2 ส.ค. 2021 เวลา 00:49 • สุขภาพ
"การกลั้นจาม" มีอันตรายมากกว่าที่คุณคิด🚨
จามอย่างไรให้ถูกวิธีในยุค Covid
..
ฮัดเช้ย...🤧
เวลาที่มีอะไรทำให้เรารู้สึกระคายเคืองที่จมูก เช่น ฝุ่นผงหรือเกสรดอกไม้ การจามถือเป็นกลไกปกติ ของร่างกายมนุษย์
แม้ว่าตามมารยาททางสังคม การจามในที่สาธารณะโดยไม่ปิดปาก ปิดจมูก ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
ยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดแบบนี้ ใครที่จามแบบเปิดหมด รับรองว่ามีคนมองตาเขียวกันเป็นแถบ ๆ
เมื่อการจามกลายเป็นเรื่องต้องระมัดระวัง เวลาอยู่ท่ามกลางผู้คนเช่นนี้
หลายคนจึงเลือกที่จะกลั้นจามเอาไว้...
1
ซึ่งบอกเลยว่า "อันตรายมาก"😬
1
..
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักการจามกันก่อน
การจาม เป็นกลไกของร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อสมองรับรู้ว่า มีสิ่งแปลกปลอมสร้างความระคายเคืองบริเวณรูจมูก
สมองจะสั่งการให้กล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจขยับตัวประสานกันจนพ่นเอาสิ่งแปลกปลอมออกไปทางจมูกและปาก
ขณะเดียวกัน เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมถูกขับออกไปให้ได้มากที่สุด สมองจึงสั่งให้มีการหลั่งของเหลวในจมูกและตา(น้ำตา)ร่วมด้วย
ค่าเฉลี่ยแรงลมที่เกิดจากการจามแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 10 ไมล์ต่อชั่วโมง..
..
เคยมีข้อสงสัยว่า ทำไมเราต้องหลับตาเวลาจาม ?
การลืมตาเวลาจาม จะทำให้ลูกตาหลุดออกมาจริงหรือเปล่า?
1
เรื่องการหลับตาเวลาจาม ไม่เกี่ยวกับแรงดันจากการจามจะทำให้ลูกตากระเด็นหลุดออกจากเบ้าตาแต่อย่างใด
แต่มันเป็นเพียงกลไกของกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาที่ถูกสั่งให้ปิดลง เวลาเราจามออกมาเท่านั้น
..
ทีนี้เรามาว่ากันต่อถึงอันตรายจากการกลั้นจาม..
1
สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้หากคุณกลั้นจามแรง ๆ ด้วยการปิดปาก ปิดจมูก(จนสนิท) เวลาจะจามออกมา ก็คือ...
1).เกิดลมในสมอง
อย่างที่ทราบเวลาเราจามจะเกิดแรงดันลมเพื่อขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินหายใจ
ดังนั้นหากเรากลั้นไว้ แรงดันดังกล่าวจะย้อนขึ้นไปที่หูและแทรกตัวไปถึงเนื้อสมองได้
หากสมองเกิดลม เนื้อสมองก็เหมือนโดนกระทบกระเทือนจนสมองเสียหาย อาจเกิดภาวะสับสน ความจำหายไปบางส่วน วิงเวียนศีรษะหรือมึนงงได้
2).แก้วหูแตก
ด้วยเหตุผลเดียวกับข้อแรก แรงดันที่ไม่สามารถออกทางปากและจมูกตามปกติที่เราจามได้ อาจจะมีผลกระทบต่อหู จนทำให้แก้วหูแตก
สร้างความเสียหายต่อประสาทการได้ยินของเรา
1
4).หูติดเชื้อ
การจามคือการขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งก็รวมไปถึงเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคต่าง ๆ
การที่เชื้อโรคไม่ถูกขับออกจากร่างกาย แต่ถูกผลักดันตามแรงลมย้อนกลับไปที่หูชั้นกลาง ก็อาจจะทำให้หูชั้นกลางเกิดการติดเชื้อ ลุกลามกลายเป็นโรคหูหนวกได้ในอนาคต
4).กระบังลมพัง
การกลั้นจาม จะทำให้กระบวนการทำงานของกล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนต่าง ๆ ผิดปกติตามที่ควรจะเป็น
ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับกระบังลมจนฉีกขาด
การที่กระบังลมฉีกขาด ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
5).เส้นเลือดฝอยแตก
แรงดันที่อั้นอยู่ภายในปากและจมูก สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกหรือเลยไปถึงดวงตาแตกได้
การกลั้นจามจึงทำให้เกิดอาการเลือดออกในตาหรือเลือดกำเดาไหลในจมูกได้เช่นกัน
6).เส้นเลือดในสมองแตก
กรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ แรงดันที่ถูกผลักไปที่สมอง รุนแรงมากจนทำให้เส้นเลือดในสมองเกิดการโป่งพองหรือแตก จนเกิดอันตรายถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือเสียชีวิต
..
ทราบอันตรายจากการกลั้นจามกันไปแล้วนะครับ
ถึงแม้เราจะไม่ควรกลั้นจาม แต่เราก็ไม่อาจจามแบบโจ่งแจ้งได้
เราจะมีวิธีจามยังไงให้ปลอดภัยและเหมาะสมในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโควิด - 19
นี่คือคำแนะนำจากคุณหมอ...
1). เราควรพกผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษชำระติดตัวไว้ตลอดเวลา
ทุกครั้งที่รู้สึกว่าอยากจะจาม ให้เราเอากระดาษชำระหรือผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ปิดจมูกไว้ ทับหน้ากากอนามัยอีกชั้นหนึ่ง
เมื่อจามเสร็จ ให้ทิ้งกระดาษชำระหรือผ้าเช็ดหน้าทันที
(หากมีถุงพลาสติกห่อก่อนทิ้งด้วย จะดีมาก)
2). กรณีไม่มีกระดาษชำระหรือผ้าเช็ดหน้า ให้เราจามใส่ข้อพับบริเวณศอกแทน
อย่าจามใส่มือเด็ดขาด แม้แต่การจามผ่านหน้ากากอนามัยก็ตาม
จามเสร็จให้รีบล้างบริเวณข้อพับ ล้างมือหรือพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ทันที
นี่เป็นวิธีการจามที่ถูกต้องเบื้องต้นในภาวะที่มีการระบาดของโควิดในขณะนี้
..
เคยมีการทดลองพบว่า การจามของคนเราหากปล่อยเต็มที่ สามารถแพร่เชื้อโรคไปไกลได้ถึง 9 เมตรเลยทีเดียว
ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังทั้งการจามของตัวเอง ไม่ให้จามรดผู้อื่นและระวังผู้อื่นจะมาจามรดเราด้วย
ยิ่งในห้องปรับอากาศที่อยู่ในสภาพอากาศถ่ายเทได้น้อย
อันตรายจากละอองฝอยจากการจามของคนในห้องยิ่งมีมากขึ้นกว่าห้องเปิดเข้าไปอีก
..
สรุปว่า
จามไม่ถูกวิธีก็อันตราย
ไม่จามเลยก็อันตราย
ยังไงก็ดูแลสุขภาพ ป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดนะครับ
หากเราปลอดภัย โลกจึงจะปลอดภัยนะครับ
1
..
References:
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา