29 ก.ค. 2021 เวลา 13:16 • กีฬา
#โอลิมปิกสัมพันธ์
1
โดย มิสมาต้า
จากซึบาสะสู่คุโบะ
วันที่ 31 มีนาคม 1981 นิตยสาร​ Weekly shonen jump ตีพิมพ์​ "กัปตันซึบาสะ" การ์ตูนดังจากปลายพู่กันของ โยอิจิ ทาคาฮาชิ
ปีนี้จึงเป็นปีที่ 40 ของการ์ตูน​ที่ปลุกให้เด็กญี่ปุ่น​ตื่นจากโคชิเอ็งมาสนใจสนามฟุตบอลกันมากขึ้น
ว่ากันว่าถ้า โอโซระ ซึบาสะ มีตัวตนจริงๆ เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา​ปีที่ 5 ในวันนั้น เมื่อวานนี้เขาจะมีอายุครบ 51 ปีบริบูรณ์​พอดีจากการนับปีที่มีการตีพิมพ์หนังสือของภาคนี้
เพราะวันที่ 28 กรกฎาคม​ของทุกปี จะเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันถือกำเนิดของโอโซระ ซึบาสะกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นชุดแชมป์ยุวชน​โลกที่ประเทศ​ฝรั่งเศส​เมื่อปี 1994-1997 (ในความเป็นจริง วันที่ 28 กรกฎาคมคือวันเกิดของอาจารย์โยอิจิเอง)
ซึบาสะจึงเป็นคนพาฟุตบอล​ของประเทศประสบความสำเร็จ​ในระดับโลกได้เป็นคนแรก ภายใต้การ​ฟอร์ม​ทีมที่มีปัญหา​ตั้งแต่เริ่มต้น
ด้วยการจุดประกายความสนุกของตอนนี้จากการที่ทีมชาติยุวชนญี่ปุ่นที่ยังขาดกัปตันคนเก่ง ต้องลงอุ่นเครื่องกับทีมฮัมบูร์ก​ชุดเยาวชน ที่นำทีมมาโดย คาร์ลไฮน์ (รุมเมนิเก)​ ชไนเดอร์ , เฮลมันน์ คัลท์ และ วากาบายาชิ เก็นโซ มือหนึ่งทีมชาติชุดนี้ที่มาเล่นให้ทีมดังจากเยอรมัน​ตะวันตก​
แล้ววากาบายาชิเจ้าพ่อหมวกแดงก็รับบทปลุกใจเพื่อนร่วมชาติจากการขอร้องของสต๊าฟ​โค้ช​ทีมชาติ ด้วยการทำตัวเป็นคู่แข่งที่ดูถูกดูแคลน​ทีมชาติบ้านเกิดว่า ฝีเท้ามีเพียงน้อยนิดอย่าได้คิดชนะใครในเวทีระดับโลก​นี้เลย
จนทำให้มีเรื่องชกต่อยกับ เฮียวงะ โคจิโร ดาวยิงจอมทรนงที่ถูกหมิ่นจากทั้งชไนเดอร์ และวากาบายาชิ ทำให้สุดท้ายทีมชาติญี่ปุ่น​กลับมาฮึดสู้อีกครั้งหลังจากจบเกมที่ถูกถล่มยับไป 1-5 ไปแบบทีมเกือบจะแตก
ท่ามกลางการขาดนักเตะตัวหลักที่ยังมากันไม่ครบ มือหนึ่งก็ออกอาการกินใจกัน แต่ศูนย์กลางของทีมตัวจริงอย่าง อิชิซากิ เรียว คนที่ไร้สติกลับกลายเป็นคนที่เรียกสติเพื่อนๆ ให้กลับมาได้มากที่สุด จากความอารมณ์ดี​จนทำให้บรรยากาศ​ของทีมผ่อนคลายลง
จากนั้นนักเตะชุดนี้ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ มิสุงิ จุน นักเตะที่แฟนการ์ตูน​หลายคนให้ความเห็น​ว่ามีทักษะอันเก่งกาจ และ มีวุฒิภาวะ​ผู้นำที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าซึบาสะเสียอีก แต่อาจารย์​โยอิจิเขียนให้เขาประสบ​ปัญหา​กับอาการป่วยด้วยโรคหัวใจ​จึงทำให้ลงสนามได้อย่างจำกัด แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เขาเป็นกำลัง​สำคัญ​ของทีม
มิซากิ ทาโร คู่หูจากโรงเรียนนันคัทสึที่เล่นได้อย่างเข้าขารู้ใจกับซึบาสะชนิดหลับตายังรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ก็ได้เข้ามารายงานตัวหลังย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส​อยู่ก่อนแล้ว
จากนั้นซึบาสะก็กลับมาร่วมทีมชาติหลังจากไปเติมเต็ม​ความฝันที่บราซิล และ ตามหา โรแบร์​โต​ ฮอนโก อดีตนักฟุตบอล​ทีมชาติบราซิลที่ได้รับการช่วยเหลือจากกัปตัน​เรือที่เป็นพ่อของซึบาสะ จนได้มาสอนเทคนิค​ฟุตบอลสไตล์​แซมบ้า ทำให้ซึบาสะเข้าใจความหมายของคำว่าลูกฟุตบอล​คือเพื่อนได้มากขึ้นไปอีก จนเกิดฝันอยากไปบราซิล​ขึ้นมา
1
จากนั้น วากาบายาชิ เก็นโซ ก็เข้ามารายงานตัวพร้อมกับได้รับการเฉลยถึงความเสียสละเพื่อสร้างทีมสปิริต​ให้กับเพื่อนๆ ทุกคน
::
ประเด็นเรื่องผู้รักษาประตู​ถือเป็นจุดที่ดีที่สุดของภาคยุวชน​โลก เพราะถ้าวัดกันด้วยเรื่องของฝีมือ วากาบายาชิคือผู้รักษาประตู​ระดับโลกของรุ่น โดยมี ดิโน เฟอร์นานเดซ มือกาวของอิตาลี และ ดิวเตอร์​ มุลเลอร์ ยักษ์​โขมดจากเยอรมันเป็นยอดฝีมือของรุ่นร่วมกัน
ด้วยในเส้นทางของทีมชาติที่ผ่านมาหลายปีวาคาชิมัตสึคือคนที่เคียงบ่าเคียงไหล่มากับเพื่อนร่วมทีม แม้ฝีมือภายใต้ท่วงท่าคาราเต้ของนายทวารจากมัธยมโตโฮจะดีที่สุดในญี่ปุ่น​
แต่ถ้าวัดกันแบบตัวต่อตัว มือหนึ่งฮัมบูร์ก​ที่กำลังจะได้สัญญาอาชีพจากชุดใหญ่เป็นคนที่มีฟอร์มที่เหนือกว่าเยอะ วากาบายาชิที่เข้าใจหัวอกเพื่อนร่วมตำแหน่งดีจึงบอกกับสต๊าฟฟ์โค้ช​ว่าเขาพร้อมนั่งสำรองได้เสมอเพื่อทีม
เสื้อหมายเลข 10 เป็นที่หมายปองของดาวดังหลายคน แต่ทุกคนก็เสียสละเสื้อเบอร์นี้ให้กับซึบาสะ โดยเฉพาะ มัตสึยามา ฮิคารุ ที่ไปสวมหมายเลข12 และยอมไปยืนเป็นตัวรับทั้งที่ตัวเองเก่งไม่หยอกในการเล่นเกมรุก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทีมชุดนี้
ด้วยทีมสปิริต ด้วยความที่คนวาดเป็นคนญี่ปุ่น ฝันแรกของทีมชาติยุวชนชุดนี้จึงกลายเป็นจริงขึ้นมา
