31 ก.ค. 2021 เวลา 09:12 • สุขภาพ
"โควิด-19" วิกฤต รากหญ้า
วันนี้เรามารู้จักว่าทำไมโควิดถึงเรียกว่าวิฤต รากหญ้า
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ24ปีที่ผ่านมา หลายๆคนอาจจะรู้จักเมื่อปี พ.ศ.2540 ในประเทศไทย ได้เจอกับวิกฤต ที่ร้ายแรงมากกับคนรวย ทั้งรวย รวยมาก และรวยระดับเจ้าสัว
วิกฤติเศรษฐกิจนั้นก็คือ #วิกฤตต้มยำกุ้ง ที่เกิดขึ้นที่ไทย
เมื่อวันที่ รัฐบาลประกาศให้ค่าเงินบาทลอยตัวใน พ.ศ.2540 คนรวยระดับต่างๆ ก็เกิดวิกฤตอย่างมากเนื่องจากเงินที่กู้มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว #หาข้อมูลเอง นะคะ #วิกฤตต้มยำกุ้ง แต่วันนี้จะมาถอดบทเรียนว่าวิกฤตรากหญ้า กับวิกฤตคนรวยมันต่างกันยังไง
เมื่อปี40ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง (คนเล่ายังไม่เกิดเลย) คนรวยระดับต่างๆ พากันเดือดร้อนมาก บ้างคนล้มละลาย บ้างคนถึงกับฆ่าตัวตาย บ้างคนต้องยอมเสียบ้างสิ่งเพื่อรักษา สิ่งที่สำคัญกว่าไว้ บ้างคนขายบ้านขายรถ บ้างคนเหลือแต่ตัว ซึ่งวิกฤตในตอนนั่นไม่กระทบต่อ คนฐานะปานกลางรวมไปถึงชนรากหญ้าเลย อาจกระทบบ้างแต่น้อย
และขอยกตัวอย่างเคสหนึ่งที่เขาเป็นคนรวยมากเพื่อเจอวิกฤตเขากับเป็นบุคคลล้มละลายไม่เหลืออะไรเลย จนต้องมาทำแซนวิสขาย ขายด้วยการทำลังโฟมให้เป็นกระเป๋าสะพายคล้องคอ เดินขายตามตลาดโดยที่ไม่อายเลยถึงแม้จะมี คนร้องทักว่า "มาดูเศรษฐีตกอับ โดนคนบ้างคนพูดจา ดูถูกเหยียดหยาบต่างๆนานา แต่เขาก็ไม่มีทางเลิกมากนัก มีแต่ความรู้และความอนทนที่ไม่ยอมแพ้ และผ่านมาจนถึงวันเขาก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวกลับมาเป็นเศรษฐีได้อีกครั้ง
มาดูตัวอย่างวิกฤตโควิดหรือวิกฤต รากหญ้ากันบ้าง โควิด19ส่งผลกระทบต่อทั้งระบบเศรษฐกิจ ทั่วทั้งโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งวิกฤตนี้กระทบต่อคนรวยระดับต่างๆ น้อยมากๆๆ แต่สำหรับคนฐานะปานกลางรวมมาถึงระดับรากหญ้าอย่างเราๆถือว่าหนักมาก จะอดตายกันทั้งพิษเศรษฐกิจ และยังต้องมาเจอโรคระบาดอีก
แต่สิ่งที่เจอในวิกฤตนี้และที่เจอมากๆใน สื่อออนไลน์ต่างๆ คือ 2 วิกฤตนี้สามารถเปรียบเทียบและแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
เรามาเปรียบเทียบกับระหว่าง2วิกฤตนี้ว่าคนต่างกันที่จุดไหน
ไปที่ปี40วิกฤตต้มยำกุ้ง
1.คนรวยที่ล้มละลายจนกลายมาเป็นพ่อค้าขายแซนวิสโดยเดินขายไปเรื่อยๆตามตลาด และหน้าโรงเรียนบ้าง
2.โดนทุกคำดูถูกเหยียดหยาบจาก คนหลายๆประเภท
3.เขาไม่เคยโทษใครด่าใครแม้เขาจะเคยคิดฆ่าตัวตาย
4.แม้จะเจอบทเรียนอันแสนโหดร้ายในชีวิตก็สามารถข้ามผ่านมันมาได้
5.เขาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลับกลายมาเป็นเศรษฐีได้เหมือนเดิมโดยเรียนรู้จากความล้มเหลว และไม่สนใจคำดูถูกต่างๆ
มาถึงวิกฤต โควิด19กันเลย
1.ที่เจอกันเยอะในสื่อออนไลน์ต่างๆ คือคนเหล่านี้จะไม่เคยโทษตัวเอง สิ่งที่ทำคือ
1.1.โทษรัฐบาลบ้าง โทษคนรวยบ้าง โทษสิ่งอื่นๆต่างๆ นานา ที่ไม่ใช่โทษตัวเอง
2.ไม่พัฒนาตัวเองและความรู้เพื่อให้อยู่รอดในวิกฤตเช่นนี้
3.นั่งวิจารณ์คนนั้นคนนี้ (คนนี้เป็นคนรวยไม่เข้าใจคนจนอย่างเราหรอก) ร่วมใจกันแบน ร้านนั่นไม่เข้าร้านนี้
4.ถึงแม้จะถูกรางวัลที่หนึ่งอีกไม่กี่เดือนกี่ปีก็กลับมาจนเหมือนเดิม
นี้คือข้อแตกต่างและบทเรียนที่ได้จาก2วิกฤตนี้
1.วิกฤตต้มยำกุ้งปี40
2.วิกฤตโควิด19
เปลี่ยนเวลานั่งวิจารณ์ข่าวคนรวยหรือวิจารณ์สิ่งอื่นๆ มาเป็นการพัฒนาถอดบทเรียนความสำเร็จ ของคนเหล่านั้นมาเป็นแรงช่วยให้เราทุกคนรอดในวิกฤตนี้ให้พาพ้นไป
*หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้ส่งเสริมใคร เพียงแค่อย่างให้คิดและใช้วิจารณญาณในการอ่าน
#ขอบคุณค่ะ
โฆษณา