31 ก.ค. 2021 เวลา 02:30 • กีฬา
[ #ยูไนเต็ดต้องชนะ ! ]
ตอนนี้แทบทุกสื่อระบุเหมือนกันว่าแมนฯซิตี้เตรียมเงินไว้ 100 ล้านปอนด์ วางบนโต๊ะเจรจาเพื่อขอซื้อ แจ็ค กรีลิช จากแอสตัน วิลล่า
บางกระแสก็บอกว่าจะยื่น 90 ล้านปอนด์ แล้วบวก มอร์แกน โรเจอร์ส ตัวรุกวัย 19 ปีที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ซึ่งมีมูลค่าตีออกมา 10 ล้านปอนด์ให้ รวมแล้วจะเป็น 100 ล้านปอนด์ด้วยกัน
โรเจอร์ส คือหนึ่งในดาวรุ่งพรสวรรค์ที่ซิตี้มีอยู่ในมือเวลานี้ โดยซีซั่นก่อนปล่อยให้ลินคอล์นสโมสรในลีกวันใช้งานแล้วโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยผลงาน 8 ประตู 5 แอสซิสต์จาก 33 เกม
ขณะเดียวกันเมื่อลงเล่นในทีมสำรองหรือยู-23 ของเรือใบสีฟ้าก็ฟอร์มร้อนแรงเช่นเดียวกัน เหมือนเจริญรอยตาม เจดอน ซานโช่ และ ฟิล โฟเด้น สมัยเป็นนักเตะเยาวชน
1
นอกจากนี้ยังติดทีมชาติอังกฤษรุ่นเล็กมาตลอดไล่ตั้งแต่ชุดยู-15 , 16 , 17 และ 18 แล้วยังลงเล่นสม่ำเสมอ ไม่ได้เป็นอะไหล่สำรอง
ตอนรับใช้สิงโตคำรามรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ระเบิดตาข่ายไปถึง 9 ประตูด้วยกัน ทั้งที่ไม่ได้ยืนเป็นหน้าเป้าคอยโป้งอย่างเดียว
ตำแหน่งของเขาคล้าย กรีลิช ดังนั้นหากวิลล่าเอาไปปั้นให้ดี รับรองเลยว่าอีกไม่นานพอจะขึ้นมาทดแทนได้
เงิน 90 ล้านปอนด์แนบมาด้วยยังบลัดระดับคุณภาพคับแก้วอีกคน ข้อเสนออย่างนี้วิลล่าจะต้านทานไว้ได้แค่ไหนกัน มันช่างเย้ายวนซะเหลือเกิน
จริงๆแล้วเคยมีข่าวในทำนองแมนฯซิตี้ทดสอบครั้งแรกด้วย 75 ล้านปอนด์ แหลมเข้ามาก่อน แต่ตัวเลขนี้ต่ำเกินไปในความรู้สึกของวิลล่า
อีกทั้ง กรีลิช เพิ่งยืดสัญญาออกไปเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ปักหลักยาวถึงปี 2025 ด้วยกัน ไม่ว่าอย่างไรค่าตัวก็ต้องแพง
ในขณะเดียวกันวิลล่ายังทบค่าจ้างเพิ่มให้ราว 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกต่างหาก
หากมีการซื้อขายจริง มูลค่าก็ต้องเหยียบ 100 ล้านปอนด์ เพราะชัดเจนแล้วว่า กรีลิช ก้าวสู่การเป็นแข้งแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว รวมถึงเป็นคนสำคัญของทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ
บอร์ดบริหารวิลล่าเอง ยังมีแผนจะขยายสัญญาออกไปอีกต่างหาก เอาแบบปีต่อปีกันเลย ซึ่งอาจเพิ่มเข้าไปอีก 2 ปี รวมทั้งปรับค่าจ้างให้ 200,000 เป็นเรตที่น่าพอใจมากๆ
1
ไม่ใช่แค่นั้นวิลล่ายังแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ ต้องการทำทีมให้ไปถึงแชมป์ ยอมทุ่มงบประมาณมหาศาล หลังทำได้ดีในซีซั่นที่แล้ว แต่ยังดีไม่พอ
1
พวกเขารั้ง ดีน สมิธ ผู้จัดการทีมมันสมองให้อยู่ต่อไปได้ รวมถึงการเสริมผู้เล่นชั้นดีอย่าง เอมิลิอาโน่ บวนเดีย กองกลางเชิงรุกดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินา จ่ายไปให้นอริช ซิตี้ราว 35 ล้านปอนด์
ไหนจะเคยทาบทาม เจมส์ วอร์ด เพราส์ กัปตันทีมเซาธ์แฮมป์ตันถึง 35 ล้าน เช่นเดียวกันรุกคืบหายื่นข้อเสนอให้อาร์เซน่อลหวังฉุด เอมิล สมิธ โรว์ ดาวรุ่งคนสำคัญมาให้ได้ ก่อนนักเตะจะเพิ่งต่อสัญญา
2 ผู้เล่นที่ว่ามีมูลค่ารวมกันน่าจะไม่น้อยกว่า 80 ล้านปอนด์ ซึ่งวิลล่ามีกำลังพอสำหรับจ่ายได้
แล้วใครที่คิดว่าวิลล่าซื้อ บวนเดีย เพราะตั้งใจเอาไว้เป็นตัวแทน กรีลิช คงไม่ใช่แน่ ไม่อย่างนั้นจะตื๊อขอต่อสัญญาอีกทำไม
1
เพียงแต่ถึงที่สุดแล้วจะดึงดันได้นานแค่ไหน ข้อเสนอของซิตี้มันมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้
มันยากที่ทีมดังแห่งมิดแลนด์จะวิ่งหนีการห้ำหั่นต่อสู้ในธุรกิจได้ บางทีอาจต้องตัดใจเพื่อยอมรับ
จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เหมือนทำให้ใครต่อใครคล้อยตามไปแล้วว่า กรีลิช จะมาเป็นสมาชิกใหม่ของแมนฯซิตี้ในฤดูกาลที่ใกล้มาถึง
2
ตลอดการเป็นนักเตะ กรีลิช ไม่เคยเล่นทีมไหนเลย ยกเว้นตอน 5 ขวบที่ยังไร้เดียงสา เคยไปเข้าอะคาเดมี่ของไฮเกต ยูไนเต็ดทีมนอกลีก ซึ่งอยู่ละแวกบ้าน
แต่พอ 6 ขวบหรือตั้งแต่ปี 2001 ก็ลงหลักปักฐานกับแอสตัน วิลล่าแบบยาวๆ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน ปาเข้าไป 20 ปีเต็มแล้ว
นอกจากนี้ครอบครัวของเขา ลากยาวไปถึงต้นตระกูลปู่ทวดก็ล้วนแต่เป็นสาวกสิงห์ผยองด้วยกันทั้งสิ้น
1
ต้องย้อนกลับไปยังต้นศตวรรษ 19 บิลลี่ การ์ราตี้ ปู่ทวดที่สืบสายมาจากทางแม่ เป็นนักเตะแกนหลักของวิลล่าและมีส่วนช่วยพาทีมครองแชมป์เอฟเอ คัพในปี 1905 สำเร็จ
ทุกวันนี้รูปของปู่ทวดบิลลี่ยังแขวนไว้ในบ้านเกิดย่านโซลิฮัลล์ ไว้สำหรับรำลึกถึงและเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกหลานเหลนทั้งหลายด้วย
กรีลิช เองยังได้รับของขวัญจากพ่อ เป็นเสื้อของแอสตัน วิลล่าตั้งแต่อายุได้แค่ 3 ขวบ
1
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังแห่งความผูกพันระหว่างตัวเขาก็สโมสรแห่งนี้จะแทบล้นทะลักมากมายเอาเลย
กรีลิช เคยบอกเอาไว้ว่า นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรหากต้องไปสวมเสื้อทีมอื่น มันเกินจินตนาการจริงๆ
อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากวิลล่า ซึ่งเป็นที่หนึ่งในดวงใจแล้ว อีกทีมที่เขาปันใจแบ่งมาช่วยเชียร์บ้างคือแมนฯยูไนเต็ด
เขาไม่เคยเปิดใจแบบตรงๆ แต่อย่างน้อยที่สุดข้อความบนทวิตเตอร์ ย่อมเป็นหลักฐานได้อย่างดี
ฤดูกาล 2011/12 แมนฯซิตี้กับแมนฯยูไนเต็ด ขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันอย่างหนัก เรียกว่าเบียดไหล่ต่อไหล่ จนกระทั่งกำลังเข้าสู่นัดสุดท้าย
2
กรีลิช ในวัย 16 ปีเท่านั้นทวิตไว้ว่า -- "Football is on! Please United win and City lose, I cannot watch City win the league lol, come on the Villa as well!!"
พากย์ไทยก็คือ "ได้โปรดเถอะ ให้ยูไนเต็ดชนะ ซิตี้แพ้ ผมไม่อาจทนดูซิตี้เป็นแชมป์ลีกได้" ก่อนตบท้ายด้วยการเชียร์วิลล่าต้นสังกัดที่แท้จริง
ข้อความดังกล่าวโพสต์วันที่ 13 พ.ค. 2012 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายพรีเมียร์ลีก ตัดสินว่าซิตี้หรือแมนฯยูไนเต็ดจะได้ครองบัลลังก์
ในที่สุด กรีลิช ก็อกหัก เพราะเรือใบสีฟ้าสร้างความมหัศจรรย์ในช่วงท้ายเกมและทดเจ็บ ซัด 2 ประตูกลับมีชัยเหนือคิวพีอาร์ 3-2 เฉือนยูไนเต็ดแค่ปลายจมูกด้วยประตูได้เสีย หลังจากแต้มเท่ากันเมื่อจบนัดที่ 38
1
หรือย้อนกลับไปก่อนนั้นแค่ 2 สัปดาห์ กรีลิช ก็ยังทวิตว่า -- "On route to training, finally I’m back training n the suns shining, absolutely BUZZING for the game tonight, come on u reds #United".
"บนเส้นทางของการซ้อม ในที่สุดผมก็ได้กลับมาซ้อมด้วยความสดใส เกมคืนนี้มันต้องเจ๋งอย่างนี้ มาลุยด้วยกันเดอะ เร้ดส์" -- ก่อนติดแฮชแท็คยูไนเต็ดเป็นการปิดท้าย
เพราะคืนวันที่ 30 เมษายน 2012 แมนฯยูไนเต็ดมีเกมสำคัญต้องบุกไปเยือนซิตี้ในศึกผ่าเมือง หากชนะได้โอกาสคว้าแชมป์จะสูงอย่างมาก
นั่นหมายความว่า กรีลิช เอาใจช่วยปีศาจแดงอย่างเต็มที่ในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แล้วก็ผิดหวังเพราะเรือใบสีฟ้าฟ้าคว้าชัย
ทวิตขนาดนี้มันชัดเจนแบบไม่ต้องสืบเลยว่า กรีลิช คือแฟนตัวเป้งของแมนฯยูไนเต็ด คงไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าจะมีความฝันสักวันได้ย้ายมาเล่นด้วย
เขาเกือบได้ย้ายมาจริงๆตั้งแต่ซีซั่นก่อน หากไม่ใช่เพราะมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาขวางเอาไว้ อาจได้ลงเล่นไปแล้ว
แต่มาวันนี้มีโอกาสสูงที่จะได้มาแมนเชสเตอร์ แต่ต้องมาเป็นนักเตะแมนฯซิตี้ ทีมคู่ปรับสำคัญของยูไนเต็ด
หากย้ายมาจริงเขาคงถูกตั้งคำถามจากสาวกซิตี้เป็นธรรมดา แม้เหตุการณ์จะผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ตาม
แต่ก็นั่นแหล่ะในความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งการไล่ล่าไขว่คว้าความสำเร็จและเกียรติยศ จะเป็นพลังผลักดันให้ กรีลิช สมควรเดินไปข้างหน้าเพื่อตัวเองมากกว่า
คุณอาจจะไม่มีวันเปลี่ยนทีมเชียร์ได้ ทว่าในอีกทางก็ไม่อาจขวางวิถีของฟุตบอลได้เช่นเดียวกัน
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา