31 ก.ค. 2021 เวลา 05:15 • กีฬา
ข่าวใหญ่ที่สุดในโอลิมปิก ช่วง 2-3 วันนี้ ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการแข่งในสนาม แต่เป็นเรื่องนอกสนามของซิโมน บายส์ (Simone Biles) นักยิมนาสติกชาวอเมริกัน ที่ถอนตัวจากการแข่งโดยให้เหตุผลว่า "จิตใจไม่พร้อม" เรื่องเป็นอย่างไรวิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
9
ซิโมน บายส์ คืออัจฉริยะ และเป็นนักยิมนาสติกที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในทศวรรษนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน เธอในวัย 19 ปี ลงแข่งขันโอลิมปิกเป็นครั้งแรก และคว้าไป 4 เหรียญทองในทัวร์นาเมนต์เดียว
6
ด้วยส่วนสูง 142 เซนติเมตร ตัวเล็กแต่แข็งแรง คาแรคเตอร์ก็เด่นชัดมาก บวกกับความที่เธอเป็นคนผิวดำ ซึ่งว่ากันแฟร์ๆ ในยิมนาสติก ก็มีคนผิวดำไม่เยอะที่เป็นระดับท็อป ทุกอย่างมันส่งเสริมให้เธอโด่งดังและเป็นที่รู้จักในเวทีโลก
4
ซิโมนคว้าแชมป์โลก ในประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์หญิง 3 ปีติดต่อกัน (2013, 2014, 2015) จึงมาร่วมแข่งโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ ในฐานะเต็งหนึ่ง และแน่นอน เธอก็ไม่พลาดจริงๆ ซิโมนคว้าไป 4 เหรียญทองคนเดียว จากบุคคลรวมอุปกรณ์หญิง, ทีมหญิง, ม้ากระโดด และ Floor Exercise
13
ชีวิตของซิโมนกำลังอยู่ในขาขึ้น อย่างไรก็ตาม มีดราม่าสำคัญเกิดขึ้นในโลกยิมนาสติก ซึ่งมันเกี่ยวพันกับแคมเปญ #metoo (ฉันก็โดนด้วย) ในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2016
2
แคมเปญ #metoo มีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ "ผู้หญิง" ได้บอกให้โลกรู้ว่า ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยโดนคนใกล้ชิดลวนลามทางเพศ แต่ ณ เวลานั้น เธอได้แต่เก็บเงียบไม่กล้าบอกใคร
6
อย่างไรก็ตาม วันนี้เธอเข้าใจแล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง แต่ควรออกมาเปิดเผยความจริง เพราะคนที่ควรจะอับอายไม่ใช่เธอ แต่เป็นคนที่ลวนลามต่างหาก
7
เซเล็บในวงการภาพยนตร์ หรือวงการโทรทัศน์ ต่างก็ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนลวนลามกันมากมาย เช่นเดียวกับวงการยิมนาสติกก็มีด้วย โดยอดีตนักกีฬาระดับทีมชาติ 2 คน มาสารภาพผ่านหนังสือพิมพ์ IndyStar ว่าพวกเธอเคยโดน ดร.แลร์รี่ นาสซาร์ แพทย์ของสมาคมยิมนาสติกสหรัฐฯ ลวนลามติดต่อกันหลายปี
7
ตอนข่าวนี้หลุดออกมา ใครๆก็ไม่อยากเชื่อ เพราะดร.นาสซาร์ ถูกยกย่องว่าเป็นหมอเทวดาของวงการยิมนาสติก เขาทำงานมานาน และช่วยให้สมาคมฯ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในทุกการแข่งขัน เรียกได้ว่าเป็นบุคลากรทรงคุณค่าของสมาคมยิมนาสติกสหรัฐฯ
13
ดังนั้นตอนข่าวนี้หลุดออกมา ประชาชนทั่วไป ก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อว่ามันจะเป็นจริง
4
แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะเมื่อ FBI ได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านของนาสซาร์ ไปเจอรูปโป๊ของเด็กผู้หญิงมากกว่า 37,000 ภาพ อยู่ในคอมพิวเตอร์ โดยมีรายงานว่า หลายรูปเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และหลายรูปเขาเป็นคนถ่ายเองด้วย
12
จากอดีตนักยิมนาสติก 2 คนที่กล่าวหาเขาในตอนแรก เวลาต่อมาคนที่ออกมาแฉ ก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ มีนักกีฬา ที่ออกมายอมรับว่าโดนลวนลามมาตลอดเช่นกัน รวมแล้วเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยคน
8
ถึงตรงนี้คนจึงเริ่มเห็นภาพ ว่า ดร.นาสซาร์ ไม่ได้เป็นคนดีเหมือนภาพที่เห็น และเหตุผลที่เขาทำอาชีพแพทย์ของทีมยิมนาสติกติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปี 2014 รวม 28 ปี นั่นเพราะยิมนาสติกเป็นกีฬาที่เด็กผู้หญิงต้องมาเริ่มต้นฝึกซ้อมตั้งแต่อายุยังน้อยๆ มันเลยเข้าทาง ดร.นาสซาร์พอดี
9
เพราะเขาเป็นพวก Paedophile หรือมีพฤติกรรมใคร่เด็ก และการเป็นแพทย์ในสมาคมยิมนาสติก ก็ทำให้เขาสามารถหาเหยื่อใหม่ๆ มาได้ตลอด
3
เรื่องเหล่านี้ โดนปิดเอาไว้มานับสิบปี เพราะเด็กๆ ก็อับอายที่จะบอกให้ใครรู้ว่าตัวเองโดนลวนลาม ยิ่งอีกฝ่ายเป็นบุคลากรที่ได้รับการเคารพในวงการ จึงทำให้พวกเธอไม่กล้าพูด เพราะกลัวไม่มีคนเชื่อ ซึ่งนั่นเองทำให้ดร.นาสซาร์ได้ใจ และกระทำการล่วงละเมิดเด็กผู้หญิงหลายคน มาเรื่อยๆ หลายปี
10
เมื่อดร.นาสซาร์โดนจับ ทำให้สตีฟ เพนนี ประธานสมาคมยิมนาสติกสหรัฐฯ และบอร์ดบริหาร ประกาศลาออกยกชุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบ นี่เป็นข่าวใหญ่อันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ในช่วงนั้น
4
หนึ่งในนักกีฬาที่โดนลวนลามมาตลอดเช่นกัน ก็คือซิโมน บายส์ โดยหลังจากนาสซาร์โดนจับสักระยะ เธอออกมาทวีตในปี 2018 ว่า "นานมากจริงๆ ที่ฉันเอาแต่ถามตัวเองมาตลอดว่า ฉันเองก็มีส่วนหรือเปล่าที่ไม่กล้าขัดขืน จนเขาสามารถทำแบบนั้นได้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย และฉันก็ไม่ควรแบกรับความรู้สึกนั้นอีกต่อไป แต่คนผิดคือ แลร์รี นาสซาร์ และ สมาคมยิมนาสติกสหรัฐฯ"
4
ไม่ใช่แค่เรื่องนาสซาร์เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ มากมาย เกิดขึ้นกับเธอในช่วง 2-3 ปีนี้ ตั้งแต่พบว่าตัวเองต้องเข้ารับการผ่าตัดนิ่ว ตามด้วยเรื่องของน้องชาย เทวิน บายส์ โดนจับข้อหาฆ่า 3 ศพ ซึ่งกว่าจะสืบคดีเสร็จสิ้นว่าน้องชายของเธอ โดนใส่ความ ก็กินเวลาเป็นปี ซึ่งเรื่องนี้ก็บั่นทอนกำลังใจเธอเป็นอย่างมาก
18
จากนั้นเกิดดราม่าสำคัญอีกรอบ ก่อนโอลิมปิกจะเริ่ม 2 สัปดาห์ โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานล่าสุดของคดีแลร์รี่ นาสซาร์ และมีหลักฐานว่า คนของสมาคมยิมนาสติก รู้ดีแต่แรกว่านาสซาร์เป็นคนยังไง แต่เก็บเงียบเอาไว้ เพราะเสียดายความสามารถในฐานะคุณหมอเทวดา มองถึงความสำเร็จของสมาคมฯ มาก่อนความรู้สึกของนักกีฬาผู้หญิง ซึ่งพอรู้เรื่องนี้ ทำให้ซิโมน บายส์ เดินทางมาโตเกียวด้วยความกระอักกระอ่วนใจอย่างมาก
5
หากเทียบกับโอลิมปิกเมื่อ 5 ปีก่อน ซิโมนไปที่ริโอแบบคนรู้จักน้อย แต่คราวนี้เธอไปโตเกียวแบบที่ใครๆก็รู้จักแล้ว จึงโดนสื่อจับจ้องทุกฝีก้าว สภาพจิตใจเธอก็แย่อยู่แล้ว มันส่งผลให้เธอเครียดหนักขึ้น มันสั่งสมจนเธอรับไม่ไหว
8
ยิมนาสติกหญิง เริ่มต้นที่ประเภท "ทีมหญิง" โดยสหรัฐฯ มีนักกีฬา 4 คน ประกอบด้วย ซิโมน บายส์, จอร์แดน ชิลส์, สุนิสา ลี และ เกรซ แม็คคัลลัม
6
โดยกฎของยิมนาสติกประเภททีม จะมีดังนี้
3
1) แต่ละทีมต้องมีนักกีฬา 4 คน
2
2) ใน 1 ชนิดอุปกรณ์ (ม้ากระโดด, บาร์ต่างระดับ, คานทรงตัว, Floor Exercise) แต่ละประเทศ ต้องเลือก 3 จาก 4 นักกีฬาในทีมลงทำการแข่งขัน
4
ตัวอย่างเช่น ทีมสหรัฐฯ มี 4 คน แต่ม้ากระโดด คุณจะเลือกลงแข่งได้แค่ 3 คนเท่านั้น โดยสหรัฐฯ เลือก บายส์, ชิลส์, แม็คคัลลัม โดยดร็อปสุนิสา ลี เอาไว้
2
3) คะแนนของแต่ละคนที่ได้ จะเอามารวมกันทั้งหมดทั้ง 4 อุปกรณ์ ประเทศไหนได้แต้มรวมสูงสุด จะได้เหรียญทอง
2
อุปกรณ์แรกที่แข่งขันคือ ม้ากระโดด (Vault) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ซิโมน บายส์ มั่นใจมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เธอกลับทำแต้มได้แค่ 13.766 คะแนน เกือบจะเป็นที่โหล่ของนักแข่งทั้งหมด
6
นั่นทำให้เธอไปปรึกษาแพทย์ของทีมยิมนาสติก และประกาศแบบช็อกโลกว่า เธอจะขอถอนตัวจากการแข่งขันประเภททีม โดยให้เหตุผลว่า สภาพจิตใจไม่พร้อม
3
ความจริงตามกำหนดการณ์เดิมในประเภททีมหญิง ซิโมน จะแข่งครบทั้ง 4 อุปกรณ์แต่อยู่ๆ เธอมาถอนตัวแบบนี้ เพื่อนๆ อีก 3 คนก็ต้องมาแบกแทน บางคนไม่ได้ซ้อมในบางประเภทอุปกรณ์มา เมื่ออยู่ๆ ก็ต้องลงแข่งแทนดื้อๆ ผลงานก็เลยออกมาไม่ดีนัก
4
สุดท้ายสหรัฐฯ ก็จบด้วยอันดับ 2 ได้แค่เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมนักกีฬารัสเซีย ชนะไปด้วยคะแนนค่อนข้างห่าง
3
แฟนกีฬาสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งโมโหใส่ซิโมน บายส์ ว่าจะมาถอนตัวกะทันอะไรแบบนี้ ลองนึกภาพตามว่า หากกลุ่มของคุณ ต้องไปรายงานพรีเซ็นเตชั่นเสนองานลูกค้า และเพื่อนคนหนึ่งถูกมอบหมายให้เป็นคนพรีเซ็นต์ แต่พอถึงวันเจอลูกค้าจริงๆ คนพรีเซ็นต์ขอถอนตัว บอกไม่เอาแล้ว นั่นทำให้เพื่อนๆ ต้องมาพรีเซ็นต์งานแทน คือก็พอทำได้ แต่คงไม่ดี เท่าคนที่ถอนตัวไปแน่ๆ
8
ไม่เพียงแค่ ประเภททีมเท่านั้น ในประเภทเดี่ยวตามเดิม ซิโมนเป็นตัวแทนสหรัฐฯ ลงแข่งอีก 5 เหรียญ แต่สุดท้ายเธอถอนตัวจากบุคคลรวมอุปกรณ์ไปแล้ว และอีก 4 เหรียญ ม้ากระโดด, บาร์ต่างระดับ, คานทรงตัว และ Floor Exercise ก็เตรียมถอนตัวตามไป
