29 ก.ค. 2021 เวลา 14:28 • ไลฟ์สไตล์
ถ้ามีเครื่องมือวิเศษที่จะช่วยให้เป้าหมายสำเร็จได้ คุณว่าเครื่องมือนั้นหน้าตาเป็นยังไง
แต่เชื่อมั้ยครับว่าเครื่องมือวิเศษที่ชายคนนึงใช้จนเค้าประสบความสำเร็จคือ
คลิปหนีบกระดาษ!!!
สำหรับใครที่กำลังงง หรือกำลังตัดสินใจว่าจะเชื่อผมแล้วอ่านต่อไปดีมั้ย ผมขออนุญาตชักชวนให้อย่าเพิ่งจากกันไป เพราะเรื่องราวที่เหมือนจะดูเล่น ๆ นี้ คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับผู้ชายที่ชื่อว่า Trent Dyrsmid
จากบทความเรื่อง How to stick with good habits every day by using the “Paper Clip Strategy” ที่เขียนโดย James Clear ได้พูดถึงเรื่องราวของ Trent Dyrsmid ชายที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจ โดยธุรกิจที่ทำให้ผู้คนรู้จักเค้านั่นก็คือ Bright Idea บริษัทที่ให้คำปรึกษาและวางแผนการขายของออนไลน์และการตลาดดิจิตัล
ก่อนที่จะก่อร่างสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จแบบนี้ Trent เริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้างธรรมดา ๆ ในตำแหน่งพนักงานขายหรือเซลส์เท่านั้น
แต่การเป็นลูกจ้างจบใหม่ธรรมดา ๆ กลับกลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเพราะ Trent ในวัย 23 สามารถทำยอดขายแบบมาแรงแซงรุ่นพี่ที่เจนสนามกว่าจนกลายเป็นนักขายที่มียอดอันดับหนึ่งในบริษัท
หลังจากนั้นเค้าถูกชักชวนไปทำงานที่บริษัทอื่น ด้วยค่าตัวหกหลักหลังจากทำงานได้เพียงไม่กี่ปี
งานหลักของ Trent ในแต่ละวันคือการโทรศัพท์ไปหาลูกค้า เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้านำเงินมาลงทุนกับบริษัท ซึ่งงานขายทางโทรศัพท์แบบนี้นั้น พวกเราล้วนมีประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมว่าเป็นงานที่หินแล้วก็ต้องการกำลังใจที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะวันๆ น่าจะต้องถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน
เคล็ดลับของ Trent ก็คือเค้ามีอุปกรณ์ที่มาช่วยเหลือนั่นก็คือ คลิปกระดาษ
ในแต่ละวันเค้าจะเตรียมคลิปจำนวน 120 ตัว พร้อมกับแก้ 2 ใบ
โดยเค้าจะเริ่มต้นจากการใส่คลิปทั้ง 120 อันนั้นลงในแก้วใบที่หนึ่งจนเต็มใบ
จากนั้นจึงค่อย ๆ หยิบคลิปย้ายมายังแก้วใบเปล่าอีกใบ ทุก ๆ ครั้งที่เค้าโทรหาลูกค้าเสร็จหนึ่งคน
ว่าแต่ทำไมเค้าถึงต้องทำแบบนั้น แล้วทำแบบนั้นไปจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
James Clear ซึ่งเป็นนักวิชาการทางด้านจิตวิทยากล่าวว่า สิ่งที่ Trent ทำนั้นเรียกว่า Visual Cue คือการทำให้เป้าหมายหรือความตั้งใจกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้หรือจับต้องได้ ในกรณีนี้คือเปลี่ยนเป้าหมายที่คิดว่าจะต้องโทรหาลูกค้า 120 คน กลายเป็นคลิป 120 อัน ทุกครั้งที่คลิปถูกย้ายนั่นคือความสำเร็จได้ถูกสร้างขึ้น
การทำแบบนี้มีข้อดี คือมันจะเป็นการทำให้เราเห็นความคืบหน้าและความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และยิ่งเป็นประโยชน์เมื่อเราเริ่มหมดกำลังใจ หรือกำลังย่อท้อ โดยเฉพาะที่มักเกิดเมื่อผ่านไปแล้วครึ่งทาง เพราะเมื่อเราเห็นว่าย้ายคลิปได้มากแล้ว เราจะเกิดกำลังใจและความคิดว่าอีกเพียงนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้เราทำตามเป้าหมายจนเสร็จ
James Clear ยังช่วยยกตัวอย่างแบบเคลียร์ ๆ อีกว่าเทคนิคนี้เราสามารถเอาไปปรับใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตของเราได้มากมาย เช่น เรามักตั้งเป้าจะออกกำลังกาย สมมติว่าเราอยากวิดพื้นให้ได้วันละ 100 ครั้ง เราก็อาจเตรียมคลิปไว้จำนวน 10 อัน และทำการย้ายคลิปทุกๆ ครั้งที่เราวิดพื้นสำเร็จ 10 ครั้ง
หรือใครที่อยากดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่มักลืม หรือจำไม่ได้ว่าดื่มไปกี่แก้วแล้วระหว่างวัน การมีคลิปช่วยก็เหมือนเป็นการเตือนใจแบบง่าย ๆ
อ่านถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนอาจจะลองเอาปรับใช้ดู สำหรับผมจบ 1 โพสต์แล้วแบบนี้ ผมขออนุญาตแว้บไปย้ายคลิปก่อนนะครับ
อย่าลืมมา #เอาดีเข้าตัว กันได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ด้านล่างนี้นะครับ
โฆษณา