27 ก.ค. 2021 เวลา 00:00 • สัตว์เลี้ยง
โรคระบบทางเดินอาหารที่มักพบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง
โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารนับเป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงทุกเพศทุกวัย โดยระบบทางเดินอาหารจะเริ่มนับตั้งแต่ช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ไปจนถึงอวัยวะขับถ่ายของสุนัขและแมว เมื่อสัตว์เลี้ยงแสดงอาการเจ็บปวดในส่วนของทางเดินอาหาร
เบื้องต้นต้องทำการแยกให้ออกว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดมาจากส่วนใด รวมถึงพยายามหาสาเหตุของความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง
===========
อาการของระบบทางเดินอาหารที่เจ้าของควรรู้ไว้
สำหรับอาการที่มักพบได้ในโรคกลุ่มทางเดินอาหาร พบตั้งแต่น้ำลายไหลมากเกินไป ท้องเสีย ถ่ายเหลว ท้องผูก อาเจียน สำรอก น้ำหนักลด มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ รวมถึงเมื่อลองกดช่องท้องของสัตว์แล้วพบว่ามีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วอาการที่แสดงออกจะบ่งบอกถึงตำแหน่งที่เกิด เช่น
1. อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคในช่องปาก กราม หรือหลอดอาหาร
มักพบสัตว์มีการเคี้ยวหรือกัดที่ผิดปกติไปจากเดิม หรือพบว่าบางครั้งสัตว์จะแสดงการกลืนที่มีปัญหา
2. อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคในกระเพาะอาหารหรือลำไส้
เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้น สิ่งที่เจ้าของจะสามารถสังเกตได้คือ มักพบสัตว์แสดงอาการอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการอักเสบนั้นต้องให้สัตวแพทย์ช่วยวินิจฉัย อาจเกิดได้ทั้งจากโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามการอาเจียนไม่ใช่ความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารเสมอไป สัตว์ที่มีภาวะโรคไตก็มีภาวะของการอาเจียนได้เช่นกัน ทั้งนี้อาจต้องใช้การสังเกตอาการอื่น ๆ ของสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม รวมถึงการตรวจทางห้องปฎิบัติการซึ่งจะช่วยยืนยันภาวะของโรคที่เกิดขึ้นได้
==========
สาเหตุของอาการระบบทางเดินอาหารที่เจ้าของควรรู้ไว้
1. เกิดจากพยาธิในระบบทางเดินอาหาร
การปวดท้องของสัตว์เลี้ยงยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการมีพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งไม่เพียงแต่พยาธิจะแย่งสารอาหารจากสัตว์ แต่ยังก่อให้เกิดความผิดปกติในทางเดินอาหารได้อีกด้วย สำหรับวิธีการป้องกันนั้นง่ายมาก คือควรให้สัตว์ได้รับยาถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ ตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำในแต่ละช่วงอายุสัตว์
2.เกิดจากอาหารและโภชนาการที่ไม่เหมาะสม
นอกจากโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแต่ทำให้สัตว์เกิดความเจ็บปวดได้ เช่น การกินมากเกินไป หรือกินอาหารที่ไม่เหมาะสมกับระบบย่อยอาหารของสัตว์ชนิดนั้น ๆ (สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องสุนัขกับพิษของการกินช็อกโกแลต https://bit.ly/3rdTTKM ) กระดูกที่เจ้าของนำมาให้สัตว์เลี้ยงกัดแทะเล่น ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารได้ เช่น การทิ่มแทงของกระดูกในกระเพาะหรือลำไส้ของสุนัข หรือก้างปลาแทงปากและหลอดอาหารของแมว สาเหตุเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการดูแลสัตว์และให้อาหารสัตว์ ซึ่งมักกลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ได้
3.เกิดจากสารพิษบางอย่างที่ผลิตในร่างกายหรือได้รับจากภายนอก
บางครั้งอาการที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารก็ไม่ได้มีสาเหตุโดยตรงมาจากทางเดินอาหาร เช่น เมื่อสัตว์เป็นโรคที่เกี่ยวกับไต ตับ หรือต่อมหมวกไต มักพบมีการอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากความเป็นพิษของสารที่ผลิตออกมา หรือสะสมในกระแสเลือดจากโรคดังกล่าว
==========
คำแนะนำเมื่อพบสัตว์เลี้ยงมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร
เจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจใช้วิธีเบื้องต้นในการแบ่งแยกความผิดปกติของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ด้วยการดูภาวะการแพร่กระจายของโรค โดยหากเกิดขึ้นเฉพาะตัวสัตว์และไม่พบอาการเดียวกันในสัตว์เลี้ยงที่อยู่ด้วยกัน สาเหตุมักเกิดจากกลุ่มโรคไม่ติดเชื้อ ***ยกเว้นการได้รับสารพิษซึ่งสัตว์ที่เลี้ยงด้วยกันมักพบว่าจะแสดงอาการที่เหมือนกัน
ปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของ คืออาการท้องเสียหรือถ่ายเหลว ที่มักพบว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในทางเดินอาหาร เมื่อสัตว์เกิดอาการท้องเสีย สิ่งที่เจ้าของต้องระมัดระวัง คือภาวะช็อคจากการสูญเสียอิเล็คไตรไลท์และการขาดน้ำอย่างรุนแรง ทั้งนี้ให้เจ้าของสังเกตสีของอุจจาระที่เปลี่ยนไป ความถี่และลักษณะของอุจจาระเพื่อประกอบการวินิจฉัยในเบื้องต้น ร่วมกับท่าทางของสัตว์เลี้ยงที่ผิดปกติไป เช่น นอนขดคล้ายปวดท้อง การเหยียดขาหน้าออกมากกว่าปกติ การวางอกบนพื้น และยกขาหลังขึ้น เป็นต้น
คำแนะนำเบื้องต้นหากพบภาวะท้องเสียในสัตว์ที่มีสุขภาพดี
กรณีเกิดอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน แนะนำให้งดอาหาร 12-24 ชั่วโมง หรือให้อาหารที่มีลักษณะย่อยง่ายในปริมาณเล็กน้อย สามารถให้น้ำได้เป็นปกติ และรีบพาไปปรึกษากับสัตวแพทย์ เพื่อจัดการกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงให้ยารักษาอาการ หรือให้สารน้ำเพื่อชดเชยอิเล็คโตรไลท์และน้ำที่สูญเสียไป
หากสัตว์เลี้ยงของเพื่อน ๆ เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น อย่านิ่งนอนใจนะคะ เพราะอาจจะเป็นอะไรที่มากเกินกว่าท้องเสียธรรมดาได้ค่ะ
สพ.ญ.สุดา สุระสินธุ์อนันต์
============
👉 Deemmi
ที่ปรึกษาออนไลน์เพื่อคนเลี้ยงสัตว์ (Televetmed)
ให้คำแนะนำโดยคุณหมอจากโรงพยาบาลสัตว์ทั่วประเทศ
👉 พบกับเราเร็ว ๆ นี้ผ่านช่องทาง
Website: www.deemmi.com (เร็ว ๆนี้)
Line: @deemmi
FB: DeemmiOfficial
โฆษณา