พวกเขาอาศัยการประสานงานของคู่หูนันคัตสึ และลูกยิงไทเกอร์ชนิดจ่อๆ ของเฮียวงะ ที่ได้ทำให้ ดิโน เฟอร์นันเดซ ถึงกับบาดเจ็บหนักที่แขนในเกมที่ญี่ปุ่นพลิกกลับมาชนะไป 2-1
อาร์เจนติ​น่า​ของ รามอน ดิอาส ที่เก่งฉกาจชนิดทราบเลยว่าผู้เขียนยกย่องต้นแบบของตัวการ์ตูนนี้มากขนาดไหน เพราะการฉายเดี่ยวแบกทีมเหมือน ดิเอโก มาราโดนา จนเกือบชนะญี่ปุ่นได้ แต่นักเตะญี่ปุ่นร่วมใจจนพลิกกลับมาชนะได้ 5-4
เจ้าภาพฝรั่งเศส​ของ เอลซิค ปีแอร์ กองกลางจอมเทคนิคระดับโลกที่ทำให้อดคิดถึง มิเชล​ พลาตินี่ แทบไม่ได้ แล้วยังมีดาวยิงจอมกวนที่ฝีเท้าดีอย่าง หลุยส์​ นโปเลียน ที่คาดว่ามาจากบุคลิกของ เอริค คันโตน่า เป็นจอมสังหารที่ไว้ใจได้
ญี่ปุ่นต้องส่ง มิสุงิ จุน ลงมาช่วยบัญชาเกมจนต่อกรกับเจ้าภาพได้ดี พร้อมกับพลิกกลับมาชนะได้เหมือนเดิมอีกครั้ง 4-3
ในรอบชิง ทีมชาติเยอรมัน​ตะวันตก​ขนขุนพลจากฮัมบูร์ก​ที่เคยสอนบอลพวกเขามาครบ แถมยังมี ดิวเตอร์ มุลเลอร์​ ยักษ์​โขมดจอมหนึบที่ไม่เคยถูกใครยิงจากนอกกรอบมาร่วมทีมจนเก็บคลีนชีทได้มาตลอด และมี ฟราน เชสเตอร์ เบอร์สิบจอมเลื้อยมาร่วมทีม
ลูกยิงไฟเออร์ช็อตของชไนเดอร์สามารถเอาชนะวากาบายาชิที่ได้ลงเล่นนัดชิงเป็นครั้งแรก ส่วนสารพัดลูกยิงระดับเทพของญี่ปุ่นอย่าง ไดรฟ์​ชูต , ไทเกอร์ชูต , ลูกโค้งใบมีดโกน , ลูกยิงอีเกิ้ลส์​ รวมทั้งดับเบิลโอเวอร์​เฮดคิกก็ไม่ระคายผิวยักษ์​โขมด
แต่ด้วยความสามัคคี และลดศักดิ์ศรี​ส่วนตัวที่มุ่งเอาชนะด้วยอีโก้จนมากเกินไป สุดท้ายญี่ปุ่นเป็นฝ่ายกำชัยชนะจนเป็นแชมป์​ยุวชน​โลกได้สำเร็จ​ด้วยผล 3-2
::
แม้จะเกิดเสียงค่อนขอดจากนักอ่านว่านี่คือการ์ตูน​ชาตินิยม รวมทั้งคนเขียนยังเกรงใจทีมชาติบราซิลจนไม่กล้าหยิบมาใส่ในตอนนี้
แต่ก็ไม่สามารถทำให้กัปตัน​ซึบาสะได้รับความนิยมลดลงเลย ในทางกลับกัน​ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจ​ให้สมาคมฟุตบอล และทีม​ฟุตบอล​ระดับประถม จนมีส่วนก่อให้เกิดเมกะโปรเจกต์​เป็นแชมป์​ฟุตบอล​โลกให้ได้ภายใน​ 100 ปี เมื่อปี 1992 จนทำให้ทีมชาติญี่ปุ่น​มาไกลได้ถึงวันนี้
เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.)​ นอกจากจะเป็นวันเกิด​ของ โอโซระ ซึบาสะ ยังเป็นวันที่ ทาเคฟุซะ คุโบะ สร้างสถิติเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่ยิงประตู​ในฟุตบอล​โอลิมปิก​​ได้ครบทุกเกมในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจบเกมสุดท้ายด้วยการถล่มทีมชาติฝรั่งเศส 4-0
แล้วตัวของคุโบะที่อายุ 20 ปี กับซึบาสะในตอนที่มีวัย 20 ปี ยังมีส่วนสูงเท่ากันพอดีที่ 173 เซนติเมตร​ รวมทั้งไปเล่นที่ลา​ลี​กาในวัยใกล้เคียงกันอีกด้วย
แล้วความพอดีอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือ คุโบะได้ไปเล่นให้ทีมยุวชนบาร์เซโลน่า​ เหมือนกับที่ซึบาสะไปเล่นให้บาร์​ซ่า​ในยุคของ ริวัล เพลย์เมคเกอร์หมายเลขสิบคนเก่งชาวบราซิล
แล้ววันที่ 28 กรกฎาคม​ ยังบังเอิญ​ว่าเป็นวันเกิดของ เคซุเกะ โอซาโกะ มือหนึ่งของทีมอีกหนึ่งความพอดี
สี่ปีที่แล้วญี่ปุ่น​ผิดหวังที่ไปไม่ถึงนัดชิงชนะเลิศ​ แต่โอลิมปิก​ที่บ้านเกิดรอบนี้พวกเขามองไกลไปถึงเหรียญทอง​ ซึ่งถ้าดูจากทีมที่ผ่านเข้ารอบควอเตอร์​ไฟนอล​มา ญี่ปุ่นยิ่งมีสิทธิ์​ที่จะคิดไกล
เมื่อได้นิวซีแลนด์​เป็นคู่ต่อกรในรอบนี้ และมีสเปนหรือไอวอรีโคสต์รออยู่ในรอบรอง ซึ่งบางทีศักดิ์ศรี​ของเอเชียในเรื่องของฟุตบอล​อาจจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเกมนัดชิงชนะเลิศ​ ณ นิสสัน สเตเดียม สังเวียนเหย้าของโยโกฮาม่า​ เอฟ มารินอส
ญี่ปุ่น​มาพร้อมทั้งสปิริต , ทีมเวิร์ก​ , ความสามารถ​เฉพาะตัว​ , ความฟิต , เสียงเชียร์​ และ ความเป็นเจ้าภาพ พวกเขาจึงไม่ได้สนใจชัยชนะเหนือบราซิล 1-0 ด้วยแผนอุดเอาไว้ให้แซมบ้าเผลอที่แอตแลนตา​อีกแล้ว เพราะที่โตเกียว​พวกเขาคือทีมที่ดีกว่าทีมในตอนนั้นมากมาย
เมื่อถึงวันนั้น โอโซระ ซึบาสะ ที่ยังไม่ได้ชูถ้วยเวิลด์​คัพ 2002 หรือแม้แต่ในเส้นทางสายโอลิมปิก ก็อาจจะได้ฤกษ์เดินทางให้ให้อาจารย์​โยอิจิได้เขียนไปจนถึงบทจบภายในเร็วๆ นี้ก็ได้
ไม่มีความฝันใดไม่กลายเป็นจริง ถ้าเราไม่เคยคิดจะหยุดความพยายามอย่างถูกทาง
การเตรียมพร้อม​ที่เต็มไปด้วย​ความมุ่งมั่นอย่างมีคุณภาพ​ อาจทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายเอาชนะขีดจำกัดทางดีเอ็นเอของกีฬา​ประเภทนี้ได้ในบ้านของพวกเขาเอง
#PlayNowThailand #khelnow #football #footballgames #OlympicGames2020​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา