พระพุทธองค์จึงบัญญัติพระวินัยให้ภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาเป็นเวลาตลอดสามเดือน
.
ในเรื่องการบัญญัติพระวินัยนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือ พุทธองค์พึงคำนึงถึงประโยคที่ภิกษุจะพึงได้รับเพื่อท่านจะได้ฝึกหัดขัดเกลาตัวเองให้สมบูรณ์ยิ่ง ๆขึ้นไป ไม่ได้เป็นไปเพื่อมุ่งร้ายหรืออาศัยอคติความลำเอียงแต่อย่างใด
.
☘️ประโยชน์สิบประการ คือ
เป็นไปเพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์
เพื่อความอยู่สำราญแห่งหมู่สงฆ์
เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อ ยาก
เพื่อความอยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน
เพื่อกำจัดอาสวะที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคต
เพื่อความเลื่อมใสของชนที่ยังไม่เลื่อมใส
เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชนที่เลื่อมใสแล้ว
เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม
และประการสุดท้ายก็เพื่ออนุเคราะห์พระวินัย
.
พระสงฆ์ต่างก็สงสัยกันว่า จะต้องเริ่มเข้าอยู่จำพรรษาช่วงเดือนไหนดี จึงทูลถามพระพุทธองค์อีกครั้ง
.
พุทธองค์ตรัสตอบว่าเราอนุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษาในฤดูฝน ซึ่งวันเข้าพรรษามีอยู่สองวันด้วยกันคือ
☘️ วันเข้าพรรษาต้นและวันเข้าพรรษาหลัง
วันเข้าพรรษาต้นคือวันที่พระจันทร์เสวยล่วงอาสฬหะล่วงแล้วหนึ่งวันตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘
ส่วนวันเข้าพรรษาหลังคือวันที่พระจันทร์เสวยฤกษ์อาสาฬหะล่วงไปแล้ว ๑ เดือน ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙
.