8
เธออธิบายการตัดสินใจครั้งนี้ว่า "การจะทำท่าต่างๆ ในกีฬายิมนาสติกได้นั้น บางท่ามีความอันตรายสูงมาก และร่างกายและจิตใจของคุณต้องเชื่อมต่อกัน จึงจะสามารถทำผลงานออกมาได้ดี"
4
คือร่างกายอาจจะพร้อม แต่เมื่อจิตใจสับสนวุ่นวาย มันจะกลายเป็นเสี่ยงอันตรายมากกว่าเสียอีก ซึ่งด้วยสภาพอารมณ์แบบนี้ ไม่มีวันชนะใครเขาได้หรอก
4
การถอนตัวของซิโมน เกิดการแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรง ในหมู่คนอเมริกัน
กลุ่มแรกคือ สนับสนุนและเข้าใจเธอ โดยมองว่าสภาพจิตใจนั้นสำคัญที่สุด ถ้าเธอตระหนักแล้วว่าไม่พร้อม ก็ถอนตัวออกไปน่ะดีแล้ว เยียวยาหัวใจให้ดีก่อนดีกว่า
11
เควิน เลิฟ นักบาสทีมชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า "ถึงซิโมน และใครก็ตามที่กล้าเปิดเผยเรื่องราวที่ตัวเองเผชิญ คุณช่วยคนอีกมากมายในโลกนี้ให้กล้าเอาชนะสิ่งกีดขวางในใจตัวเอง"
3
ส่วนเอลี ไรส์แมน อดีตนักกีฬายิมนาสติกที่รีไทร์ไปแล้ว กล่าวว่า "เวลาคุณดูยิมนาสติก ผู้คนมักจะลืมไปเลยว่าเธอก็เป็นแค่มนุษย์ เธอเจ็บได้ ร้องไห้เป็น และมีความเครียดเหมือนพวกเรานั่นแหละ ซิโมน เป็นนักยิมนาสติกที่แบกรับความกดดันมากที่สุดแล้ว"
6
ด้วยกำลังใจที่หลั่งไหลอย่างท่วมท้น ซิโมน เองออกมากล่าวขอบคุณ และยืนยันว่า แม้จะไม่ได้เข้าแข่งขัน แต่เธอจะเป็นกองเชียร์ที่ดี และเอาใจช่วยให้เพื่อนร่วมทีมสหรัฐอเมริกาคนอื่น คว้าเหรียญทองให้ประเทศชาติให้ได้
3
ในการแข่งขันบุคคลรวมอุปกรณ์หญิงเมื่อวันศุกร์ เราจึงเห็นภาพเธอมานั่งเชียร์สุนิสา ลี เพื่อนร่วมทีมชาติ จนคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ เธอหัวเราะยินดีกับเพื่อน คือให้เชียร์น่ะทำได้ แต่ให้มาเล่นเอง เธอบอกว่าไม่พร้อมจริงๆ
4
นั่นคือกลุ่มแรก ส่วนกลุ่มที่ 2 คือประณามซิโมนว่าเป็น "Selfish Quitter" หรือคนถอนตัวที่เห็นแก่ตัว
1
โดยกลุ่มนี้อธิบายว่า ถ้าเธอไม่พร้อม เธอจะมาโอลิมปิกทำไมตั้งแต่แรก มีนักกีฬามากมายที่ใฝ่ฝันอยากจะรับใช้ชาติ แต่ไม่ได้โอกาส แต่เธอมาแล้วถอนตัวดื้อๆ มันเป็นการแย่งพื้นที่คนอื่นมาเป็นของตัวเอง คือถ้าไม่พร้อมก็บอกก่อนมาแข่งสิ ไม่ใช่มาถอนตัวกะทันหันแบบนี้
1
บางคนบอกว่า การถอนตัวของเธอทำให้เพื่อนร่วมทีมลำบาก อย่างในประเภททีมหญิง หลายๆคน ตั้งตัวไม่ติดที่ต้องมาลงเล่นแทนซิโมน และสุดท้ายมันก็ปุบปับเกินไป จนคว้าได้แค่เหรียญเงินเท่านั้น
5
กลุ่มนี้จะวิจารณ์ว่า สภาพจิตใจแย่หรอ แย่แค่ไหนที่หัวเราะข้างสนามตอนเชียร์เพื่อนได้ ดูไม่เหมือนคนที่เจ็บปวดอะไรขนาดนั้น และอีกอย่างเรื่องที่เกิดกับซิโมนก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ กับกรณีของแลร์รี่ นาสซาร์ ก็ผ่านมาเป็นปีๆแล้ว จะมาเจ็บปวดอะไรตอนกำลังแข่งโอลิมปิก
2
แม้ซิโมนจะไม่ได้ตั้งใจ แต่การถอนตัวของเธอเป็นการต่อสู้กันของคนสองความคิด คือฝั่งเสรีนิยม และฝั่งอนุรักษ์นิยม
