30 ก.ค. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“เนสซี (Loch Ness Monster)” สัตว์ประหลาดในตำนาน
หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของ “เนสซี (Loch Ness Monster)” สัตว์ประหลาดในทะเลสาปล็อกเนสส์ ประเทศสก็อตแลนด์
อันที่จริง เรื่องราวของเนสซีสามารถย้อนกลับไปได้กว่า 1,500 ปีเลยทีเดียว และที่ผ่านมา ตั้งแต่อดีต ก็ได้มีความพยายามในการตามหาเนสซี หากแต่ก็ล้มเหลว
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความสนใจของผู้คนที่มีต่อเนสซีลดน้อยลงเลย กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
สำหรับทะเลสาป “ล็อกเนสส์ (Loch Ness)” เป็นทะเลสาปที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของสหราชอาณาจักร โดยมีความลึกเกือบ 240 เมตร มีระยะทางยาวประมาณ 37 กิโลเมตร
ทะเลสาปล็อกเนสส์ (Loch Ness)
นักประวัติศาสตร์ได้ศึกษาเรื่องราวของเนสซี และพบเจอเรื่องราวของเนสซีในบันทึกต่างๆ ของประวัติศาสตร์สก็อตแลนด์ สามารถย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 6
ในศตวรรษที่ 6 ชาวพิคท์ (Picts) ซึ่งเป็นชนเผ่าโบราณทางภาคเหนือของสหราชอาณาจักร ได้สลักรูปสัตว์ประหลาดในทะเลลงบนหิน
แต่สำหรับข้อเขียนที่มีการกล่าวถึงเนสซี ก็คือในสมัยศตวรรษที่ 7 ในชีวประวัติของ “เซนต์โคลัมบา (Columba)” นักบวชชาวไอริช ผู้ซึ่งนำคริสตศาสนาเข้ามาสู่สก็อตแลนด์
เซนต์โคลัมบา (Columba)
จากบันทึกชีวประวัติของเซนต์โคลัมบา ในปีค.ศ.565 (พ.ศ.1108) เซนต์โคลัมบาได้เดินทางไปเยี่ยมกษัตริย์ของชาวพิคท์ และได้พบเจอกับสัตว์ประหลาดในทะเลสาปล็อกเนสส์ สัตว์ประหลาดซึ่งคอยฆ่าคนที่ลงมาเล่นน้ำในทะเลสาป
ในขณะนั้น สัตว์ประหลาดกำลังจะทำร้ายชายผู้หนึ่ง เซนต์โคลัมบาจึงเข้าไปห้าม และได้เอ่ยนามของพระเจ้า และสั่งให้สัตว์ประหลาดกลับไป ซึ่งสัตว์ประหลาดก็ทำตาม และไม่ทำร้ายใครอีกเลย
ในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) ถนนรอบๆ ทะเลสาปล็อกเนสส์ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาปได้โดยสะดวก
2 พฤษภาคม ค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้รายงานว่า มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้อ้างว่าตนได้พบเห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาป
จากนั้น เรื่องราวของสัตว์ประหลาดจากทะเลสาปล็อกเนสส์ตนนี้ ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ทำให้หนังสือพิมพ์หลายฉบับจากลอนดอน ต้องส่งนักข่าวมายังสก็อตแลนด์เพื่อเกาะติดข่าวนี้ อีกทั้งคณะละครสัตว์ ก็ได้ตั้งค่าหัวสัตว์ประหลาดตนนี้ โดยจะจ่ายให้ผู้ที่สามารถจับสัตว์ประหลาดตนนี้ได้ถึง 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 920,000 บาท)
จากนั้นไม่นาน ก็ได้มีสามีภรรยาอีกคู่หนึ่งรายงานว่าพบเห็นสัตว์ประหลาดขึ้นมาบนบก ทำให้เรื่องนี้ยิ่งโด่งดัง หนังสือพิมพ์หลายแห่งถึงขั้นจ้างนายพรานมือดีมาออกตามล่าสัตว์ประหลาด
ภายหลังการสำรวจทะเลสาปล็อกเนสส์แค่ไม่กี่วัน ก็มีรายงานว่าพบเห็นรอยเท้าของสัตว์สี่เท้าขนาดใหญ่ และทำให้หนังสือพิมพ์ “Daily Mail” ถึงกับพาดหัวข่าวว่า
“สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์ไม่ได้เป็นเพียงตำนาน แต่มีอยู่จริง”
เมื่อเป็นอย่างนี้ นักท่องเที่ยวก็แห่กันมาที่ล็อกเนสส์ หวังว่าจะเห็นสัตว์ประหลาด
มีการหล่อพลาสเตอร์รอยเท้าสัตว์สี่เท้าที่พบ และส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอังกฤษ และพบว่ารอยเท้าที่พบนั้น แท้จริงแล้ว เป็นรอยเท้าของฮิปโปโปเตมัส
แต่ถึงจะพบความจริง และโอกาสที่สัตว์ประหลาดจะมีอยู่จริงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังมีรายงานการพบเห็นสัตว์ประหลาดอยู่เรื่อยๆ
ภาพถ่ายในปีค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) แสดงให้เห็นถึงสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ คอยาวโผล่พ้นน้ำ และเป็นภาพถ่ายสัตว์ประหลาดที่โด่งดังภาพหนึ่ง หากแต่ก็ถูกพิสูจน์ในเวลาต่อมาว่าไม่ใช่ภาพของจริง เป็นเพียงภาพที่ทำขึ้น
1
หลายคนคาดเดาว่าสัตว์ประหลาดเนสซี อาจจะเป็นสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ที่อาจจะเหลือรอดมาถึงปัจจุบัน
ในเวลาต่อมา การศึกษาและค้นหาคำตอบในเรื่องราวของเนสซีก็ยังคงมีอยู่ และทำให้หลายคนรู้จักตำนานสัตว์ประหลาดนี้มากขึ้น
ตำนานของเนสซี สัตว์ประหลาดประจำทะเลสาปล็อกเนสส์ยังคงโด่งดัง และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ไปยังสก็อตแลนด์ ต้องไปเยี่ยมชมล็อกเนสส์ซักครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้เห็นสัตว์ประหลาดก็ตาม
โฆษณา