28 ก.ค. 2021 เวลา 09:03 • ประวัติศาสตร์
การแบ่งแยกประเทศปากีสถานออกจากแผ่นดินอินเดียในช่วงได้รับเอกราชจากอาณานิคมอังกฤษในวันที่ 14 สิงหาคมและ15 สิงหาคม ปี 1947
ยาวาฮาลาล เนห์รู นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ได้กล่าวว่า
"การต่อสู้ที่ยาวนานของเราเริ่มจรัสแสง ความหวังและอิสรภาพของอินเดียได้ถูกแต่งแต้มและถักทอ อินเดียได้กลับมามีชีวิตและลมหายใจแห่งเสรีภาพอีกครั้งหนึ่ง
ย่ำดึกในห้วงยามที่โลกได้หลับไหล ผู้คนร่วมโลกอยู่ในช่วงพักผ่อนยามค่ำคืน ทว่า ค่ำคืนนี้ในอินเดียได้ปลุกให้ผู้คนบนแผ่นดินอินเดียตื่น ทุกคนต่างลืมตาขึ้นมาด้วยความหวังแห่งเสรีภาพ ผู้คนต่างหายใจเข้าออกมาด้วยจิตวิญญานแห่งอิสระโดยแท้"
ผู้คนมากมายต่างพากันเฉลิมฉลองเอกราชจากอาณานิคมในกรุงเดลี และสถานที่อื่นๆ ซึ่งไม่ต่างจากวันนี้ดพื่อระลึกถึง
ทว่า ในวันแห่งการเฉลิมฉลอง คานธีผู้ต่อสู้เพื่อปลดแอกจากอาณานิคมอังกฤษมาเกือบ 30 ปี กำลังเดินทางกลับไปยังเมืองกัลกัตตาเพื่อประณีประนอมการปะทะกันของชาวมุสลิมและฮินดูในอินเดียที่ค่อนข้างลุกลาม บานปลายและนองเลือด
หนำซ้ำการอพยพครั้งดังกล่าว คลื่นมหาชนเรือนล้านได้ย้ายออกจากบ้านเกิดตนเอง และแน่นอนมีผู้คนกว่า 1 ล้านคนที่ต้องสังเวยกับค่ำคืนและมรสุมแห่งการได้รับเอกราช
วันเอกราชไม่ใช่วันที่ผู้คนได้อิสรภาพ ทว่ามันคืแค่ำคืนแห่งการนองเลือด การสังเวย การสูญเสียครั้งใหญ่ที่ประวติศาสตร์ชาติอินเดียไม่เคยลืม
มีคนถามท่านมหาตมะ คานธีว่า "ท่านไม่เข้าร่วมการเฉลิมฉลองเอกราชของอินเดียเหรอ"
คานธีกลับตอบไปว่า
"ฉันไม่เห็นว่าจำเป็นต้องเฉลิมฉลอง แน่นอนในวันได้รับอิสรภาพของอินเดีย ฉันไม่เห็นอะไรเลย นอกจากสายธารแห่งหยดเลือดที่รดราดผืนดินเพื่อหยิบยื่นความเกลียดชังให้แก่กัน"
นี่แหละคือเอกราชอาบเลือดโดยแท้
ภาพ: มูฮัมหมัด อาลี ญินนะ ผู้นำปากีสถาน และมหาตมะ คานธี ผู้นำ กระบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปลดปล่อยอินเดีย ถ่าย ณ National Gandhi Museum, New Delhi, India.
เรื่องและภาพโดย
เอ.อาร์ มูเก็ม :ศูนย์เอเชียใต้และตะวันออกกลางศึกษา
15 สิงหาคม 2017
โฆษณา