ฝั่งเสรีนิยมจะมองว่า เธอเองก็มีสิทธิ์ในตัวเองทุกประการ เธอไม่สบายใจก็มีสิทธิ์จะถอนตัว เพื่อดูแลใจของตัวเองให้ดี นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
1
แต่ฝั่งอนุรักษ์นิยมจะมองตรงข้ามกันเลย ตัวอย่างเช่นเพียร์ส มอร์แกน คอลัมนิสต์คนดังเขียนบทความว่า "ก็น่าเสียใจสำหรับซิโมน บายส์ แต่ไม่มีอะไรน่ายกย่องจากการถอนตัวเพียงเพราะคุณไม่รู้สึกมีความสุข คุณทำให้เพื่อนร่วมทีม แฟนๆ และประเทศต้องผิดหวัง"
8
ในมุมของฝ่ายขวา จะมองว่าเฮ้ย คุณจะไปยกย่องซิโมนทำไม นักกีฬาที่ถอนตัว ไม่ยอมแข่งจนจบ ไม่เห็นจะน่าภูมิใจตรงไหน อย่างในวิมเบิลดันเดือนที่แล้ว ตอนที่เอ็มม่า ราดูคานู นักเทนนิสชาวอังกฤษวัย 18 ขอถอนตัวในเซ็ตที่ 2 เพราะจิตใจไม่พร้อม สื่อมวลชนก็สับยับ ว่าถ้าไม่พร้อมจะแข่งให้จบ แล้วมาแข่งทำไม ดังนั้นกับกรณีของซิโมน คุณจะถอนก็ถอนได้นะ แต่ไม่เห็นน่าเชิดชูเลยสักนิด
5
มอร์แกนเขียนว่า "ตั้งสติหน่อยซิโมน อย่าทำตัวอ่อนแอเพื่อแลกเสียงเชียร์ในทวิตเตอร์ คุณเป็นแชมเปี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ เกินกว่าจะโดนประณามว่าเป็น Quitter"
2
ดังนั้นในเรื่องนี้จึงเป็นข้อถกเถียงกันจนถึงวันนี้ ว่าเอาจริงๆ การถอนตัวของเธอ ควรให้แฟนๆ กีฬารู้สึกอย่างไรกันแน่
1
"ควรยกย่องเธอ" ว่าแต่ละคนก็มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ที่ใจต้องการ และเรื่องสภาพจิตใจถ้าเธอไม่พร้อม ก็ต้องเข้าใจเธอสิ ไม่มีนักกีฬาคนไหน อยากถอนตัวจากโอลิมปิกหรอก เหตุการณ์ครั้งนี้ มันคงสุดวิสัยจริงๆ คนที่ด่าลองมาเป็นเธอบ้างมั้ยล่ะ
3
คนสมัยก่อนอาจไม่เข้าใจว่า Mental Health คือสุขภาพแบบหนึ่ง ถ้าหากเจ็บร่างกาย คุณก็แข่งกีฬาไม่ได้ แล้วมันจะต่างอะไรกับเจ็บในจิตใจล่ะ มันก็อาจส่งผลให้คุณไม่พร้อมจะแข่งได้เหมือนกัน ดังนั้นการที่ซิโมนถอนตัวออกมา ถือเป็นความกล้าหาญแล้ว
1
แต่อีกมุมก็มองว่า "ไม่ควรยกย่องเธอ" เพราะนี่เธอมาแข่งในนามทีมชาตินะ มันไม่ใช่เด็กเล่นขายของ ที่อยากจะถอนก็ถอน อยากจะแข่งก็แข่ง อย่าเอาประเด็นจิตใจมาอ้าง ถ้าอ้างเรื่องนี้ อนาคตต่อไป ใครที่จิตใจไม่พร้อมจะแข่ง ก็ถอนตัวกันหมดมันคงไม่ต้องมาดูกีฬากันแล้ว
4
ใช่ มันเป็นสิทธิ์ของเธอที่จะทำได้ แต่กระแสชื่นชมความกล้าหาญ มันมาจากไหน? คนที่กล้าจะแข่งขัน เอาชนะจิตใจอ่อนแอของตัวเองต่างหากที่ควรได้รับการยกย่องว่ากล้าหาญ
3
เอาล่ะครับ เรื่องของซิโมน บายส์ ก็จบลงตรงนี้ ท่ามกลางการแตกแยกทางความคิดของคนในวงการกีฬา ที่เป็นสองขั้วอย่างรุนแรง ที่อเมริกาตอนนี้เถียงฟาดฟันกันอย่างดุเดือดมาก
และคำถามของผมในตอนจบก็คือ เมื่อคุณลูกเพจอ่านจบแล้วคิดยังไงกับซิโมน อยู่ฝั่งไหนกันทางความคิด
คิดว่าเธอ Brave ที่กล้าถอนตัว หรือเอาจริงๆ ก็เป็นแค่ Selfish Quitter เท่านั้น
#Question
โฆษณา