31 ก.ค. 2021 เวลา 00:02 • กีฬา
ทำไมการวิ่ง 10,000 เมตรของ คีริน ตันติเวทย์ในนามทีมชาติไทย จึงยิ่งใหญ่เหลือเกิน แม้จะเข้าเส้นชัยเป็นที่สุดท้ายก็ตาม??
2
ภาพจาก The Standard
การส่งนักกีฬาแต่ละประเภทเข้าร่วมในเทศกาลโอลิมปิก ต้องผ่านการคัดเลือกหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะต้องเก็บแต้มประจำปี หรือแข่งขันกันเองในทวีปเสียก่อน
1
สำหรับการวิ่งประเภท 10,000 เมตรนั้น การคัดเลือกมีหลักเกณฑ์ข้อกำหนดว่า ผู้ที่จะเข้าร่วมโอลิมปิกได้จะต้องผ่านการทดสอบในผลความเร็วอย่างน้อย pace 2.45 หรือใช้เวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 27.28 นาที
2
ซึ่ง World Record อยู่ที่เวลา 26.11
และ Olympic Record อยู่ที่เวลา 27.01
5
ไม่เคยมีนักวิ่งชาวไทยคนไหนเคยได้ไปยืนที่จุดสตาร์ทนี้มาก่อน นี่คือครั้งแรกที่นักวิ่งที่มีธงชาติไทยแปะอยู่บนหน้าอก ได้ไปยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักวิ่งระดับโลก
2
ในครั้งนี้มีเพียง 25 คนเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกด้วย Qualify ที่โหดหิน ขนาด Sir Mo Farah อดีตนักวิ่งเหรียญทอง 4 สมัยชาวอังกฤษ ก็ยังไม่ผ่านการคัดเลือก
คีริน ตันติเวทย์ในวัย 24 ปี ผู้มี Personal Best Record อยู่ที่ 27.17 นาที ได้มายืนในโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพียงแค่นี้ก็ทำเอาคนในวงการวิ่งไทยขนลุกซู่ ภูมิอกภูมิใจเป็นนักหนาแล้ว
4
ในเอเชียมีเพียง ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยเท่านั้นที่เป็น 1 ใน 25 ลมกรดบนเส้นสตาร์ท ของการวิ่ง 10,000 เมตรบนลู่ของโอลิมปิก 2020
3
การที่คีรินมายืนตรงนี้ได้ จึงเป็น Impact ที่มหาศาลต่อวงการวิ่งของไทยเราอย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้ส่งต่อแรงบันดาลใจ ความมุ่งมั่นทุ่มเท ความหวังและความฝัน ให้กับเยาวชนไทยที่สนใจการวิ่ง ตอกย้ำให้รู้ว่า โอกาสที่จะไประดับโลกไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อเพ้อฝัน
7
การเข้าเส้นชัยลำดับที่ 23 ของคีริน ด้วยเวลา 29:01.92 นาที ของเขาบนลู่วิ่งโอลิมปิก 2020 ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่คือตำแหน่งที่ 23 ของโลก ที่จะจุดพลังและไฟฝันให้เยาวชนนักวิ่งไทย มุ่งมั่นและฝึกซ้อมเพื่อจะไปยืนในจุดสตาร์ทเดียวกับนักวิ่งระดับโลกแบบคีรินบ้าง
6
ขอบคุณที่พาชื่อของประเทศไทยไปอยู่ใน 25 นักวิ่งชายที่วิ่ง 10,000 เมตรเร็วที่สุดในโลกนะคะคีริน ❤️
1
ภาพจาก The Standard
โฆษณา