ตำนานรักนรกขวางก็มิอาจกั้น!! เมื่อทหารนาซีหนุ่มฝ่าฝืนกฎจนไปตกหลุมรักนักโทษสาวชาวยิว
ฮอโลคอสต์ (The Holocaust) คือการพันธุฆาตระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายนาซีเยอรมันที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนในการสังหารหมู่ชาวยิวในทวีปยุโรปไปประมาณหกล้านคน หรือประมาณสองในสามของประชากรยิวในทวีปยุโรประหว่างปี ค.ศ.1941 – 1945 ด้วยสารพัดวิธีที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณจนไม่สามารถเชื่อได้ว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนมนุษย์จะกระทำต่อกันได้
ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Konzentrationslager Auschwitz)
ช่วงเวลาดังกล่าว คือหนึ่งในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทว่ายังมีเรื่องราวดี ๆ ที่เปรียบเสมือนแสงสว่างท่ามกลางความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เพื่อนมนุษย์กระทำต่อกัน นั่นคือเรื่องราวความรักที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ระหว่าง ฟรานซ์ วุนช์ ทหารหน่วย SS นาซีเยอรมันและนักโทษสาวชาวยิว เฮเลนา ซิโตรโนวา ณ ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Konzentrationslager Auschwitz)
ย้อนกลับไปในเดือนกันยายม ค.ศ.1935 พรรคนาซีเยอรมัน ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านกฎหมายเพื่อปกป้องสายเลือดเยอรมันและเกียรติยศของชาวเยอรมัน ที่ต่อมารู้จักกันในชื่อของ ‘กฎหมายนูเรมเบิร์ก’ (Nuremberg Laws) ที่ไม่เพียงแค่กีดกันชาวยิวที่อาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี การมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือแต่งงานกับคนที่ไม่ได้มีสายเลือดเยอรมันบริสุทธิ์ ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และท่าหากใครฝ่าฝืน จะต้องถูกลงโทษให้เผชิญหน้ากับความอับอายต่อหน้าสาธารณชน ก่อนถูกตัดสินจำคุก และถูกควบคุมตัวโดยตำรวจลับเกสตาโป (Gestapo) และส่งไปทำงานในค่ายกักกันนาซี
พอเห็นบทลงโทษของรัฐบาลนาซีเยอรมัน ก็ต้องบอกตรงนี้เลยนะครับว่ามันเป็นกฎหมายที่รุนแรงมากเลยทีเดียว และเชื่อว่าคงไม่มีชาวเยอรมันคนไหนจะกล้าแหกกฎหมายที่ว่านี่แน่ แต่เรื่องมันไม่ใช่แบบนั้นนะซิครับ เพราะยังมีทหารหนุ่มจากหน่วย SS นาซีเยอรมันนามว่า ฟรานซ์ วุนช์ ที่เป็นทหารรักษาการณ์ในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ ที่ดันไปตกหลุมรักหญิงสาวชาวสโลวาเกียเชื้อสายยิวนามว่า เฮเลนา ซิโตรโนวา และทั้งคู่ได้สร้างตำนานรักในค่ายกักกันที่สังหารหมู่ชาวยิวไปเป็นจำนวนมากในขณะนั้น
ฟรานซ์ วุนช์ ในชุดเครื่องแบบหน่วย SS
ในปี ค.ศ.1942 ฟรานซ์ วุนช์ ทหารหนุ่มหน่วย SS นาซีเยอรมันวัย 20 ปี เป็นผู้รับผิดชอบในการเฝ้าประตูห้องรมแก๊สพิษในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ ได้ฉลองวันเกิดในวันที่ 21 มีนาคม ปีเดียวกันนั้น โดยภายในงาน ได้มีการนำตัวนักโทษสาวชาวยิวนามว่า เฮเลนา ซิโตรโนวา มาร้องเพลงอวยพรวันเกิดใหกับทหารหนุ่มผู้ทำหน้าที่เฝ้าประตูห้องรมแก๊สพิษ
เฮเลน่า และพี่สาว โรซินก้า
สำหรับเฮเลน่า เธอและพี่สาวของเธอ โรซินก้า ถูกนำตัวมาจากสโลวาเกีย และถูกยึดทรัพยสินทั้งหมดเพื่อนำไปเป็นทุนในการทำสงครามของฝ่ายนาซีเยอรมัน คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเฮเลน่าและโรซินก้านั้นเกลียดพวกนาซีเยอรมันขนาดไหน เฮเลน่ารู้ดีว่าเธอและพี่สาวอาจต้องตายในเช้าวันรุ่งขึ้น ดังนั้นเฮเลน่าจึงตัดสินใจร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับฟรานซ์ ทหารหนุ่มนาซีเยอรมันเจ้าของงานวันเกิดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทุกคนครับ หลังจากที่ฟรานซ์ได้พบกับเฮเลน่า เขาก็ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง จนถึงขนาดเขียนจดหมายไปหาเฮเลน่า ซึ่งเฮเลน่าได้ฉีกมันทิ้งโดยไม่สนใจยังดี แต่ยังมีข้อความหนึ่ง ที่เฮเลน่าจำได้ดีก็คือ ‘ผมตกหลุมรักคุณ’
ในตอนนั้น เฮเลน่าคิดว่าเธอขอยอมตายเสียยังจะดีกว่าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกนาซีเยอรมัน เธอเกลียดเขา แม้แต่มองหน้าก็ยังทำไม่ได้ แต่เรื่องราวมันไม่เป็นอย่างนั้นนะซิครับทุกคน
ฟรานช์ วุนช์ แม้จะเป็นทหารนาซีเยอรมัน แต่เขาก็เลือกที่จะขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาและทำในสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการ ด้วยการช่วยเหลือเฮเลน่าและโรซินก้า จากโทษประหารชีวิต ฟรานซ์ ได้ช่วยเหลือโรซินก้าและลูก ๆ ของเธอเอาไว้อย่างหวุดหวิด
อาจเป็นเพราะความดีของฟรานซ์ เลยทำให้เฮเลน่ายินยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาในภายหลัง เฮเลน่ากล่าวว่า บางครั้งเธอก็ลืมไปว่าฟรานซ์เป็นใคร และเธอก็ตกหลุมรักเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เพราะฟรานซ์ได้จัดหาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และให้การอารักขาเฮเลน่าและพี่สาวเป็นอย่างดี
น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สามารถพัฒนาไปได้ไกลมากกว่านี้ เพราะภายหลังนาซีเยอรมันได้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองต่อฝ่ายสัมพันธมิตร เฮเลน่าและโรซินก้าได้อพยพไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อิสราเอลในปี ค.ศ.1948 ส่วนฟรานช์ก็ถูกส่งตัวไปที่ประเทศออสเตรีย
ในปี ค.ศ.1972 ฟรานช์ ถูกนำตัวขึ้นศาลในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และถูกกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ทารุณกรรมต่อนักโทษชายและหญิง รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการสังหารนักโทษด้วยการรมแก๊สพิษจนถึงแก่ความตาย
เหล่าบรรดานักโทษในค่ายเอาช์วิทซ์ที่ถูกนำตัวมาเป็นพยานในการตัดสินคดีความในครั้งนั้น ต่างให้การตรงกันว่า ‘เขาคือผู้เกลียดชังชาวยิวโดยธรรมชาติ’ และมีส่วนร่วมในการคัดเลือกเชลยศึกทั่วยุโรปว่าใครสมควรจะอยู่หรือตาย ด้วยหลักฐานที่หนักแน่นพอ เลยทำให้ฟรานช์อาจต้องโดนลงโทษด้วยการจำคุกตลอดชีวิตหรือไม่ก็ประหารชีวิต
เฮเลนา ซิโตรโนวา และ ฟรานซ์ วุนช์
มาถึงตรงนี้แล้ว ต้องบอกว่าฟรานช์คงไม่น่าจะรอดจากข้อกล่าวหาแล้วละครับ แต่ดูเหมือนว่าเทพีแห่งโชคชะตายังอยู่เคียงข้างเขา เมื่อเฮเลน่าและโรซินก้า ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อให้การช่วยเหลือฟรานช์เป็นการตอบแทน จนทำให้คำตัดสินเปลี่ยนแปลงไปในที่สุด ฟรานช์รอดพ้นทุกข้อกล่าวหาอย่างหวุดหวิด
ฟรานช์เคยกล่าวว่า ความปรารถนาที่มีต่อเฮเลน่า ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโหดร้ายของเขา ฟรานช์ยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไขว่าเขาตกหลุมรักเธอ และสิ่งนี้เองที่ได้เปลี่ยนแปลงให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม ภายหลัง เฮเลนา ซิโตรโนวา เสียชีวิตในปี ค.ศ.2009 ส่วน ฟรานซ์ วุนช์ เสียชีวิตในปี ค.ศ.2009 ทิ้งไว้เพียงตำนานรักต้องห้ามไว้ให้คนรุ่นหลังได้พูดถึง
โดยเรื่องราวความรักระหว่างทหารนาซีเยอรมันและนักโทษสาวชาวยิว ยังเคยถูกนำมาสร้างเป็นละครเวทีที่ประเทศไทยบ้านเราเมื่อเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2020 ที่ผ่านมานี่เองครับ
ข้อมูลจาก : WIKIPEDIA, HISTORYISNOWMAGAZINE.COM
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
