26 ก.ค. 2021 เวลา 11:22 • ท่องเที่ยว
Kunming-Dali-Lijiang-Shangrila (3)
วันที่2 (5/11/2017) Lijiang : Jada Dragon snow mountain - Blue moon valley
ดูโพสก่อนหน้านี้
ทันที่ที่เราเดินออกมาจากชานชลาของสถานีรถไฟลี่เจียง ก็พบคนขับรถที่เราติดต่อเช่ารถไว้จากเมืองไทย ถึอป้ายรอเราอยู่แล้ว หลังจากแนะนำตัวแล้วว่าชื่่อ มสเตอร์ไป๋ และเมื่อขึ้นรถแล้วเราก็เจอคนขับตัวจริงงอีกคนชื่อ มิสเตอร์ไป๋ เช่นกัน น่าจะเป็นญาติตระกูลเดียวกัน เราเลยเรียก B1 B2 แทน
อากาศค่อนข้างหนาว แต่ไม่มีปัญหาใดๆกับพวกเรา เพราะเราจัดเต็มตั้งแต่ก่อนลงรถไฟแล้ว อุณหภูมิที่สถานีรถไฟตอนตีห้ากว่า น่าจะประมาณ 5 องศา
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แต่มื้อแรกของเราเรียบง่ายไปหน่อยนะ เพราะมิสเตอร์ไป๋พาเราไปร้านอาหารร้านนึง แต่ดูเหมือนยังไม่พร้อมให้บริการเพราะยังเช้าเกินไป เราจึงไปรุมซื้อซาลาเปาน้ำเต้าหู้ริมทางแทน รุมซื้อจน โจ้ก ซาลาเปา แทบหมดเกลี้ยง หลังจากนั้นก็เข้ามินิมาร์ทซื้อน้ำขวด และขนมติดเป้
มิสเตอร์ไป๋2 พาพวกเราไปซื้อตั๋วเคเบิลคาร์ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกคนละ 150 หยวน และค่าเข้าอีกคนละ 80 หยวน
ภูเขาหิมะมังกรหยก หรือ อวี้หลงเซี่ยซาน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียง เป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี ทิวเขาแห่งนี้ประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งหุบห้วย ธารน้ำ แนวผา และทุ่งหญ้าน่าซี ทิวเขาแห่งนี้เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายมังกรกำลังเลื้อย สีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นดูราวกับหยกขาว ที่ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้า คล้ายมังกรขาวบนฟากฟ้า ทิวเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ภูเขาหิมะมังกรหยก JADE DRAGON SNOW MOUNTAIN นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขาที่ความสูงกว่า 3,356 เมตร และสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,506 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติบนจุดที่สวยงามที่สุด ตลอดสองข้างทางที่ขึ้นยอดเขา ชื่นชมและดื่มด่ำกับความหนาวเย็นของธรรมชาติ อีกทั้งภูเขาหิมะมังกรหยกแห่งนี้ ยังเป็นที่มาของตำนาน ชนเผ่าน่าซี ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบแถบนี้มานานนับพันปี ทิวเขาแห่งนี้มีพัมธุ์พืชปกคลุมอย่างหนาแน่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ป่าจะผลิบานมีสีสันตระการตา ผู้คนจะพากันต้อนสัตว์เลี้ยง พวก แพะ แกะ และจามรีเพื่ออกมากินหญ้า
ระหว่างรอซื้อตั๋ว ก็ไปเข้าห้องน้ำกัน ห้องน้ำเป็นห้องหับมิดชิด แต่ไม่มีโถส้วม เข้าไปแล้วในห้องจะเป็นรางที่ยาวตลอดทุกห้อง เราต้องนั่งคล่อมรางและขับถ่ายลงรางไป อย่าได้ก้มมองก้นราง เพราะจะเห็นซากอารยธรรมของคนก่อนเรานอนสงบนิ่งอยู่ ยังดีว่าห้องหับมิดชิด ไม่ต้องนั่งมองหน้ากัน
แต่หน้าห้องน้ำ ทัศนียภาพช่างน่าถ่ายภาพยามเช้ายิ่งนัก แต่เราก็อยู่นานไม่ได้ เพราะมิสเตอร์ไป๋มาเร่งให้รีบขึ้นรถ เพราะกลัวคนเยอะจะเข้าคิวขึ้นรถบัสนาน และก็จริงตามนั้น เพราะเราไปถึงเป็นกลุ่มแรกๆที่คนยังไม่เยอะ แต่หลังจากนั้นกลุ่มทัวร์กลุ่มใหญ่ก็ตามมาติดๆ
ซื้อตั๋วแล้ว เราต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสอีกคันตรงทางเข้า เส้นทางจากที่ซื้อตั๋วไปยังจุดเปลี่ยนรถจะเห็นภูเขาหิมะระยะไกลสวยงามมากมาย อยากจะลงไปเก็บภาพ แต่คนรถบอกว่าให้รีบไปเข้าคิวขึ้นรถบัส เพราะคนยังไม่เยอะ ก็ได้แต่เก็บภาพจากบนรถแทน
ผู้คนมหาศาลล้านแปด เข้าแถวรอขึ้นรถเกือบ ชม. รถบัสจะพาขึ้นเขาไปยังจุดจอดเคเบิลคาร์ ทันทีที่ลงรถ เราก็ต้องร้องว้าวกับหิมะแรกที่พึงตกไปหมาดๆ
เราก็ต้องไปเข้าแถวขึ้นเคเบิลคาร์ แถวยาวมากแต่ก็เลื่อนไปเรื่อยๆใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมง ระหว่างอยู่ในแถวก็ซ้อมใช้ออกซิเจนกระป๋องกันคนละปี๊ดสองปี๊ด พวกเรากินยา Daimok เพื่อปรับความดันในร่างกายมาล่วงหน้ากันแล้ว จึงชิวชิวลั้นลาไม่มีอาการหน้ามืดใดๆ แต่อาหมวยอาตี๋ ที่อยู่ในแถวตาลอยสูดออกซิเจนกันใหญ่
วิวจากบนเคเบิลคาร์ สวยงามจนเราต้องลุกยืนเก็บภาพกันแบบไม่ยั้ง
ออกจากเคเบิลคาร์แล้ว ความงามของหิมะแรกขาวฟูปรากฎให้เห็นเต็มสองตา อากาศไม่หนาวมากอย่างที่กังวล ชุดที่พวกเราใส่มาเอาอยู่ทุกคน
และต้องไม่พลาดกับป้ายจุดสูงสุดที่ 4506 เมตร
เดินมากๆก็มึนเหมือนกัน และเพื่อมิให้ออกซิเจนกระป๋องที่ซื้อมาแพงต้องสูญปล่าว เลยเอามาสูดกันให้ชื่นใจกันคนละปื๊ดสองปื๊ดอีก และขอแนะนำให้ซื้อติดมือมาอย่าขี้เหนียวเพราะช่วยได้มากทีเดียวเมื่อรู้สึกมีนให้รีบเอามาใช้ เพราะถ้าเกิดอาการ Altitude sickness หรือความกดอากาศเบาบางบนที่สูงมากๆ จะทำให้เกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจเกิดอาการช๊อคเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ไม่ต้องกลัวอด บนนั้นมีมีเกาเหลาลูกชิ้นเนื้อจามรีร้อนๆราคา 20 หยวน และข้าวโพดต้มฝักละ 10 หยวน ด้านในอาคารก็มีอาหารขาย
ชื่นชมความงามจนเต็มอิ่ม ก็ลงจากกระเช้า ขึ้นรถบัสตรงจุดดที่่ลงรถบัสไปต่อที่ Blue Moon Valley
อุทยานน้ำหยก (Jade Dragon Village) ตั้งอยู่ริมสายธารน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลรินลงมาจากการละลายของหิมะบนภูเขาหิมะ มังกรหยก ซึ่งเป็นต้นชีวิตของชาวน่าซีที่อาศัยอยู่ในลี่เจียง ซึ่งในอุทยานน้ำหยกนี้จะมี บ่อน้ำผุดศักดิ์สิทธิ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวน่าซีอยู่ ด้วยกันกับ รูปสักการะของเทพเจ้าผู้คุ้มครองภูเขาหิมะมังกรหยก ตามความเชื่อในวัฒนธรรมตงปาของชาวน่าซีบริเวณอุทยานน้ำหยก สายน้ำได้ให้กำเนิดน้ำตกมังกร 3 ชั้น
ตามแหล่งท่องเที่ยวเรามักจะพบ คู่บ่าวสาว มาจัดถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะมาก
เย็นมากแล้ว เราเที่ยวไม่ครบทุกจุดเลย แต่ต้องกลับมาเช็คอินเข้าที่พัก และให้คนรถพักรถ
จุดยอดนิยาม น้ำตกที่เป็นชั้นพวกเราพลาดไปไม่ถึง เสียดายมาก แต่ก็ยังพอได้ระยะไกลจากบนรถแบบเห็นลิบลิบ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะแวะที่หมู่บ้านไป๋ เป็นจุดสุดท้าย แต่เย็นมากแล้ว เราควรรีบเช็คอินเข้าที่พักดีกว่า วันนี้เราเลือกพักที่ Lijiang Sheepherder Hotel อยู่นอกเมืองเก่าทางทิศใต้ เพราะติดใจวิวเมืองเก่าและภูเขาหิมะจากในห้องนอน และจะขึ้นไปเก็บภาพจากบนดาดฟ้าก็ได้
หลังจากอาบน้ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย เราก็ออกมาหาอาหารเย็น เลือกร้านอาหารแถวๆโรงแรม สั่งกันกระจายกินกันไม่ยั้ง เพราะตั้งแต่เช้าเราก็กินกันแบบกันตาย ยังไม่มีมื้อใหญ่เลย ค่าอาหารมื้อนี้หมดไป 480 หยวน (สองพันกว่าบาท สำหรับ 11 คน)
เดินกันไม่ไกล เพราะแต่ละคนง่วงจากการอดนอนในรถไฟมากแล้ว และวันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปแชงกรีล่า
จบการเดินทางวันที่ 2 พบกันตอนต่อไป แชงกรีล่า The Lost Horizon

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา