1 ส.ค. 2021 เวลา 11:16 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
10 เรื่องจริงของระเบิดนิวเคลียร์ ที่คุณอาจยังไม่รู้
อันดับที่ 10 ประเภทของนิวเคลียร์
ระเบิดนิวเคลียร์เป็นสุดยอดอาวุธที่มีพลังการทำลายล้างสูงมากๆ ซึ่งโดยหลักๆแล้วเราจะสามารถแบ่งประเภทของมันได้ตามปฏิกิริยาภายในของมัน โดยเริ่มต้นจากรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันก่อน นั้นก็คือระเบิดนิวเคลียร์หรือระเบิดอะตอม ที่พลังทำลายล้างของมันมาจากปฏิกิริยา Fission ที่อะตอมของธาตุหนักจะแตกตัวไปเป็นธาตุที่เล็กกว่า และมีการปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา โดยธาตุที่มักจะใช้มาทำระเบิดประเภทนี้จะเป็น (ยูเรเนียม/พลูโตเนียม)
1
ซึ่งระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐอเมริกาทิ้งใส่ญี่ปุ่นทั้งสองลูกนั้นเป็นประเภทนี้ ในขณะที่รูปแบบที่สองมันจะเป็น ปฏิกิริยา Fusion ที่อะตอมของธาตุที่เบากว่าจะเกิดการรวมตัวกันภายใต้อุณหภูมิและความดันสูงจนกลายเป็นธาตุที่หนักกว่า แต่ทว่าเมื่อรวมกันแล้วก็ไม่เสถียร แล้วจะมีการสลายตัวออกมาพร้อมกับพลังงานมหาศาล
โดยการจะได้มาซึ่งอุณหภูมิที่สูงมากๆ เพื่อใช้ในการเริ่มต้นกระบวนการดังกล่าว จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระเบิดนิวเคลียร์แบบ Fission เป็น แกนกลาง สำหรับใช้เป็นตัวจุดระเบิดจนทำให้เกิด ปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อๆไป ซึ่งพลังงานที่มีการปล่อยออกมานั้น มันจะมีปริมาณที่สูงกว่าแบบแรกอยู่หลายเท่าตัว และด้วยความที่มันมักจะถูกทำขึ้นมาด้วยธาตุไฮโดรเจน จึงนิยมเรียกมันว่าระเบิดไฮโดรเจนนั้นเอง
อันดับที่ 9 ผู้คิดค้นระเบิดนิวเคลียร์
1
รูปของ J.Robert Oppenheimer
หลายๆคนอาจจะยังมีความเข้าใจผิดว่า Albert Einstein นั้นคือผู้คิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งนั้นก็ยังไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว Albert Einstein คือผู้คิดค้นสมการ E = mc² ซึ่งเป็นสมการที่จุดประกายแนวความคิดเรื่องระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นเท่านั้น
1
แต่ผู้ที่คิดค้นดูแลเรื่องทดลอง จนรวมไปถึงการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ที่เสร็จสมบูรณ์นั้น คือนักฟิสิกส์ที่มีชื่อว่า J.Robert Oppenheimer ที่เป็นหัวหน้าโครงการ Manhattan Project หรือโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ที่จะใช้ในการยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งผลที่ได้จากโครงการนี้ก็คือระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งลงใส่ประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ตัวเขาถูกขนานนามว่าเป็นบิดาของระเบิดปรมาณูหรือระเบิดนิวเคลียร์นั้นเอง
อันดับที่ 8 เอามาใช้ผลิตไฟฟ้า
1
ก่อนหน้านี้บทบาทของธาตุยูเรเนียมนั้น มักจะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธในด้านการทหาร แต่ทว่าในปัจจุบันมันมักจะถูกมองในแง่ของการนำพลังงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างในกรณีของโครงการที่มีชื่อว่า Megatons to Megawatts ที่เป็นการทำข้อตกลงกันของสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย
โดยการนำยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงของรัสเซียจำนวน 500 ตัน ที่เทียบเท่ากับหัวรบนิวเคลียร์ 20,008 ลูก เอามาแปลงให้เป็นยูเรเนียมเสริมสมรรถนะต่ำและขายให้กับสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งตลอดระยะเวลาของโครงการนี้สหรัฐอเมริกาก็ได้ผลิตไฟฟ้าออกมาอย่างมากมากซึ่งจากการประเมินก็พบว่า ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในปี 1993-2013 พวกเขาผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 10% ของไฟฟ้าทั้งหมดใน USA
อันดับที่ 7 ต้นบอนไซที่รอดตาย
ต้นบอนไซ (มีอายุ 396 ปี)
ในวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่ Hiroshima ประเทศญี่ปุ่น และมันก็สร้างความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล แต่ทว่าในความเสียหายย่อยยับนั้น ยังมีต้นบอนไซต้นหนึ่งที่รอดพ้นจากแรงระเบิด มันคือต้นบอนไซที่ถูกปลูกขึ้นมาในปี 1625 ดูแลสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งหากนับเวลาจากปี 1625 มาจนถึงปี 2021 นี้ ต้นบอนไซต้นนี้มีอายุถึง 396 ปีกันเลยทีเดียว และนอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการส่งมอบมันให้กับสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เป็นของขวัญที่แสดงถึงสันติภาพ
1
อันดับที่ 6 ระเบิดมาหลายครั้งแล้ว
เมื่อเราพูดถึงการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ หลายคนอาจจะคิดว่ามีแค่ที่เมือง Hiroshima และ Nagasaki ซึ่งมันก็ใช่หากเราพูดถึงการใช้เพื่อโจมตีศัตรู แต่หากเราพิจารณาการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทดลอง อุบัติเหตุ และการระเบิดในกรณีอื่นๆทุกกรณีแล้ว คุณทราบมั้ยครับว่าตั้งแต่ปี 1945 - 2014 แล้ว มีการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 2,400 ครั้งกันเลยทีเดียว
อันดับที่ 5 ทำระเบิดหาย
B-47 Stratojet Bomber
ในปี 1958 นั้นมันอาจจะไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไหร่นักของสหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขาได้ทำระเบิดไฮโดรเจนหาย โดยเกิดจากการที่เครื่องบิน B-47 Stratojet Bomber ได้เกิดความเสียหายจากการที่ได้ชนกันกับเครื่องบินลำอื่นในระหว่างที่พวกเขากำลังทำการฝึกซ้อม ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้พวกเขาต้องทำการลงจอดโดยเร็ว
2
แต่เรื่องของเรื่องก็คือว่าเครื่องบินลำนี้ได้บรรทุกระเบิดไฮโดรเจน (Mark 15 Mod 0) เอาไว้ด้วย มันเป็นระเบิดที่มีความยาว 3.65 เมตร ภายในมียูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง หนัก 181 กิโลกรัม และแน่นอนว่าการจะเอาเครื่องบินที่เสียหายลงจอดพร้อมกับระเบิดไฮโดรเจนแบบนี้คงไม่ดีแน่ นักบินจึงได้ติดต่อขออนุญาตทิ้งระเบิดนี้ลงแถวชายฝั่งรัฐจอร์เจีย และแม้ว่าจะไม่มีการระเบิดเกิดขึ้นแต่ระเบิดไฮโดรเจนนี่ก็หายไปในทะเลนั้นเอง
1
อันดับที่ 4 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก
ธงชาติรัสเซีย
มาในข้อนี้เรามาดูกันว่าประเทศใดที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองมากที่สุดในโลก โดยอัพเดทข้อมูลในเดือน(กรกฎาคมปี 2019) จากเว็บไซต์ armcontrol.org
No.5 : สหราชอาณาจักร 200 ลูก
No.4 : จีน 290 ลูก
No.3 : ฝรั่งเศส 300 ลูก
No.2 : สหรัฐอเมริกา 6,185 ลูก
No.1 : รัสเซีย 6,490 ลูก
แต่ถ้าหากเราพิจารณาระเบิดนิวเคลียร์ที่มีอยู่ทั้งหมดในโลกนี้ ปัจจุบันประเมินกันว่าน่าจะมีอยู่ทั้งหมด 14,000 ลูก ซึ่งในทั้งหมดนี้ 9,500 ลูกอยู่ในการดูแลของทหาร 4,500 ลูกอยู่ในระหว่างกระบวนการรื้อถอน
อันดับที่ 3 แรงกว่าที่ Hiroshima 100เท่า
เราน่าจะเคยเห็นฟ้าแลบกันอยู่แล้ว แล้วในทุกครั้งก็จะเห็นท้องฟ้าสว่างวาบเป็นเวลาสั้น แต่นั้นก็เทียบไม่ได้กับการทดลองของสหรัฐอเมริกา โดยที่ปี 1962 นั้น พวกเขาได้ทำการทดลองระเบิดไฮโดรเจนในอวกาศ ที่ระดับความสูง 400 กิโลเมตรเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมันทำให้ท้องฟ้าบริเวณนั้นสว่างจ้าเป็นอย่างมาก จนทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นแสงบนท้องฟ้าที่สว่างที่สุดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยความแรงของระเบิดไฮโดรเจนลูกนี้ ประเมินกันว่ามีความแรงมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งลงใส่ Hiroshima มากกว่า 100 เท่ากันเลยทีเดียว
อันดับที่ 2 Project A119
ย้อนกลับไปในยุค 50s เป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาแข่งขันกับโซเวียตเพื่อเป็นเจ้าอวกาศ ซึ่งในปี 1958 สหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งโครงการสุดขั้วที่มีชื่อว่า Project A119 ที่มีเป้าหมายในการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์บนดวงจันทร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงแสนยานุภาพของตัวเองแล้ว
4
มันยังเป็นการศึกษาผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ที่มีต่อดวงจันทร์ แล้วรวมถึงผลกระทบต่างๆที่เป็นไปได้ต่อโลกของเรา พวกเขาได้รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังมากมายเพื่อทำโครงการนี้สำเร็จให้ได้ แต่หลังจากนั้น 1 ปีให้หลังในปี 1959 พวกเขาก็ต้องยกเลิกโครงการนี้ไปเพราะมันมีความอันตรายและความเสี่ยงมากเกินไป ทั้งการต่อต้านจากผู้คนและอาจจะเกิดกัมมันตรังสีตกค้างบนดวงจันทร์ จนอาจเป็นปัญหาต่อการสำรวจดวงจันทร์ในอนาคตและอาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิด จนเกิดปัญหาต่อมวลมนุษยชาติได้
อันดับที่ 1 ระเบิดนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในโลก
Tsar Bomba
คุณคิดว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ได้กล่าวในอันดับที่ 3 โหดแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์ที่เราจะกล่าวในอันดับที่ 1 นี้โหดกว่ามาก โดยที่ในปี 1961 นั้น ทางรัสเซียได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ด้วยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ที่แรงที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา ซึ่งนั้นก็คือระเบิดที่มีชื่อว่า Tsar Bomba มีความยาว 8 เมตร หนัก 27,000 กิโลกรัม
2
ซึ่งในการทดสอบนั้นมันเป็นการทดสอบโดยทิ้งจากเครื่องบินที่ระดับความสูง 4,000 เมตร โดยมีร่มชูชีพติดเอาไว้เพื่อลดความเร็วของมัน ซึ่งเป็นการถ่วงเวลาให้นักบินสามารถบินออกไปในระยะที่ปลอดภัยได้ ซึ่งในส่วนแสนยานุภาพของมันนั้น มีอำนาจทำลายล้างเทียบเท่ากับระเบิด TNT 50 ล้านตัน ในขณะที่แรงระเบิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มันมีอานุภาพเทียบเท่ากับระเบิด TNT แค่ 3 ล้านตันเท่านั้น
จบแล้วนะครับสำหรับบทความเรื่อง 10 เรื่องจริงของระเบิดนิวเคลียร์
ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ด้วยนะครับ 🙏❤
ถ้าผมใช้คำไหนผิดหรือเขียนผิดก็ขอกราบอภัยด้วยนะครับ 🙏
Cr. Lupas
โฆษณา