Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2021 เวลา 17:02 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าของหนูนิ ลำดับที่ ๓๗
ตอน กามนิตและวาสิฏฐี
.
บทประพันธ์แนวอิงพระพุทธศาสนาของนักเขียนรางวัลโนเบลปีคศ. ๑๙๑๗
Karl Adolph Gjellearup
.
แปลโดยเสถียร โกเศศ และนาคะประทีป
.
ตอน ๓/๑๑
.
ข่าวเรื่องการปราบปรามโจรองคุลิมาลของสาคาเคียรกระฉ่อนไปทั่ว กามนิตทราบข่าวด้วยความยินดีที่จะได้ไปพบนางผู้เป็นที่รัก เวลาล่วงเลยมาถึง ๒ ปีนางจะเป็นเช่นไรหนอ คราวนี้บิดามารดาไม่สามารถขัดกามนิตที่จะคุมกองเกวียนไปโกสัมพีได้อีก แต่เขาก็ดันมาล้มป่วยกว่าจะหายก็เข้าสู่ฤดูฝน การเดินทางยากลำบาก จึงต้องรอจนกว่าจะพ้นฤดูฝน ซึ่งเวลาได้ล่วงไปอีก ๑ ปี(รวม ๓ ปี)
.
การคุมกองเกวียนไปโกสัมพีคราวนี้ ราบรื่นตลอดเหมือนขาไปคราวที่แล้ว แต่พอเข้าเขตเมืองได้สักหน่อยก็พบว่าตามถนนมีการประดับธงทิวปลิวไสว มีพรมห้อยลงมาจากหน้าต่างและระเบียงมุข ข้างถนน
ก็มีดอกไม้โยงกันตลอด๒ข้างทาง คล้ายกับมีงานรื่นเริงขนาดใหญ่
.
กามนิตสอบถามก็ได้ความว่าสาตาเคียรสมโภชน์งานวิวาห์ ตอนแรกกามนิตก็ดีใจที่คู่แข่งของเขาแต่งงานไป แต่เมื่อพบว่าเจ้าสาวก็คือวาสิฏฐี กามนิตก็เป็นลมล้มฟุบโดยมีผู้ช่วยนำเขาไปพักที่โรงแรมใกล้ๆเพราะเข้าใจว่าเป็นลมเพราะความแออัด
.
กามนิตนอนแซ่วอยู่อย่างนั้นหลายวัน เอาแต่น้ำตาไหลพรากไม่กินอาหาร ทั้งสั่งคนรับใช้ที่มาด้วยกันคราวที่แล้วให้รีบขายของให้หมดแม้จะไม่ได้ราคาก็ตาม จากนั้นก็รีบกลับอุชเชนี เพราะไม่ต้องการให้วาสิฏฐีทราบว่าเขากลับมาโกสัมพีอีก เพราะแค้นใจ
ที่เธอลืมสัญญาที่มีต่อกัน
.
เมื่อกามนิตกลับมาถึงกรุงอุชเชนีเขาก็เอาแต่กินเหล้าเคล้านารี โดยเฉพาะพวกนางคณิกาชั้นสูง จนนางเหล่านี้บางคน ถึงกับทะเลาะกับเจ้านายองค์หนึ่งที่เป็นขาประจำ เพราะต้องการต้อนรับเฉพาะกามนิต กามนิตจึงใช้วิธีคบหากับนางคณิกาชั้นต่ำด้วย ซึ่งนางเหล่านี้เทิดทูนบูชากามนิตเป็นที่ยิ่ง
.
ครั้งหนึ่งบิดาของกามนิตโดนขโมย ของที่โดนขโมยส่วนใหญ่ เป็นของที่มีคนเอามาจำนองไว้และมีราคามาก นางเหล่านี้ก็ได้ช่วยหาเบาะแสจนจับขโมยและได้ของคืนจนครบ พฤติกรรมที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เอ๊ย!หลังมือของเขา เลยมีคำพูดติดปากชาวอุชเชนีว่า
.
"รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม"
.
ตอนที่กามนิตออกจากโกสัมพีเขาได้พบศีรษะที่ถูกเสียบประจานของพวกโจรขององคุลิมาลเป็นระนาวบนเชิงเทินและตามแง่กำแพงกรุงซึ่งโดนแร้งจิกเนื้อกินจนหมด กามนิตก็อดใจหายไม่ได้ เพราะช่วงที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ก็เคยใช้ชีวิตร่วมกับเหล่าโจร
.
มีอยู่กระโหลกหนึ่งเสียบไว้กลางเชิงเทิน เห็นได้ชัดว่าเป็นหัวของวาชศรพ ส่วนขององคุลิมาลถูกเสียบไว้ทางทิศตะวันออก กามนิตจึงนึกถึงคำสอนของวาชศรพที่มีต่อหมู่โจรว่า
.
"พึงอย่าให้เขาจับได้ ถ้าเคราะห์ร้ายถูกจับไป ก็ต้องหาวิธีหนีให้จงได้"
.
ระหว่างนั้นกามนิตได้พบพ่อค้าผู้หนึ่ง เดินทางมาสักการะศีรษะของวาชศรพและพูดกับกามนิตว่า
.
"ผู้ใดที่ท่านวาชศรพโปรดปราน ภายในสองสามปีเท่านั้นเขาจะเป็นผู้ที่มั่งมีที่สุดในโกสัมพี"
.
เพื่อที่จะให้ลืมความโทมนัส ที่เผาผลาญจิตใจของกามนิต เขาจึงคิดที่จะตายไปเสียให้พ้นทุกข์พ้นร้อน ไอ้ครั้นจะฆ่าตัวตายหรือก็ใช่ที่ กามนิตจึงแต่งกองเกวียนไปค้าขายแม้ในที่อันตรายที่สุดก็ไป เผื่อเจอพวกโจรร้ายอย่างองคุลิมาลจะได้ให้มันช่วย
.
"ฆ่าฉัน ฆ่าฉัน ให้ตายดีกว่า"
.
แต่นอกจากไม่พบภัยอันตรายและไม่ตายอย่างที่หวังแล้ว สินค้ายังขายได้ราคามีกำไรงดงามสร้างฐานะจนมั่งมีมาก
.
การได้เป็นไปอย่างนี้ล่วงมาหลายปี วันหนึ่งบิดาจึงหาหญิงงามมีตระกูลมาแต่งให้เพื่อจะได้มีทายาทสืบตระกูล
.
หญิงผู้นี้รูปร่างงามหาตำหนิไม่ได้
.
ผมดำราวกับแมลงผึ้ง
.
หน้าเปล่งปลั่งดั่งดวงจันทร์
.
เนตรประหนึ่งตากวาง
.
จมูกแม้นดอกงา
.
ฟันเทียบไข่มุก
.
ริมฝีปากเพียงผลตำลึงสุก
.
เสียงหวานปานนกโกกิลา
.
ขาคือลำกล้วย
.
เอวเหมาะเจาะไม่อวบเกิน
.
เวลาย่างเดินแคล่วคล่องมีสง่าเสมอช้างทรง
.
แม้จะแต่งงานแล้ว กามนิตก็ยังคงออกไปค้าขายมากกว่าที่จะอยู่บ้าน เพราะแต่งงานโดยปราศจากความรัก ตอนนี้กามนิตกลายเป็นผู้ที่มั่งมีที่สุดในกรุงอุชเชนี
.
