5 ส.ค. 2021 เวลา 04:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สวัสดีครับ วันนี้พบกับตอนที่ 2 ของ #เล่าหุ้น โดยวันนี้ผมจะมาเล่าหุ้น HTECH ซึ่งเป็นหุ้นที่ผลิต Cutting Tools (เครื่องมือตัด เฉือนโลหะ)
หุ้น HTECH ถือว่าเป็นหุ้นที่ขึ้นมาอย่างอย่างเรื่อยๆ นับจากจุดต่ำสุดที่ราคา 1.15 บาทเมื่อวันที่ 25 Mar 20 ซึ่งตอนวันที่ 03 Aug 21 ราคาหุ้นวิ่งไปที่ 7.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนก็ 6 เด้ง !!!
ก่อนที่จะสนใจราคาหุ้น ผมว่าเรามารู้จัก HTECH ก่อนดีกว่าครับ
บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ ใช้ตัวย่อใน SET ว่า HTECH ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิต และจำหน่ายเครื่องมือสำหรับใช้ตัดเฉือนโลหะ ซึ่งมีลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรม Harddisk Drive, ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรม ผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ผู้ผลิตชิ้นส่วนนาฬิกา เลนส์ เครื่องมือแพทย์ [1]
ดังนั้น รายได้ของ HTECH จะเปลี่ยนแปลงกับสภาวะอุตสาหกรรม Harddisk Drive และ ชิ้นส่วนยานยนตร์เป็นหลัก และมีอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินซึ่งเริ่มจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยแนะนำว่า ถ้าใครสนใจหุ้นตัวนี้ ต้องติดตาม 3 อุตสาหกรรมนี้ครับ
Credit:  Company Oppday 2021 Q1
ก่อนจะเข้าไปสู่การวิเคราะห์บริษัท ผมขอเล่าภาพใหญ่ของอุตสาหกรรม Harddisk Drive ก่อนนะครับ
ในปี 2020 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรม Harddisk มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.11% ตั้งแต่ปี 2021 - 2026 ซึ่งสาเหตุหลักๆมาจากการเติบโตของการจัดเก็บข้อมูล ความนิยมของ Notebook และ การนิยมมาเก็บไฟล์เป็นดิจิตอลกันมากขึ้น[2]
นอกจากนี้ยังมีการเติบโตของ Cloud Technology และ Internet of Things (IoT) ที่มีการใช้การเก็บข้อมูลที่มากขึ้น ถือว่าเป็นพระเอกการใช้ Data Storage ที่มากขึ้น ที่เติบโตขึ้นมากๆ ซึ่งประมาณการใช้คาดว่าจะโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 32.2% ตั้งแต่ปี 2021 - 2026 [4]
และเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีการใช้ Data Storage ที่มากขึ้นจากเหรียญ Chia ซึ่งเป็นเหรียญ Cryptocurrency ที่ขุดด้วย HDD และ SSD ซึ่งทำให้พวก HDD และ SSD ถึงกับขาดตลาด(ชั่วคราว)
Credit: Company Oppday 2021 Q1
ซึ่งถ้าเรามาพูด เรื่องของ Data Storage บนโลกนี้จะมีการเก็บข้อมูลอยู่ 2 แบบ
1. เก็บด้วย HDD - ราคา/ความจุ จะถูก แต่อ่านเขียนไฟล์ได้ช้า
2. เก็บด้วย SSD - ราคา/ความจุจะแพงกว่า HDD แต่อ่านและเขียนไฟล์ได้เร็ว
Credit: https://www.enterprisestorageforum.com/
คำถามคือว่า แล้วพวก Data Storage ในยุคนี้ใช้แบบไหน? คือ ใช้กันทั้งคู่ครับ อย่างพวก Home User พวกติดอุปกรณ์ Notebook รุ่นใหม่ๆทั้งหลายจะใช้เป็น SSD ทั้งนั้นครับ ส่วนพวก Data Center จะใช้ HDD และ SSD ร่วมด้วยกันครับ แต่สัดส่วนในการใช้อันนี้ตัวเลขไม่แน่ชัด ซึ่งผมว่าหลักๆจะคิดขึ้นกับปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก ซึ่งเราจะต้องติดตามดีดีครับ ว่า Gap ราคา/ความจุ ระหว่าง HDD และ SSD จะแคบลงเรื่อยๆไหม ซึ่งถ้า Gap ราคากว้างขึ้นก็จะเป็นผลดีกับ HTECH
อย่างไรก็ตามมีการคาดกันว่า SSD จะราคาถูกว่า HDD ตั้งแต่ปี 2026 เป็นหลัก เนื่องจากกฎของ Wright's Law ซึ่งยิ่งมีการผลิตมากเท่าไหร่ ต้นทุนในการผลิตก็น้อยลงเท่านั้น
ณ ตอนนี้ HDD กินส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ ราวๆ 84% ประมาณ 1.68 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของ SSD (Solid State) จะสูงขึ้นในปี 2026[2] และประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตของ HDD ทั่วโลกซึ่ง 90% - 95% ของ HDD ที่ผลิตในไทย ผลิตเพื่อส่งออก [4]
ซึ่งยอดส่งออก HDD ถือว่าเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักๆเนื่องจาก บริษัท WD และ Seagate ย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศมาที่ไทยแทน
Credit: กระทรวงพาณิชย์
มาถึงตรงนี้บางท่านอาจจะสงสัย ว่า HTECH มีส่วนอะไรกับการผลิต Hard Disk?
