3 ส.ค. 2021 เวลา 01:09 • ไลฟ์สไตล์
ทำไมอูเมะชูถึงต้องจังหวัดวากายามะ?
สนใจดูข้อมูลอูเมะชูเพิ่มเติม https://lin.ee/3tnnunP
ดูรูปสวยๆของทางร้าน https://www.instagram.com/prumplum.umeshu/
จังหวัดที่ปลูกบ๊วยมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
วากายามะ(和歌山) เป็นจังหวัดที่มีการปลูกบ๊วยมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในทุกๆปี กว่า 60% ของผลผลิตมวลรวมทั้งประเทศ ถูกเก็บเกี่ยวบนผืนไร่แผ่นดินนี้ และใน
1
เมืองเล็กๆของจังหวัดอย่าง มินาเบะ (MINABE,みなべ) ก็ยังเป็นต้นกำเนิดของบ๊วย นันโก (Nankou,南高) พันธุ์บ๊วยชั้นเลิศ ที่นิยมนำไปทำอูเมะชูเกรดพรีเมี่ยม
บ๊วยนันโก มีลักษณะพิเศษคือลูกโต เมล็ดเล็ก ผิวบาง ทำให้ได้สัดส่วนเนื้อบ๊วยเยอะ เมื่อเทียบกับมวลและปริมาตรของลูกบ๊วย หากดมที่ผิวราจะได้กลิ่นหอม เมื่อนำมาดองเหล้า ผิวบ๊วยจะทำให้อูเมะชูมีกลิ่นเฉพาะ คล้ายกับกลิ่นของดอกบ๊วยผสมกับกลิ่นผลไม้ตะกูลพลัม แตกต่างจากเหล้าที่ทำจากบ๊วยพันธุ์อื่น
การขึงตาข่ายไนล่อนคลุมทั่วพื้นที่ปลูกบ๊วย ขึงตาข่ายไน่ล่อนเผื่อรองลูกบีวยที่หล่นเองตามธรรมชาติ โดยบ๊วยส่วนนี้จะถูกโกยรวม นำไปทำบ๊วยดอง อูเมะโบชิ เนื่องจากเป็นบ๊วยที่สุกแดดเกินไป และมีรอยช้ำจากการหล่นกระแทกไม่ได้ถูกใช้ทำผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้บ๊วยสด หรือบ๊วยที่มีสภาพสวยสมบูรณ์
สวนบ๊วยในเมืองมินาเบะ จังหวัดวากายามะ การเก็บเกี่ยวบ๊วยที่วากายามะยังต้องใช้มือเท่านั้น เพราะต้องคัดเลือกบ๊วยที่สภาพดีโดยคน และป้องกันการช้ำ หรือเสียหายจากแรงกระแทกต่างๆ
ย้อนไปปี ค.ศ. 1902 ต้นกำเนิดบ๊วยนันโก
บ๊วยนันโกะมีประวัติสืบย้อนไปไกลกว่าร้อยปี จุดเริ่มต้นคือ ปี ค.ศ. 1902 ทากาดะ ซาดะกุสุ (Takada Sadagusu) ได้ต้องการพลิกผืนไร่มัลเบอรรี่ให้เป็นไร่บ๊วย โดยนำเมล็ดของบ๊วยพันธุ์ อุชินนากะ (Uchinaka-Ume) ซึ่งเป็นบ๊วยสายพันธ์ที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพในสมัยนั้นมาเพาะปลูก และพัฒนากล้าสายพันธุ์ต่อเรื่อยมาจนเกิดเป็นบ๊วยสายพันธุใหม่ ซึ่งมีลูกใหญ่เป็นพิเศษ บนผิวมีสีแดงระเรื่อ (ลักษณะนี้คนไทยเรียกว่าแก้มแดง) โดยได้ตั้งชื่อพันธ์ุว่า บ๊วยทากาดะ (Takada-ume) ตามชื่อของตนเอง
เรื่อยมาจนปี ค.ศ. 1951 (ปีโขวะ 40) มีการประกาศเป็นทางการว่า บ๊วยสายพันธุ์ ทากาดะ เป็นบ๊วยสายพันธุ์ที่ดีสุดของญี่ปุ่น (ไม่ปรากฎว่าเป็นการประกาศรับรองโดยหน่วยงานไหน) รับรองโดยผลการวิจัยที่ใช้เวลาทำกว่าห้าปี ซึ่งมีกำลังหลักสำคัญคือเหล่าครูโรงเรียนมัธยมปลายในเมืองมินาเบะ และมีการเปลี่ยนชื่อ พันธุ์บ๊วยทากาดะ เป็นพันธุ์นันโก (南高) ซึ่งเกิดจากผสมตัวคันจิของชื่อเมืองมินาเบะ (南部) เข้ากับตัวอักษรหน้าของชื่อ ทากาดะ (高田) เพื่อให้เป็นชื่อที่สะท้อนถึงเมืองเกิด และยังคงไว้ซึ่งเกียรติประวัติของผู้พัฒนาสายพันธุ์
โฆษณา