28 ก.ค. 2021 เวลา 04:06 • การศึกษา
อะไร คือ ความแตกต่างของคนที่ประสบความสำเร็จในทางการเงินกับคนที่ประสบความล้มเหลวในทางการเงิน
คำตอบ คือ “วิธีการในบริหารจัดการเงิน”
ในหนังสือ “ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน” (Secrets of the Millionaire Mind) ของที ฮาร์ฟ เอคเคอร์ (T.Harv Eker) ซึ่งเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐี ได้กล่าวถึงระบบการบริหารจัดการเงินที่ง่ายและมีประสิทธิผลที่สุด โดยใช้วิธีการแบ่งเงินที่ได้รับมาออกเป็นสัดส่วนและแยกเก็บเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือกระปุกออมสินจำนวน 6 บัญชี/กระปุก ดังต่อไปนี้ค่ะ
#กระปุกรายจ่ายที่จำเป็น (Necessities) 55%
ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าดูแลพ่อแม่และครอบครัว ค่าประกัน ฯลฯ
#กระปุกออมเงินเพื่อใช้จ่ายระยะยาว (Long-Term Savings for Spending) 10%
ได่แก่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ เงินดาวน์บ้านและรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนคอนโด ค่าผ่อนรถ ฯลฯ
#กระปุกให้รางวัลตัวเอง (Play) 10%
ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเพื่อให้รางวัลตัวเองและครอบครัว ดูหนัง ช้อปปิ้ง กินหรู อยู่สบาย ทำสปา เสริมสวย และท่องเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ
#กระปุกการศึกษา (Education) 10%
ได้แก่ ค่าหนังสือ ค่าสัมนาอบรม เวิร์กช็อปต่าง ๆ ค่าเรียนปริญญาโท ฯลฯ
#กระปุกการลงทุนเพื่ออิสรภาพทางการเงิน (Financial Freedom Account) 10%
ได้แก่ การลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย เช่น หุ้น กองทุนรวม สลากออมสิน ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ประกันสะสมทรัพย์ ประกันบำนาญ ฯลฯ
#กระปุกแบ่งปัน (Give) 5%
ได้แก่ เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ทุนการศึกษาสำหรับเด็กยากไร้ ทำบุญ รวมถึงซื้อของขวัญให้เพื่อนๆ
ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีเงินเดือนในอัตราเดือนละ 100,000 บาท เราจะจัดสรรและแบ่งเงินเป็นสัดส่วน ดังนี้ค่ะ
🏠กระปุกรายจ่ายที่จำเป็น 55,000 บาท
🚗กระปุกออมเงินเพื่อใช้จ่ายระยะยาว 10,000 บาท
👜กระปุกให้รางวัลตัวเอง 10,000 บาท
👩‍🎓กระปุกการศึกษา 10,000 บาท
💸กระปุกการลงทุนเพื่ออิสรภาพทางการเงิน 10,000 บาท
😇กระปุกแบ่งปัน 5,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคนเรามีความจำเป็นในชีวิตที่แตกต่างกัน สัดส่วนในการเก็บออมจึงสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้ตามวัตถุประสงค์ทางการเงินของเรา
ทั้งนี้หากเรากำหนดเป้าหมายทางการเงินและสัดส่วนไว้ชัดเจนแล้ว อย่าลืมเก็บเงินใส่กระปุกไว้อย่างเคร่งครัดในแต่ละเดือนด้วยนะคะ ความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงินย่อมเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ
โฆษณา