ในขั้นตอนการผลิต HDD จะมีส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนกล่อง HDD ซึ่งต้องใช้ Cutting tools แบบพิเศษที่มีความละเอียดสูงในการเจาะ ซึ่งถ้าช่วง Peak ในการผลิต HDD ลูกค้าจะทำการเปลี่ยนหัวเจาะทุกๆ 2 อาทิตย์เลยทีเดียว [6]
Credit: Company Oppday 2018 Q2
เพราะฉะนั้นรายได้ของ HTECH จะขึ้นอยู่กับจำนวนกล่อง HDD ที่ขายได้ ยิ่งจำนวนกล่องเยอะเท่าไหร่รายได้ก็จะมากเท่านั้น
สิ่งที่ต้องระวังคือ
1. เทรนการใช้ HDD จะยังเติบโตต่อเนื่องจริงไหม หรือ SSD จะเข้ามาแทนที่ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องติดตามเรื่องราคา SSD
2. ยิ่ง HDD มีความจุมากเท่าไหร่ HTECH ยิ่งขาย Cutting Tools ได้น้อยลง เช่น สมัยก่อน อยากได้ความจุ 18 TB จะต้องใช้ HDD ขนาด 2TB x9 ลูก แต่ถ้าเป็นในสมัยนี้ HDD 18 TB x 1 ลูก ก็สามารถทำได้
อุตสาหกรรมยายยนต์
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มี Supply Chain การผลิตรถยนตร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งการผลิตรถยนตร์ของไทยจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศคิดเป็นมูลค่าที่สูงถึง 80% ของรถยนตร์ 1 คัน [7]
อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนตร์เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อรายได้ HTECH แต่อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง และ ไม่ได้ต้องการ Cutting tools ที่มีความเที่ยงตรงและคุณภาพสูงเท่าอุตสาหกรรม HDD
Credit: Company Oppday 2018 Q2
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยอดผลิตรถยนตร์มีผลต่อจำนวน Cuttinh tools ที่บริษัทขายได้ โดยจำนวนยอดผลิตรถยนตร์ของประเทศไทยลดลงไปทำจุดต่ำสุดในเดือน Apr'20 ประมาณ 25,000 คัน และค่อยๆทยอยฟื้นตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
Credit: https://tradingeconomics.com/
และยอดส่งออกยานยนตร์และอุปกรณ์ในครึ่งปีแรกกลับมาเข้าสู่ระดับปกติอย่างมีนัยสำคัญ
Credit: กระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ยังต้องติดตามอุตสาหกรรมยานยนต์ในเวียดนาม ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเวียดนามเพิ่มโดยเป็นการย้ายเครื่องจักรมาจากจาก ฟิลิปปินส์ และต้องเฝ้าติดตามการใช้อลูมิเนียมซึ่งต้องใช้ Cutting Tools ใช้ในการผลิต
Credit: https://www.ceicdata.com/en/indicator/vietnam/motor-vehicle-production
บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)
HTECH เป็นบริษัทที่มีการกระจายการลงทุนไปหลายๆที่ทั่วโลก โดยฐานการผลิตหลักจะอยู่ที่ประเทศไทย คิดเป็น 89% ของการผลิตทั้งหมด
ดังนั้นการให้ความสำคัญกับอุตสาหรรมในประเทศไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญกับการวิเคราะห์หุ้น HTECH
Credit: Company Oppday 2021 Q1
มาถึงตรงนี้ โดยผมยังคงใช้ Business Model Canvas มาใช้ในการจับภาพของตัวธุรกิจ
1. Value - Proposition
การออกแบบและผลิต Cutting Tools ที่ช่วยลูกค้าประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
2. Customer Relationships
บริษัทเป็น 1st, 2nd, 3rd Tier Suppliers ให้แก่อุตสาหกรรม HDD และ ชิ้นส่วนยานต์เป็นหลัก
3. Channels
ช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัท จะขายผ่านบริษัทย่อยของบริษัทเองเป็นหลัก
4. Customer Segments
40% >> อุตสาหกรรม HDD
31% >> อุตสาหกรรม ชิ้นส่วนยานยนต์
29% >> อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องบิน, เครื่องจักรกลหนัก, ขุดเจาะน้ำมันและแก๊ส, เลนส์
5. Revenue Streams
รายได้หลักของบริษัทมาจาก
57% >> Customized Cutting Tools (PCD and Carbide)
36% >> Standard Cutting tools (Carbide, Ceramic, PCD and PCBN)
6% >> อุปกรณ์จับยึด & ชื้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูง
1% >> อื่นๆ
Credit: 56-1 ปี 2020
Credit: Company Oppday 2021 Q1
6. Key Activities
เน้นการผลิตสินค้าด้วยตัวเอง โดยสินทรัพย์ 60% คือ ที่ดิน อาคาร และ อุปกรณ์ และ สินค้าคงเหลือ
โดยถ้าอ้างอิงจากปี 20 บริษัทใช้กำลังการผลิตไปเพียง 47% ของกำลังการผลิตรวม แต่ถ้านับในเฉพาะเวียดนามซึ่งมีการใช้การผลิตสูงถึง 84%
7. Key Resource
วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องมือตัด - แท่งคาร์ไบด์ หรือ เม็ดมีด (Blank Insert)
วัตถุดิบสำหรับติดปลายคมตัด - เพชรสังเคราะห์ PCD, MCD หรือ PCBN
8. Key Partners
บริษัทต้องพึ่งพิงคู่ค้ารายใหญ่ในการผลิตเพชรสังเคราะห์ (PCD) และยังพึ่งพากลุ่มลูกค้าหลักๆเพียง 5 รายในการขาย ซึ่งคิดเป็นยอดขายถึง 61%
Credit: Company Oppday 2018 Q2
9. Cost Structure
60% >> ต้นทุนขายและบริการ
16% >> ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
หลักๆจะมาจากค่าเสื่อมราคา เงินเดือนพนักงาน และค่าวัตถุดิบ
โดย HTECH มี แผนประกอบการเติบโต ยอดขาย โต 7% 2021
เพิ่มกำลังการผลิตใน Vietnam และ ย้ายเครื่องจักรจาก ฟิลิปปินส์ ไป เวียดนาม
วางแผนลงทุนเพิ่ม 100 ลบ. ใน บ. MDP
HTECH มุมมองของผมว่า เป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งได้รับอานิสงค์จากากรฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานต์ และ HDD และยังมีกลุ่ม Data Storage ที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง
โดยมี Key Highlight ที่อยากให้ติดตาม คือ
1. ตัวเลขส่งออก HDD ของประเทศไทย
2. ราคา/ความจุ (TB) ของ SSD ที่จะมี Gap ต่ำลงเรื่อย เมื่อเทียบกับ HDD
3. ยอดการผลิตรถยนตร์ในประเทศ
4. การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งตอนหลังบริษัทเริ่มมา Focus ในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น
แต่ขอให้ระวังความเสี่ยงหลักๆ ดังนี้
1. การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่เพียง 5 ราย
2. Gap ราคา/ความจุ ของ SSD เทียบกับ HDD ซึ่งมีผลต่อสัดส่วนการใช้ SSD ที่เติบโตมากขึ้นมาแทน HDD
โดยถ้า อุตสาหกรรม HDD, ยานยนต์ และ ชิ้นส่วนเครื่องบิน เป็นขาขึ้นพร้อมกัน HTECH จะเป็นหุ้นที่น่าจับตามองมากๆครับ
ทั้งหมดนี้เขียนโดยความคิดเห็นผมเป็นหลัก สามารถ Comment เพื่อ Discuss กันได้นะครับ
Reference
[1] 56-1 ปี 2020
[2] Global Hard Disk Market Report 2021-2027
[3] SSDs will crush hard drives in the enterprise, bearing down the full weight of Wright’s Law
[4] HTECH Oppday 2021 Q1
[5]แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม ปี 2564-2566: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/Hi-tech-Industries/Electronics/IO/io-Electronics-21
[6] HTECH Oppday 2016 Q3
[7] แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม ปี 2563-65: อุตสาหกรรมรถยนต์
[8] HTECH บุ๊กดีลรถยนต์EV 5GหนุนยอดHDDกระฉูด
โฆษณา