28 ก.ค. 2021 เวลา 04:26 • ท่องเที่ยว
จากมัณฑะเลย์ สู่เฮโฮ
จากมัณฑะเลย์ เรามีจุดมุ่งหมายที่จะไปที่เมืองยองชเว (Nyaung Shwe) ในรัฐฉานของพม่า เพื่อไปดูวิถีชีวิตของชาวอินทาผู้มีชีวิตผูกพันอยู่กับทะเลสาบอินเล … การเดินทางอาจจะทำได้ 2 ทาง คือการเดินทางโดยบริการรถโดยสาร หรือเดินทางทางเครื่องบิน เราศึกษาดูแล้วเห็นว่าควรเดินทางทางเครื่องบินน่าจะปลอดภัยและไม่ทรมานตัวเองมากนัก ด้วยหากใช้การโดยสารรถประจำทางจะมีช่วงขึ้นเขาสูงที่น่าเป็นห่วงอยู่บ้าง และคงใช้เวลานานมากพอสมควร
เราติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินจากบริษัทนายหน้าขายตั๋วซึงมีอยู่ทั่วไป เลือกเวลาบินที่เหมาะสม แล้วจ่ายเงินคนละ 39 USD พร้อมนัดหมายเวลาให้รถมารับที่โรงแรม แค่นี้ก็เรียบร้อย
เราใช้เวลาที่เหลือไปทานไอศกรีมที่ร้านใกล้ๆโรงแรม ชื่อร้าน Nylon Ice Cream ที่สองสามีภรรยาชาวเกาหลีพาเรามาทานเมื่อวานนี้ …
วันนี้มีพระสองรูปมานั่งทานไอศกรีมที่ร้านนี้ด้วยค่ะ นี่ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดในมัณฑะเลย์ค่ะ การที่พระสงฆ์จะออกมานั่งดื่มน้ำชากาแฟตอนเช้าที่ร้านกาแฟใกล้วัด หรือไอศกรีมอย่างนี้เห็นได้บ่อยๆ หรือภาพที่พระสงฆ์ช่วยดึงมือผู้หญิงขึ้นรถก็ไม่แปลก …
ชาวพุทธในเมืองไทยอาจจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ละคิดว่าพระสงฆ์ในพม่าไม่เคร่งในการปฏิบัติตนเยี่ยงพระ แต่นั่นเป็นความคิดและความรู้สึกด้วยภูมิหลังที่แตกต่างกัน … เคยมีพระสงฆ์ในไทยอธิบายว่า การถูกเนื้อต้องตัวหญิงโดยกำหนัด ก็บาปไม่อาบัติ เราจึงเห็นพระพม่าช่วยเหลือหญิงสูงอายุ เด็กหญิงอยู่ตลอดเวลา
สนามบินมัณฑะเลย์อยู่ไกลจากตัวเมืองมากเลยค่ะ ใช้เวลาขับรถราว 45 นาที ผ่านหมู่บ้านต่างๆ เรือกสวน ไร่นาที่ดูแห้งแล้งมากมาย รู้สึกเหมือนกำลังจะเดินทางในทะเลทราย และ in the middle of nowhere จริงๆค่ะ ดูแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าเรากำลังจะเดินทางไปสนามบิน … อาคารสนามบินดูทันสมัย เป็นตึกคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งพอรถมาจอดก็มีหนุ่มๆพนักงานของสนามบินกุลีกุจอมาช่วยยกเป้ เข็นกระเป๋าเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร
ฉันมองหาป้าย information พบว่ามีจอมอนิเตอร์อยู่หนึ่งอัน ที่มีข้อความบอกว่าไฟล์ที่จะเข้าและออกจากสนามบินแห่งนี้มีอะไรบ้าง เวลาเท่าไหร่ … แต่หาไฟล์ที่เราจะบินไม่เจอค่ะ …
พอถามเจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าคงจะยุบรวมกับไฟล์ที่มาจากย่างกุ้งที่ตรงไปเฮโฮ แต่จะมาถึงกี่โมงยังไม่รู้เลย ยูเดินเล่นรอไปเรื่อยๆก็แล้วกัน ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงเวลาเมื่อไหร่ ไอจะมาบอกเองว่าจะเช็คอินที่ไหน และจะมาช่วยถือกระเป๋าเข้าไปให้ no problem จริงๆนะ … แล้วหนุ่มน้อยก็ยิ้มให้ ก่อนจะเดินจากไป
ท่าทางของเจ้าหน้าที่ที่บอกเราดูเฉยๆมาก … ไม่เข้าใจจริงๆ แต่จากการที่เคยอ่านบทความหลายจากหลายๆคนที่เขียนเกี่ยวกับการบินของพม่า ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เรื่องความสับสน การไม่ตรงต่อเวลาของสายการบินพม่านั้น เป็นเรื่องปกติ ติองทำใจ ไม่ต้องกังวลให้เสียเวลา อย่างมากก็ต้องวิ่งตามเครื่องบินให้ทันเท่านั้นเอง … จะว่าไป เครื่องบินในพม่าก็เหมือนรถโดยสารนั่นเอง คิดอยากจะบินเวลาไหนเขาก็บิน โดยไม่มีตารางเวลาที่แน่นอน ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารเป็นหลัก
อาคารสนามบินเป็นการฆ่าเวลา … บรรยากาศรอบๆอาคารผู้โดยสารมีผู้คนน้อยมาก คงเป็นสนามบินที่ไม่ค่อยป๊อบปูล่ามากนัก ผู้คนไปใช้บริการคงน้อยมาก สังเกตได้จากหยากไย่ที่เกาะอยู่ตามเพดานที่ถึงมาหนาตาแต่ก็มากพอดู … เรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ดื่มน้ำ อ่านหนังสือนำเที่ยว สักพักก็มีคนไทย 2 คนเข้ามาที่อาคารผู้โดยสาร พอรู้ว่าไฟล์ดีเลย์แบบที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ทั้ง 2 หนุ่มถึงกับกุมขมับ เพราะมีตารางงานที่ต้องทำ
ไฟล์ของเราดีเลย์ราว 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีเครื่องบินมารับ … เราเดินขึ้นไปบนเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบอกว่าเลือกที่นั่งได้เอง ตรงไหนก็ได้ … ดีจัง … ขณะที่อยู่บนท้องฟ้า ไม่มีการแจกอาหารและเครื่องดื่มค่ะ ด้วยเป็นการบินระยะสั้น เราก็เลยได้แต่มองหน้าตาสวยๆของพนักงานต้อนรับของสายการบินพม่า
ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา เครื่องบินใบพัดแต่ดูทันสมัยกว่าแต่ก่อนมากก็นำเรามาถึงท่าอากาศยานเฮโฮอย่างปลอดภัย ขณะรอกระเป๋าเลยเก็บรูปอาทิตย์อัสดงที่สนามบินมาฝากค่ะ
เราออกมาหาพาหนะที่จะเข้าไปที่ยองชเว … พอเดินไปที่ลานจอดรถ พลันก็ได้ยินชายต่างชาติที่ยืนอยู้พร้อมเพื่อนอีก 1 คนพูดว่า
“Do you want to share the cost?”
“In case we take a taxi, it would be 5,000 yjat per person. However, for this pick-up (เหมือน 2 แถวบ้านเรา), it w”ill be 4,000”
ฉันหันไปถามคนขับสองแถวบอกว่าคนละ 3 พันจั๊ดได้ไม๊ สำหรับ 4 คน … คนขับรถบอกว่าไม่ได้ครับ ระยะทางไกลมาก
พอได้ยินเช่นนั้น ฝรั่งที่ถามเราเลยเดินไปที่แท็กซี่ พร้อมกับนำสัมภาระของเขาใส่ลงในที่เก็บของท้ายรถ … พลันคนขับก็บอกกับฉันว่า โอเคๆ 3 พันก็ได้ (วะ) … ฉันเลยตะโกนถามฝรั่ง 2 คนนั่นว่า จะไปด้วยกันหรือเปล่าในราคาสามพันจั๊ด … ฝรั่งทั้งสองรีบเอาของออกมาจากแท็กซี่ และมาสมทบกับเราที่รถสองแถว …
… นึกๆไป คนขับรถแท็กซี่คงไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่โดนตัดราคา และแย่งผู้โดยสารในตอนเย็นมากแล้วอย่างนี้ แต่ไม่เห็นเขาแสดงอาการไม่พอใจ หรือขัดเคืองอะไร … หรือนี่คือวิถีทางที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดในประเทศที่เกือบจะห่างไกลกับคำๆนี้ที่สุด?
เฮโฮเป็นเมืองที่เป็นประตูสู่รัฐฉานของพม่า … ฉันไม่เคยตระหนักว่าสนามบินเฮโฮอยู่ห่างจากเมืองยองชเวมากจริงๆ จนกระทั่งได้นั่งมาเรื่อยๆบนรถ … ถนนที่รถแล่นผ่านเป็นทางแคบๆ บางส่วนลาดยาง แต่บางส่วนก็ชำรุด จึงออกจะหวาดเสียวนิดๆยามที่รถแล่นสวนหลบรถคันอื่น หรือพาหนะของชาวบ้าน เช่น รถม้า หรือเกวียนเทียมโค …
พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ผ่านตา เป็นป่าละเมะ มีภูเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง บ้านเรือนปลูกอยู่ห่างๆกัน เราผ่านหมู่บ้าน ร้านค้า ไร่นา ชุมชนนับไม่ถ้วน … บางครั้งรถจอดส่งของที่รับมากลางทาง แล้วแล่นต่อไป หยุดเติมน้ำมันกลางทาง … ระยะทางที่ไกลมากถึง 22 กิโลเมตร ทำให้ฉันรู้สึกผิดนิดๆที่ไปต่อรองราคาลงมาให้เหลือแค่ราวคนละ 100 บาท ซึ่งดูแล้วคงไม่คุ้มค่า แต่ดีกว่าวิ่งรถเปล่า
เรามาถึงเมืองยองชเว อันเป็นหน้าด่านของทะเลสาบอินเล ที่เราตั้งใจจะไปเยือนราวหนึ่งทุ่ม … ความมืดของราตรีเข้ามาปกคลุมเมืองเล็กๆแห่งนี้ ร้านรวงยังเปิดอยู่บ้าง โดยอาศัยไฟที่ปั่นใช้เอง เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆในพม่า ไม่เว้นแม้แต่เมืองใหญ่ๆอย่างย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์
เราขอให้รถแวะที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลิสต์ที่เตรียมมา เพื่อดูว่าจะมีห้องว่างหรือไม่ … เราตรงไปยังโรงแรมที่ 2 ในลิสต์เมื่อโรงแรมแรกเต็ม ห้องพักยังมีเหลือค่ะในราคา 20 หรือ 15 USD … เราเลือกห้องราคาย่อมเยาค่ะ ก่อนที่จะไปทานอาหาร แล้วกลับมาอาบน้ำอาบท่า ล้มตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ แล้วหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา