กลายพันธุ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างทั่วถึง จากปัจจัยเรื่องการขนส่งและประสิทธิภาพของวัคซีน
ด้วยเหตุนี้การมองหาการแพทย์ทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรจึงดูเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการต่อกรกับโรคระบาดในขณะนี้ การศึกษาล่าสุดของทีมวิจัยนานาชาติจากสถาบันต่าง ๆ ในเดนมาร์ก เยอรมนี และฮ่องกง พบว่าสารสกัดหลายชนิดจากต้นโกฐจุฬาลัมพา หรือ อาร์เทมิเซีย แอนัว (artemisia annua) มีฤทธิ์ต้านไวรัส SARS-CoV-2 ที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ได้ในสภาวะหลอดทดลอง
ตามเนื้อหารายงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา [1] พบว่าสารสกัดสามชนิดที่ได้จากต้นโกฐจุฬาลัมพาสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในเซลล์เพาะเลี้ยงได้ [2] ที่น่าสนใจคือนักวิจัยพบว่าแม้จะใช้สารสกัดที่ได้มาจากต้นโกฐจุฬาลัมพาที่เก็บไว้กว่า 12 ปี มันก็มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ
เพื่อศึกษากลไกเชิงลึก นักวิจัยได้ทดลองทำให้เซลล์เพาะเลี้ยงของปอดมนุษย์ติดเชื้อ SARS-CoV-2 แล้วให้สารสกัดทั้งสามชนิดจากโกฐจุฬาลัม ได้แก่สาร artesunate , artemether และ artemisinin ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดยับยั้งการเติบโตของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันให้ไวรัสเข้าเซลล์
สารสกัดด้วยน้ำร้อนของต้นโกฐจุฬาลัมพามีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสSARS-CoV-2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักวิจัยคาดว่าสารสกัดมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสภายในเซลล์ที่ติดเชื้อ ทำให้พวกมันไม่สามารถรุกรานเซลล์อื่นและลดการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตามแม้จะได้ผลดีในเบื้องต้นแล้วก็ตาม แต่ทีมนักวิจัยก็วางแผนที่จะติดตามผลกระทบในระยะยาวโดยทำการทดลองทางคลินิกเพื่อประเมินผลกระทบเมื่อใช้สารสกัดโกฐจุฬาลัมมารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในขั้นตอนต่อไป
สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือสารสกัดจากต้นโกฐจุฬาลัมพาถูกนำมาใช้เป็นตัวยาหลักสำหรับรักษาอาการไข้มานานนับพันปีแล้ว พวกมันจัดเป็นไม้พุ่มหรือพืชลำต้นอ่อนที่มีถิ่นกระจายพันธุ์กว้างครอบคลุมทวีปเอเชียและอัฟริกา และที่สำคัญสารสกัดสำคัญของมันอาร์เทมิซินิน (artemisinin) และอนุพันธ์ของอาร์เทมิซินิน ได้แก่ อาร์เตซูเนตและอาร์เตเมเธอร์ถูกจัดเป็นยารักษาผู้ป่วยมาลาเรียที่มีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงต่ำมาก ที่สำคัญคือพวกมันยังใช้รักษาเชื้อมาลาเรียที่ดื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ายาควินินหรืออนุพันธ์ของยากลุ่มนี้
จากการศึกษาเพิ่มเติมยังมีรายงานว่าอนุพันธ์ของสารอาร์เทมิซินินมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัส SARS-CoV-1 ที่เป็นสาเหตุของโรคซาร์สที่เคยระบาดเมื่อปี ค.ศ.2003 เป็นที่รู้ๆกันว่าพวกมันคือไวรัสที่คล้าย SARS-CoV-2 มาก ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจึงเกิดเกิดไอเดียที่จะนำสารสกัดของโกฐจุฬาลัมพามาทดลองกับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ด้วยนั่นเอง
อนุพันธ์ของสารอาร์เทมิซินินมีอยู่หลายชนิดส่วนมากเป้นสารประกอบแลกโตนที่มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิ ด้วยเหตุนี้ในตำรับยาโบราณจึงต้องปรุงพวกมันในอุณหภูมิต่ำๆเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ
ท้ายที่สุดนี้ทีมนักวิจัยได้กล่าวว่า “การค้นพบนี้ได้ช่วยเพิ่มหลักฐานที่ว่าสารสกัดจากโกฐจุฬาลัมพาสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ และพวกมันสามารถยับยั้งการอักเสบและการก่อตัวของเนื้อเยื่อคล้ายแผลเป็นที่เรียกว่าไฟโบรซิส ซึ่งส่งผลต่อผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย แต่เราจำเป็นต้องศึกษาผลทางคลินิกในอนาคตอันใกล้"
ลำต้นแห้งของต้นโกฐจุฬาลัมพาถูกใช้เป็นยาสำหรับรักษาไข้หนาวสั่นและไข้มาลาเรียมานานนับพนปีแล้วในตำรับยาจีน แต่เพิ่งมีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์เมื่อราวต้นศตวรรษที่ 21 มานี้เอง
ไฮไลท์จากงานวิจัย
• โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia annua) มีประสิทธิภาพในการหยุดการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 รวมถึงสายพันธุ์ใหม่อย่างสายพันธุ์อังกฤษ (B1.1.7) และ อัฟริกา (B1.351)
• ฤทธิ์ต้านไวรัสไม่สัมพันธ์กับปริมาณสารอาร์เตมิซินินหรือฟลาโวนอยด์ทั้งหมด
• กลไกการต่อต้านไวรัสดูเหมือนจะไม่ได้ขัดขวางการเข้าสู่เซลล์ของไวรัส
• สารสกัดจากโกฐจุฬาลัมพามีประโยชน์เพิ่มเติมอีกสองประการคือลดการตอบสนองต่อการอักเสบและการเกิดพังผืดในอวัยวะที่ติดเชื้อ
• สารสกัดจากโกฐจุฬาลัมพาอาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและต้นทุนต่ำสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ SARS-CoV-2 ในอนาคตอันใกล้
โฆษณา