มาถึงวันนี้ วิกฤติที่เรากำลังเจอไม่ใช่แค่วิกฤติจากเชื้อโรคอย่างเดียวแล้ว ยังมีวิกฤติจากอคติและความเกลียดชังกันของชนในชาติ กับวิกฤติจากการเมืองภายในบวกกับการเมืองระหว่างประเทศกระหน่ำซ้ำเติมอีก
ภายใต้สถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคร้ายท่ามกลางความอคติและเกลียดชังกันของชนในชาติเยี่ยงนี้ ไม่ว่าจะให้ใครมาเป็นรัฐบาลก็ไม่อาจจะทำงานได้อย่างสะดวกหรอก สลิ่มเป็นรัฐบาลสามกีบก็จะต้องก่อกวนไปตลอด หรือต่อให้กลับกันให้สามกีบมาเป็นรัฐบาลบ้างสลิ่มก็ไม่มีทางจะยอมรับและให้ความร่วมมือเช่นเดียวกัน
การเมืองภายใน มองไม่เห็นความร่วมมือกันเพื่อจะแก้ไขวิกฤติของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลเลยสักน้อยนิด มีแต่พยายามจะขัดแข้งขัดขาไปเสียทุกเรื่อง แม้กระทั้งคนระดับหัวหน้าพรรคการเมืองยังถึงกับออกมาปล่อยข่าวปลอมทำลายกันก็ยังกล้ากระทำ ไม่ต้องมียางอายกันแล้ว
การเมืองระหว่างประเทศก็มีการปั่นหัวประชาชนให้เกลียดชังและต่อต้านรัฐบาลมาจากภายนอกผ่านทางโซเชีลมีเดียอยู่ตลอดเวลา และไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่มีการแอบเข้ามาแพร่เชื้อไวรัสผสมโรงเพื่อให้วิกฤติลุกลามเป็นการบีบคั้นให้ต้องซื้อวัคซีนด้วยราคาที่แพงลิบอีกด้วยหรือไม่
และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง รัฐบาลเราก็ไม่ยิ่งใหญ่มากพอเหมือนรัฐบาลจีนที่จะบอกกับประชาชนตัวเองไปตรง ๆ ว่า "อเมริกานั่นแหละคือตัวการแพร่โควิด" จึงได้แต่อมพะนำและปล่อยให้สามกีบที่โดนปั่นหัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก่นด่า กดดัน ก่อกวน อยู่อย่างนั้น และคงเข้าตาอับเข้าสักวัน
หากสถานการณ์ยังคงดำเนินไปเช่นนี้ อีกไม่นานเกินรอประเทศเราจะฉิบหาย เราจะต้องกู้เงินทั้งมาเยียวยาผู้คนและซื้อวัคซีนจนหนี้สินล้นพ้นตัว
ใครยังโง่งมอยู่ก็จะฉิบหายไปพร้อม ๆ กับประเทศ ใครอ่านสถานการณ์ออกก็อาจจะพอมีทางเอาตัวรอดได้อยู่บ้าง แต่ไม่รับประกันว่าจะรอด ฉิบหายแน่นวล แอ่ แอ๊