ล่วงมาอีกสองสามปี ภริยากามนิตมีบุตรสาว ๒ คน กามนิตได้ซื้อที่แปลงใหญ่นอกเมืองสร้างเป็นอุทยานอันรื่นรมย์และจัดให้มีการเลี้ยงดูอย่างมโหฬาร กามนิตเองก็รับประทานแต่เฉพาะอาหารชั้นเลิศ แพงแค่ไหนก็จะสรรหามา ดังนั้นในเวลานั้นกามนิตจึงอวบอิ่มมาก(อ้วน) ตอนนั้นคำพูดที่ติดปากชาวกรุงอุชเชนีก็คือ
.
"อาหารเลี้ยงวิเศษเหมือนของกามนิต"
.
วันหนึ่งบิดาของกามนิตก็มาพบ เพื่อให้เขามีภรรยาใหม่เพื่อจะได้มีลูกชายไว้สืบสกุล
.
"เนื่องจากการหาภรรยาคนแรกให้นั้น มัวไปละเมอเพ้อฝันเอาแต่เรื่องมั่งมีซู่ซ่าทางโลกีย์เสียหมด หาได้ดูลักษณะของผู้หญิงเป็นที่ตั้งไม่ บัดนี้พ่อหาไว้ให้คนหนึ่งแล้ว แม้หญิงผู้นี้มิได้อยู่ในตระกูลมั่งมีและไม่สวยผุดผาดนัก แต่มีลักษณะดี ที่จะให้บุตรชายที่แกล้วกล้าถึง 5 คนคือ
.
มีสะดือลึกบิดไปทางขวา
.
ฝ่ามือฝ่าเท้ามีลายดอกบัว ลายโกศ
.
มีไฝเป็นรูปกงจักร
.
ผิวดำเหมือนตับเป็ด
.
เส้นผมละเอียดตรง เว้นเสียแต่ที่ต้นคอหยิกไปทางขวาเสีย๒ปอย"
.
(ท่านผู้อ่านจะจำสูตรนี้ไว้ใช้บ้างก็ได้ บิดาของกาม
นิตคงไม่ขัดข้องกระมัง)
.
ลักษณะที่บิดาบรรยายมานี้ ท่านผู้อ่านก็คงพอเดาได้ว่า หญิงนี้จะงามเพียงใด แต่กามนิตก็ตอบตกลง สำหรับชายที่เคยมีภรรยาแล้วนั้น หากจะมีเพิ่มอีกสัก๒-๓คนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และให้บิดาเป็นคนจัดการทันทีเลยก็ได้ เขามีหน้าที่แค่เข้าพิธีเท่านั้น เล่นเอาบิดาของเขาตกตะลึงถึงกับอุทานว่า
.
"ทันทีเชียวหรือ อย่าใจร้อนต้องรอฤกษ์ยามก่อน"
.
กามนิตอยู่ร่วมกับภรรยาทั้ง ๒ อย่างไม่มีความสุข เพราะภรรยาคนแรกแม้จะเสงี่ยมหงิมแต่ก็โง่เซ่อ คนที่สองมีบุตรชาย๑คนนิสัยตรงข้ามกับคนแรก
.
ทุกๆวันพวกนางจะทะเลาะเบาะแว้งเรื่องใครใหญ่กว่ากัน ภรรยาคนแรกถือว่าเป็นเมียเอก ภรรยาคนที่สองถือว่าให้กำเนิดบุตรชาย เดี๋ยวคนนี้มาฟ้อง คนโน้นมาฟ้อง ทำเอากามนิตปวดเศียรเวียนเกล้า
.
วิธีดีที่สุดของเขาก็คือการออกไปกับกองเกวียนนานๆครั้งจึงกลับบ้าน แต่เมื่อเขากลับมาก็เจอเหตุการณ์เดิมๆ สองภรรยาด่าทอกันเสียงขรมจนเป็นที่พูดกันติดปากชาวกรุงอุชเชนีว่า
.
"ทั้งสองรักใคร่กันดีราวกับภริยากามนิต"
.
จบตอน ๓
.
โปรดติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้ ๑-๘-๖๔
3 บันทึก
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย