26 ก.ค. 2021 เวลา 00:58 • กีฬา
ทำไมโค้ชเช ยังไม่ได้สัญชาติไทยเสียที วิเคราะห์บอลจริงจังจะสรุปเหตุการณ์ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย
โค้ชเช ชเว ย็อง-ซ็อก ได้รับข้อเสนอให้คุมทีมชาติไทยในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 ด้วยสัญญาระยะสั้นแค่ 8 เดือน แต่ไปๆมาๆ เขายืนหยัดอยู่คู่วงการเทควันโด้ไทยมา 19 ปีเต็มแล้ว
1
จากอายุ 27 ปี ปัจจุบันโค้ชเช อายุ 46 ปี จากที่พูดไทยไม่ได้สักคำ ตอนนี้สื่อสารด้วยภาษาไทยได้แล้ว ฟังรู้เรื่อง พูดได้
3
การที่โค้ชยืนหยัดอยู่มาได้นานขนาดนี้ สิ่งสำคัญคือ "ผลงาน"
ก่อนโค้ชเชจะมา ไทยไม่เคยกล้าฝันถึงเหรียญโอลิมปิก แต่พอโค้ชเชมา เราเริ่มได้เหรียญแรก จากเยาวภา บุรพลชัย ในปี 2004 จากนั้น ก็ได้เหรียญเพิ่มมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงเหรียญทอง จากเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในโตเกียว 2020
ดังนั้น จึงพูดได้เต็มปากว่าโค้ชเช คือบุคลากรที่ทรงคุณค่าของวงการกีฬาไทย
1
สำหรับเรื่องสัญชาตินั้น เราคงเคยได้ยินกันมาบ้าง ว่าประเด็นนี้ยืดเยื้อกันมาหลายปีจนเคยมีข่าวดราม่าว่า โค้ชเชน้อยอกน้อยใจเตรียมจะอำลาตำแหน่งโค้ชทีมชาติ
คำถามก็คือ โค้ชเชอยู่ไทยมานานขนาดนี้ สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติก็มาก ทำไมยังไม่ได้สัญชาติเสียทีล่ะ
เรื่องนี้ต้องอธิบายด้วยข้อกฎหมายของไทยจะเห็นภาพชัดเจน โดยพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 มาตรา 19 ระบุไว้ว่า "รัฐมนตรีมีอำนาจถอนสัญชาติไทยได้ทันที ถ้าพบหลักฐานว่า ผู้แปลงสัญชาติ ยังคงเลือกใช้สัญชาติเดิม"
1
นั่นหมายความว่า ทางการไทย "ไม่ได้ห้าม" โค้ชเชแปลงสัญชาติเป็นไทย ตรงกันข้ามกันเลย ประเทศไทยยินดีมากๆด้วยซ้ำ ถ้าคนต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถ อยากจะกลายมาเป็นคนไทย
2
แต่ด้วยเงื่อนไขของการขอสัญชาติ นั่นแปลว่าโค้ชเชจำเป็นต้องสละสัญชาติเกาหลีใต้ของตัวเองเสียก่อน
 
สำหรับบุคคลทั่วไป อาจมีการแอบถือพาสปอร์ต 2 เล่ม คือในทางปฏิบัติมันพอทำได้ แต่กับคนมีชื่อเสียงอย่างโค้ชเช ที่คนจับตามองทั้งประเทศ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบเลี่ยงแอบถือ 2 สัญชาติ
2
ดังนั้นเรื่องมันก็เลยคาราคาซังกันอย่างนี้ เพราะโค้ชเชเองก็ไม่พร้อมที่จะสละสัญชาติเกาหลีใต้เหมือนกัน
ย้อนกลับไปในปี 2016 โนห์ กวาง-อิล เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยได้เข้าไปพูดคุยกับ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เรื่องการขอสัญชาติที่ 2 ให้กับโค้ชเชเป็นกรณีพิเศษในฐานะบุคคลที่ทำความดีให้ไทยและอยู่ไทยมานานนับสิบปี
2
แต่การพูดคุยครั้งนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะกฎหมายไทยระบุชัดอยู่แล้ว และโค้ชเชก็ไม่ได้มีสิทธิพิเศษเหนือใคร สรุปคือเขาถือ 2 สัญชาติไม่ได้
1
ดังนั้นก็อยู่ที่ตัวโค้ชเชเองนั่นแหละ ที่ต้องมาหักลบเหตุผล พิจารณาข้อดีข้อเสีย ว่าการถือสัญชาติไหน จะตอบโจทย์ชีวิตเขามากกว่ากัน
การถือสัญชาติเกาหลีใต้ ก็จะได้รับสิทธิพลเมืองของคนเกาหลีใต้แบบเต็มร้อย พาสปอร์ตเล่มเขียวของเกาหลีใต้ สามารถเดินทางได้ 191 ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นพาสปอร์ตที่มีพลังมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก (ส่วนพาสปอร์ตไทย ไปได้ 57 ประเทศ) นอกจากนั้นในตระกูลของโค้ชเช มีเขาเป็นผู้ชายคนสุดท้าย นั่นแปลว่าถ้าเขาสละสัญชาติ ตระกูลชเวก็จะขาดตอนทันที อีกอย่างโค้ชเช ยังมีห่วงที่เกาหลีใต้ คุณย่าก็อายุมากแล้ว ขณะที่ตัวเขาก็นึกไม่ออกเลยว่า จะใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศอื่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเอง จากหลายๆเหตุผลทำให้โค้ชเชเองก็มีความลังเลใจเช่นกัน
1
อย่างไรก็ตามในอีกมุม การถือสัญชาติไทยก็มีความสำคัญ เพราะการจะประกอบธุรกิจหรือซื้อที่ดินต่างๆ โค้ชเชไม่สามารถทำได้ในฐานะคนต่างด้าว เช่นเดียวกับการขึ้นเป็นสภากรรมการของสมาคมฯ ก็ระบุไว้ว่าต้องเป็นคนสัญชาติไทยเท่านั้น นั่นแปลว่าถ้าโค้ชเชไม่มีสัญชาติไทย เขาก็จะเป็นได้แค่ผู้ฝึกสอนตลอดไปไม่ก้าวหน้าไปกว่านี้แล้ว และจะคิดทำธุรกิจอะไรในประเทศไทยก็ยากไปหมด
4
การถือสัญชาติเกาหลีใต้ หรือไทย ก็ต่างมีประโยชน์และตอบโจทย์คนละแบบ แต่ปัญหาคือคุณไม่สามารถได้อะไรทุกอย่างที่ต้องการ เมื่อได้อย่างก็จำเป็นต้องเสียอย่างอยู่ที่ตัวเขาเองนั่นล่ะ ว่าจะเลือก "ได้อะไร" และจะเลือก "เสียอะไร"
5
และแล้วหลังจากที่คิดหนักมาหลายปี ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ โค้ชเชประกาศว่า "ผมพร้อมจะสละสัญชาติเกาหลี ครอบครัวของผมก็อยู่ที่นี่มานานแล้ว ทำให้รักและผูกพันกับเมืองไทย รักคนไทยและกีฬาเทควันโดของไทยมากเช่นกัน จึงอยากอยู่เมืองไทยตลอดไป"
7
โค้ชเชบอกว่าครอบครัวที่เกาหลีเข้าใจแล้ว และหมดห่วงเรื่องคุณย่าที่เสียชีวิตไปแล้ว เขายืนยันว่า ลูกชายอยู่ที่ไทยก็มีความสุข ขณะที่ตัวเขาก็แฮปปี้กับชีวิต เพราะมีลูกศิษย์มากมายซึ่งก็เปรียบเหมือนลูกชายและลูกสาวของตัวเองอีกคน ดังนั้นจึงพร้อมที่จะเดินหน้าในสเต็ปต่อไปแล้ว
4
โค้ชเชกล่าวว่า "ผมอยากได้สัญชาติไทย ผมอยากเป็นคนไทยแล้ว ผมอยากคว้าเหรียญทองโอลิมปิกให้ประเทศไทย ในฐานะคนไทย ไม่ใช่คนเกาหลีที่พานักกีฬาไทยได้เหรียญ"
6
ตอนนี้เท่ากับว่าโค้ชเช ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะตัดสินใจทิ้งสัญชาติเกาหลี แล้วขอเป็นพลเมืองไทยไปตลอดชีวิต ซึ่งถ้าว่ากันแฟร์ๆ การทิ้งรากเหง้าต้นกำเนิดของตัวเอง มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่โค้ชเชหักลบทุกอย่างแล้ว เขายืนยันว่าอยากเป็นคนไทยแล้วจริงๆ และยอมทิ้งสิทธิพลเมืองทุกอย่างของเกาหลีอย่างไม่ลังเลใจอีก
7
ขั้นตอนต่อจากนี้ โค้ชเชเตรียมเอกสารไว้เกือบครบแล้ว เดี๋ยวก็จะยื่นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาต่อไป
1
จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะโค้ชเชเข้าหลักเกณฑ์ทุกอย่าง ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม มีอาชีพสุจริต มีรายได้เกิน 8 หมื่นต่อเดือน มีความดีความชอบมากมาย ยิ่งมีเหรียญทองโอลิมปิกแบบนี้แล้วด้วยล่ะก็ จึงเชื่อว่า พอโค้ชเชกลับไทยแล้ว การเดินหน้าเรื่องสัญชาติ น่าจะจบลงโดยไม่ยากนัก
1
สำหรับเรื่องสัญชาติของโค้ชเช คิดด้วยคอมม่อนเซนส์เลยนะ ว่าคนต่างชาติที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยขนาดนี้ ปั้นนักกีฬาคนแล้วคนเล่าให้ไปถึงโอลิมปิกขนาดนี้ แถมยินดีจะสละสัญชาติเกาหลีใต้ เพื่อให้เข้าเกณฑ์ที่สุดขนาดนี้ ยังมีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธเขาอีกรึ
5
สุดท้ายถ้าถามผมว่า ควรให้สัญชาติโค้ชเชไหม คำตอบของผมคือ ไม่เห็นจะมีข้อโต้แย้งอะไรเลย เขาควรได้รับมันอย่างยิ่งแล้ว
3
เพราะมันน่าดีใจออกไม่ใช่หรือ ที่บุคลากรคุณภาพขนาดนี้ เลือกทิ้งทุกอย่าง และตัดสินใจขอเป็นคนไทยเหมือนกับพวกเราทุกคน
1
#COACHCHOI
โฆษณา