30 ก.ค. 2021 เวลา 03:46 • ประวัติศาสตร์
ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
ญี่ปุ่นและจีนเป็น 2 เผ่าพันธุ์เอเชียที่ฝรั่งมังค่าเฝ้ามอง และคิดว่าต่อไปในอนาคตสามารถจะเขยิบตัวเองเป็นคู่แข่งกับฝั่งตะวันตกได้
https://www.ucanews.com/news/boxer-rebellion-surfaces-again-in-china/83994
ญี่ปุ่นพยายามมาแล้วในสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นก็เกือบชนะ
แต่มาล้มเหลวเมื่อมาโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ญี่ปุ่นก็กลายเป็นคอหอยลูกกระเดือกกับสหรัฐ และดำเนินนโยบายต่างประเทศตามสหรัฐมาโดยตลอด
ตะวันตกกลัวจีนมากกว่าญี่ปุ่น เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรเยอะ และมีคนเชื้อสายจีนที่ไปแทรกอยู่ในประเทศต่างๆ หลายสิบล้านคนทั่วโลก เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอารยธรรมเก่าแก่ยาวนาน
เมื่อพูดถึงตะวันออกไกล สหรัฐสนใจจีนมากกว่าประเทศอื่น
ในต้นศตวรรษที่ 20 จีนอ่อนปวกเปียก ฝรั่งเศสครอบครองอ่าวกว่าวโจว เยอรมนีเช่าเมืองท่าเกียวเจา (ชิงเต่า) 99 ปี และยังได้สิทธิพิเศษบนแหลมชานตง
1
อังกฤษยึดเกาะฮ่องกง รัสเซียครอบครองพอร์ตอาร์เทอร์ และมีอภิสิทธิในแมนจูเรีย มหาอำนาจตะวันตกมารุมยำจีนกันครบ
ตอนนั้น อังกฤษต้องการจะให้เกาลูนที่ตนเพิ่งเช่าไว้ตรงข้ามเกาะฮ่องกงเป็นที่ลักลอบนำสินค้าเข้าเมืองจีนโดยไม่เสียภาษีให้รัฐบาลจีน
สหรัฐสนใจจีนเช่นเดียวกับตะวันตกประเทศอื่น แต่คิดนโยบายว่าจะเข้าไปอย่างไรให้เท่
รัฐมนตรีต่างประเทศสมัยประธานาธิบดีแมคคินลีย์ จึงสร้างนโยบายที่จะช่วยจีนก่อน โดยการส่ง Open Door Notes หรือสาส์นเปิดประตู เมื่อกันยายน ค.ศ. 1899 เชิญชวนให้อังกฤษ เยอรมนี รัสเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ยอมรับข้อตกลง 3 อย่าง
อย่างแรกคือ จะไม่มีชาติใดไปยุ่งเกี่ยวกับสิทธิทางการค้าหรืออภิสิทธิ์ของชนชาติอื่นๆ ภายในเขตอิทธิพลของชาตินั้นในจีน
1
อย่างที่สอง ข้าราชการจีนมีสิทธิเก็บภาษีตามอัตราที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ และสหรัฐต้องได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆ เช่นเดียวกับมหาอำนาจชาติอื่นๆ ที่ได้รับการอนุเคราะห์อย่างยิ่งจากจีน
และอย่างที่สาม จะไม่มีชาติใดที่จะได้รับสิทธิพิเศษในการเช่าเมืองท่า และอัตราค่าระวางรถไฟอีกต่อไป
https://www.thoughtco.com/open-door-policy-definition-4767079
สหรัฐในสมัยนั้นยังเป็นประเทศไม่ทรงอิทธิพลมาก ทุกชาติได้รับสาส์นเปิดประตู แล้วก็ยักไหล่ รับรู้แค่ว่านี่คือนโยบายของสหรัฐเท่านั้น
จีนโดนฝรั่งกระทำย่ำยี แสวงหาผลประโยชน์ จนประชาชนทนไม่ไหว รวมตัวกันเป็นกบฏนักมวย จับฝรั่งผิวขาว รวมทั้งทูตในกรุงปักกิ่ง และฆ่าพวกข้าราชการที่คัดค้านนโยบายทำลายคนต่างชาติจนหมดเกลี้ยง
1
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็มองอย่างหนึ่ง ส่วนคนที่อ่านประวัติศาสตร์อย่างละเอียดก็มองอย่างหนึ่ง
อย่างเรื่องจีนกับอินเดียนี่ก็เป็นบาดแผลมาตั้งแต่สมัยอังกฤษนำกองทหารอินเดียมาขึ้นบกที่เซี่ยงไฮ้ ร่วมมือกับกองทหารฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ลุยจีน
พวกฝรั่งและญี่ปุ่นเมื่อโจมตีจีนและปราบพวกกบฏนักมวยแล้ว ก็ทำพิธีฉลองกลางกรุงปักกิ่ง
3
รัฐบาลของนายสีจิ้นผิงต้องทำจีนให้เข้มแข็ง เพราะในอดีตจีนถูกฝรั่งกระทำย่ำยีเอาไว้มาก
เมื่อฝรั่งปราบกบฏนักมวยได้แล้ว จีนก็ต้องทำสัญญาสงบศึกที่เรียกว่า พิธีสารนักมวย เสียค่าปรับ 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเงินเยอะมาก
ฝรั่งกดดันห้ามจีนนำอาวุธเข้าประเทศ และให้เลิกการสอบเข้ารับราชการเป็นเวลา 5 ปี ให้จีนส่งทูตไปขอโทษญี่ปุ่น และเยอรมนี
เยาวชนจีนทุกคนอ่านประวัติศาสตร์เหล่านี้แล้วก็เจ็บใจ ฝรั่งและญี่ปุ่นบังคับให้จีนจ่ายค่าปรับสงครามจำนวนมาก ทำให้จีนไม่มีเงินไปพัฒนาประเทศ
เรื่องพวกนี้นี่ละครับที่ทำให้เกิดขบวนการชาตินิยมในประเทศจีนเพื่อจะล้มราชวงศ์แมนจู
สหรัฐส่งสาส์นเปิดประตูฉบับที่ 2 ในเดือนกรกฎาคม 1900 ทำให้ฝรั่งพวกเดียวกันเองงง เพราะสหรัฐในยุคนั้นยึดถือลัทธิมอนโร ที่บอกว่าสหรัฐจะอยู่อย่างสันโดษ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับประเทศใดที่อยู่นอกทวีปของตน
จีนรู้เช่นเห็นชาติพวกฝรั่งมังค่ามากกว่าชนชาติใดในโลก เพราะตนเป็นฝ่ายโดนกระทำมาโดยตลอด
1
ที่จีนมีนโยบายต่างประเทศแข็งกร้าวอย่างทุกวันนี้ ถ้ามองอย่างนักประวัติศาสตร์ก็คิดว่าเป็นเรื่องสมควรที่จีนต้องป้องกันตนเอง
1
เพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
โฆษณา