3 ส.ค. 2021 เวลา 02:26 • ข่าว
EP.122 “Talhotblond”
1
เดี๋ยวนี้การหาคู่เดท หรือเพื่อนคุย เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะง่าย ง่ายมากเลยเอางี้ดีกว่า มีตัวช่วยหลายต่อหลายอย่างให้เลือกใช้กันได้อย่างจุใจ จะพิมพ์ก็ได้ จะโทรหากัน หรือจะ video call ก็ดูจะง่ายไปหมด การหลอกหลวง หรือ “catfish” ใครสักคน โกหกมโนสร้างภาพตัวเองจะเนียนแค่ไหน แต่ไม่นานมันก็มีหนทางสืบ ความก็จะแตก
แต่ในตอนแรกๆไม่เป็นแบบนี้ไง มันเลยเปิดโอกาสให้คนสร้างโลกขึ้นมาอีกหลายใบ เอาไว้คุยเรื่องที่ตัวเองอยากคุย หรือโม้ในสิ่งที่อยู่ในจินตนาการได้ Thomas Montgomery ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไปๆมาๆ เหมือนการมโนของ Thomas มันดันทำให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องมาจบชีวิตลงจากเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่แหละ
ปฐมบทของ “ความรัก”:
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2005 Thomas Montgomery เกิดอารมณ์เบื่อๆกับชีวิตเลยเข้าไปเล่นเกมส์ online ที่มีห้อง Chat room และเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นในช่วงนั้นที่มีชื่อว่า “Pogo” ภายใต้ชื่อสมมติว่า “Marinesniper”
1
เล่นเกมส์ไปมา Thomas ก็พบกับผู้เล่นอีกคนนึงที่ใช้ชื่อว่า “Talhotblond”
คุยไปคุยมาก็เหมือนจะคุยกันถูกคอมาก “Talhotblond” นั้นจริงๆแล้วชื่อว่า Jessi เธอเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย อายุ 18 ปี จาก West Virginia เธอเป็นนักกีฬาของทีม softball ของโรงเรียน และอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และน้องชาย (Thomas มาจาก Upper State New York) พอคุยกันไปเรื่อยๆ Jessi ก็เริ่มส่งรูปมาให้ Thomas ที่ตอนนี้แนะนำตัวเองโดยใช้ชื่อเล่นว่า Tommy พอเห็นรูปแล้ว Tommy ก็เหมือนจะตกหลุมรัก Jessi ในทันที เธอเป็นผู้หญิงที่สมกับชื่อ “Talhotblond” Tommy แนะนำตัวเองว่าเขาอายุ 18 ปี เหมือนกัน และกำลังเตรียมตัวเข้าร่วมกองทัพนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา Tommy ยังอธิบายลักษณะรูปร่างหน้าตาตัวเองให้กับ Jessi ฟังว่า เขาสูง 6 ฟุต เป็นคนรูปร่างแบบนักกีฬา และดูคล้ายๆกับ Harrison Ford ตอนหนุ่มๆที่มีผมบลอนด์แดง "big shoulders, muscles and all that."
2
Jessi ก็หลงไหลได้ปลื้มกับ Tommy มากๆ เธอถึงกับเอารูปตัวเองมาทำเป็น slideshow ใส่เพลงเป็น background เหมือนมิวสิควิดิโอ แล้วส่งมาให้ Tommy อีกด้วย (บางรูปก็เป็นรูปที่ใส่บิกินี่เลยทีเดียวเชียวนะ) และเริ่มอยากเห็นว่า Tommy หน้าตาเป็นยังไง เลยพยายามจะขอดูรูป Tommy บ้าง
2
ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร (โอ้ย อีกฝ่ายทำมิวสิควิดิโอมาให้ อย่าโกง ส่งไปสักรูปก็ยังดี) แต่ที่มันยากมากๆเลย….....ก็เพราะว่า Tommy จริงๆแล้วไม่ใช้ Tommy
Thomas Montgomery เป็นผู้ชายอายุ 46 ปี ที่แต่งงานแล้วกับภรรยาที่ชื่อว่า “Cindy” มาสิบกว่าปี และมีลูกสาวด้วยกันถึงสองคนนั้นเอง (🙄🙄🙄)
1
Thomas (หรือ Tommy) aka Marinesniper จริงแล้วเคยเป็นอดีตนาวิกโยธินจริงๆ แต่นั้นมันเกือบจะ 30 กว่าปีมาแล้ว ในตอนนี้เขาเป็นแค่ชายวัยกลางคนที่ทำงานที่โรงงาน และเข้ามาเล่นเกมส์ใน internet เพื่อฆ่าเวลาในตอนเบื่อ แล้วก็เกิดมาเจอกับ Jessi เข้า ในตอนแรกเขาก็คิดว่าจะคุยเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไรมากเลยคิดว่าจะพูดอะไรออกไปก็ได้ ไปๆมาๆ เหมือนถลำลึกลงไปเรื่อยๆก็ถอนตัวไม่ออกซะแล้ว
1
*** ต่อไปนี้ถ้าจะกล่าวถึง Thomas จะเรียกว่า Thomas แต่หากเขาทำการปลอมตัวเป็น Tommy เราจะพิมพ์ Tommy อย่างงนะจ๊ะ
จนตรอกเข้าไม่รู้จะทำยังไง Thomas ก็ไปขุดรูปตัวเองสมัยเป็นนาวิกโยธินจริงๆนั้นแหละค่ะ ส่งไปให้กับ Jessi (กรุณาดูรูปที่แนบมาตาม)
Marinesniper ของเรา Cr: https://icantbelieveitsnonfiction.com/.../thomas-montgomery/
ซึ่งก็ยิ่งทำให้สาวน้อยตกหลุมรักเข้าไปอีก บทสนทนาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการโทรคุยกัน + ส่งรูปวาบหวิวให้กัน (คิดว่า Jessi ส่งมาฝ่ายเดียว) แถมยังไปถึงขั้นบอกรักกันกระหนุงกระหนิงและมี online virtual sex กันอีกด้วย (งงไหม สมัยก่อนใช้คำว่า cybersex กรุณาอย่าให้เราอธิบาย เพราะขนลุก 🤣🤣) Jessi ยังส่งกางเกงชั้นในของตัวมาถึงบ้านของ “Tommy” อีกด้วย
มีช่วงนึง Tommy นาวิกโยธินหนุ่มต้องเดินทางไปเข้าฝึกฝนใน Bootcamp เพื่อที่จะเตรียมตัวไปออกรบที่อิรัก เขาจะไม่ออนไลน์สักพักนึงนะ เพราะต้องฝึกหนักมาก ไปๆมาๆ “Thomas” แอบอ้างตัวว่าเป็นพ่อของ “Tommy” เข้ามาใช้ computer ของ “Tommy” เพื่อคุยกับ Jessi บางครั้งช่วงที่ “Tommy” นั้นไม่อยู่
**Thomas ให้เหตุผลว่า เขารู้ว่าตัวเองทำผิด และอยากจะหยุดความสัมพันธ์นี้ เลยทำเป็นว่าตัวเองเป็นพ่อของ “Tommy” เพื่อเขามาคุยให้เลิกคบกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำไม่ได้ (เดี๋ยว อิบ้าาาาา logic ไหนเนี่ย)
Thomas นั้นเหมือนจะหลุดจากความจริงไปแล้ว ช่วงนึงนั้นเอง เขายังเขียนโน้ตแปะไว้ใน locker ที่ทำงานของตัวเองอีกด้วย โดยมีใจความประมาณว่า “วันที่ 2 มกราคม ปี 2006 Tom Montgomery (อายุ 46 ปี) ไม่มีตัวตนอีกต่อไป และถูกแทนที่โดย นาวิกโยธินหนุ่มผู้ผ่านสงครามอายุ 18 ปี….ที่มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 2.5 ล้าน ดอลลาห์ และกำลังจะย้ายไป West Virginia เพื่อใช้ชีวิตอยู่กับคนรักของเขา…และมีปิ๊กกาจู้ขนาด 9 นิ้ว” (ทำไมชั้นต้องมานั่งเขียนอะไรแบบนี้)
1
Jessi กับ “Tommy” คบกันแบบนี้มาจนประมาณ 6 เดือน (เยสสส 6 เดือน) ความรักก็สุกงอม จนถึงขั้น “Tommy” นั้นขอ Jessi แต่งงาน และ Jessi ดันตอบตกลงอีกด้วย!!!! เรื่องมันเหมือนไม่รู้จะไปทางไหน? แล้วจะไปกันอย่างไร? เราคงไม่มีทางรู้ เพราะไม่นานก็มีคนเข้ามาดับฝันของ Tommy กับ Jessi เสียก่อน
1
นั่นก็คือ Cindy ภรรยาของ Thomas นั่นเอง!!!
2
ฝันสลาย:
2
Cindy นั้นเริ่มสงสัยว่า Thomas ทำไมใช้เวลาอยู่กับ computer แทบจะตลอดเวลา เรียกให้หยุดเล่นก็ไม่ยอมหยุด จนวันนึง หนึ่งในลูกสาวของทั้งสองคนมาใช้ computer ของ Thomas แล้วดันไปเห็นข้อความที่ Jessi ส่งมาเด้งขึ้นมา เลยไปบอก Cindy ผู้เป็นแม่ พอ Cindy เห็น ก็เริ่มตามไล่ดูทั้งประวัติการแชท ประวัติการส่งรูป ส่งจดหมาย และยังไปเจอเข้ากับกางเกงชั้นในสีแดงที่ Jessi ส่งมาให้ Thomas อีกด้วย เมื่อ Cindy เห็นดังนั้น นอกจากจะเรียก Thomas มาด่าแล้ว (เพราะไปล่อลวงเด็กที่อายุเพียงแค่ 18 ปี) Cindy ยังตัดสินใจบอกความจริงกับ Jessi อีกด้วยโดยการส่งรูปครอบครัวของตัวเองไปให้กับ Jessi (ตามที่อยู่ที่เจอ) พร้อมกับจดหมายฉบับนึง แนะนำคนในรูปดังกล่าวกับ Jessi พร้อมกับบอกว่า ผู้ชายที่อยู่ในรูปคือ Thomas สามีของเธอที่แต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 1989 และเขามีอายุ 46 ปีแล้ว พร้อมกับเตือน Jessi ว่า อย่าเชื่อคนใน internet ง่ายๆ
6
รูปครอบครัวที่ Cindy ส่งให้ Jessi Cr:https://icantbelieveitsnonfiction.com/.../thomas-montgomery/
แน่นอนพอได้รับจดหมาย Jessi เขียนข้อความแชทมาหา “Tommy”ในทันที และต่อว่า Thomas แบบเสียๆหายๆ ทั้งผิดหวัง ทั้งโกรธที่ตัวเองโดนหลอก Jessi บอกกับ Thomas ว่า เธอเกลียดเขา และเขานั้นควรถูกจับเข้าคุกจากสิ่งที่เขาทำ
หลังจากนั้นมา Jessi ก็ปรับทุกข์กับ Brian Barrett หนึ่งในเพื่อนที่อยู่ในห้อง Chatroom เกมส์ดังกล่าวด้วยกัน ซึ่ง Brian เนี่ย รู้จักทั้ง Jessi และ Thomas เพราะ Brian ทำงาน Part time อยู่ในโรงงานเดียวกันกับ Thomas และยังเคยคุยกับ Jessi ใน Chat room เดียวกัน (แต่ไม่ได้รู้ด้วยว่า Jessi กับ Thomas ไปแอบคบกันตอนไหน) ชื่อเล่นของ Brian ใน Chatroom คือ “Beefcake” Brian พอรู้เรื่องจริงเข้าก็ขนลุกนิดๆ เพราะรู้ว่า Thomas นั้นตัวตนจริงๆเป็นใคร อายุเท่าไหร่ แล้วมาแบบปลอมตัวแชทจีบเด็กผู้หญิงอายุ 18 เนี่ยนะ
1
คุยไปคุยมาเหมือน Brian และ Jessi จะเกิดชอบพอกันขึ้นมา อายุของทั้งสองคนก็ใกล้ๆกัน (Brian อายุ 22 ปี) แล้วก็เกิดไปจีบกันออกหน้าออกตาใน Chat room พอ Thomas เห็นดังนั้นก็เริ่มหึง เขาต่อว่า Jessi และด่าทอ Jessi ด้วยคำหยาบคายต่างๆนาๆ และพอ Jessi เอาไปบอก Brian ก็เหมือนทั้งสองคนจะเริ่มเล่าความจริงเรื่องที่ Thomas แอบปลอมตัวเป็น Tommy มามีความสัมพันธ์กับ Jessi กลางห้อง Chat room จนทำให้ Thomas นั้นถูกแบนจากห้องดังกล่าวหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน
Brian Cr:Collider.com
เหมือนความแค้นมันก็เริ่มสุมในอกเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะรู้สึกว่าโดนแย่งของรักแล้ว ยังถูกทำให้อับอาย แถม Brian ยังคุยกับเพื่อนร่วมงานอีกว่า ตัวเองกำลังจะเดินทางไปพบกับ Jessi ที่ West Virginia ซึ่งพอ Thomas ได้ยินเท่านั้นแหละ เขาตัดสินใจแชทไปหา Brian ทันที เพื่อต่อว่า และด่ากันไปมา (ในตอนนั้นจากเพื่อนร่วมงานที่เหมือนจะไม่ได้สนิท รู้จักกันผิวเผิน แต่ก็คุยกันได้ กลายเป็นมองหน้ากันไม่ติดไปแล้ว) Brian ก็บอก Thomas ว่า เขาไม่เข้าใจว่า Thomas จะโมโหอะไรนักหนา เขาก็ไม่ได้จะจริงจังอะไรกับ Jessi ขนาดนั้น และถึงจะจริงจังก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของ Thomas เลย
1
แต่ไปๆมาๆ Brian ก็ไม่ได้เจอกับ Jessi เพราะก่อนจะนัดเจอกันก็ทะเลาะแล้วก็เลิกกันไปในที่สุด
Jessi นั้นก็ยังวกกลับมาคุยกับ Thomas อยู่ (หลังจากเลิกกับ Brian) Thomas บางครั้งก็ด่า บางครั้งก็ถึงกับขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย Jessi แถมยังคุยโวโอ้อวดอีกด้วยว่า เขานะจะกำจัด Brian เมื่อไหร่ก็ได้ ง่ายนิดเดียวเท่านั้นแหละ Jessi พยายามจะคุยกับ Thomas เพื่อให้ Thomas ใจเย็นลง แต่ก็ไม่เป็นผล
***นี่ก็ไม่เข้าใจจะกลับมาคุยทำไม ไปแล้วไปเลยดิ Jessi ยังมีการให้แม่ตัวเองมาคุยกับ Thomas อีกด้วยนะคะ ปวดกบาลแบบขั้นสุดจริงๆ
ช่วงที่เลิกกับ Brian ไปนี่เองที่ Jessi ก็มักจะคุยกับผู้ชายคนอื่นหลายครั้ง แล้วก็วกกลับมาคุยกับ Thomas ด้วย…. เหตุผลเพราะ…..คิดถึง Tommy (โอ้ยยยย อิหนู Tommy ไม่มีตัวตนจ้า)
Jessi: ฉันคิดถึง Tommy มาก คุณเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมถึง Tommy ที่ฉันรัก (🤮)
1
Thomas: ฉันรู้ ฉันคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ ที่เราเคยมีด้วยกัน ฉันคิดถึงตอนที่เธอเรียกฉันว่า Tommy และฉันยินดีจะแลกทุกอย่างเพื่อกลับไปเป็น Tommy ที่มีอายุ 19 ปี อีกครั้งนึง (เดี๋ยวก่อนพ่อคุณ ลูกกับเมียละ ทำไง?)
1
ไปๆมาๆ ก็ลงเอยอีหรอบเดิม กลับมาคบกันอีกครั้ง กลายเป็นว่าคราวนี้เหมือน Thomas จะถูก Jackpot เพราะ Jessi รู้ความจริงหมดแล้วแต่ก็ยังรับได้ ยอมกลับมาคุยกับเขาอีกนี่นา
1
แต่ฝันก็สลายอีกรอบ เพราะเหมือน Jessi ในคราวนี้ก็ไม่ได้จะคุยกับ Thomas แบบจริงจังเหมือนก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะเก็บเขาไว้คุยเล่น แล้วก็ยังคุยกับคนอื่นๆ อีก รวมถึงกลับไปแอด Brian แฟนเก่าของตัวเองใน Myspace อีกด้วย (โห ยังกับนั่ง time machine ย้อนเวลา แต่ละอย่าง)
1
พอ Thomas เห็นแบบนั้นก็ยิ่งเดือด เขาต่อว่า Jessi แบบรุนแรงมาก และถึงกับบอกว่า เตือนแล้วนะ จะคุยกับใครก็ได้ในโลกนี้ตราบใดที่ไม่ใช่ Brian คนนี้ “Brian will pay in blood” คือคำทิ้งท้ายของ Thomas
*** ทั้งหมดนี้ Brian ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไม่ได้กลับไปคบกับ Jessi อารมณ์แนวเบื่อเรื่องหมาหอนดราม่า แต่ในตอนนั้นก็ปรึกษา Jessi ว่า คิดว่า Thomas ชอบทำตัวแปลกๆ และเคยเห็น Thomas ขับรถเกือบชนเขาที่ลานจอดรถมาแล้ว คิดว่าควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานดีไหม?
เกิดอะไรขึ้น?:
วันที่ 15 กันยายน ปี 2006 Brian เลิกงานกะดึกของตัวเอง ก่อนจะขึ้นรถเพื่อขับกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันจะสตาร์ทรถออกจากลานจอดรถของตัวเอง Brian ก็ถูกซุ่มยิง เขาถูกปืนยิงเข้าถึง 3 นัดด้วยกัน และเสียชีวิตคารถนั่นเอง
1
เมื่อมีคนไปพบศพ Brian ถูกฆาตกรรม แน่นอนถามเพื่อนร่วมงาน ทุกคนต่างก็รู้ว่า Brian และ Thomas มีปัญหากันเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แย่งผู้หญิงใน Internet พอจะไปสอบปากคำ Thomas เขาก็หายตัวไปแล้วก็หาตัวไม่เจอ เจ้าหน้าที่กังวลมาก ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ West Virginia ไปที่บ้านของ Jessi เพื่อเตือนและตรวจสอบว่าเธอมีอันตรายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ไปถึงที่อยู่ของ Jessi ก็เจอแม่ของ Jessi มาเปิดประตู
Mary Shieler แม่ของ Jessi พยายามบ่ายเบี่ยง ไม่บอกที่อยู่ หรือเบอร์โทรติดต่อของ Jessi ผู้เป็นลูกสาว จนไปๆมาๆ ก็สารภาพกับตำรวจว่า Jessi น่ะ เป็นลูกสาวของเธอจริงๆ แต่เธอไม่ได้เป็นคนคุยกับ Brian หรือ Thomas บนห้อง Chat room ดังกล่าวหรอก Mary วัย 40 กว่าๆนี่แหละเป็นคนคุย (มาถึงตรงนี้อิชั้นร้อง ห่ะะะะะะะะะะะะะะะะ ดังมาก)
5
Mary เอารูป Jessi ลูกสาวตัวเองมาคุยกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาใน internet เพื่อที่จะจีบกันไปมา เพื่อขอ cybersex ด้วย (ดูแล้วน่าจะชอบเรียกร้องความสนใจพอควร) และไม่คิดว่า Thomas นั้นจะทำเรื่องแบบนี้จริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ก็ทั้งขู่ ทั้งด่าเธอและ Brian มาตลอด
2
***ถึงแม้ว่าก่อนพบศพไม่นาน Thomas จะโทรมาหา Jessi และบอกว่า จัดการ “แฟน” ของ Jessi ไปแล้ว และเขาก็ตายง่ายดายเลยเสียจริงๆ
ซ้าย: Talhotblond หรือ Mary ขวา: Jessi ตัวจริง Cr: https://icantbelieveitsnonfiction.com/.../thomas-montgomery/
Jessi แอบถ่ายรูปลูกสาวของตัวเองในตอนที่เธอเผลอ แล้วเอารูปลูกมาใช้ในการหลอกหลวงหนุ่มๆที่น่าขยะแขยงคือ บางทียังแอบถ่ายรูปใต้กระโปรงลูกสาวตัวเองมาส่งให้กับผู้ชายพวกนี้อีกด้วย
(สรุปแล้วในเรื่องนี้ไม่รู้จะเกลียดใครก่อนดี คนปรกติเห็นจะมีอยู่คนเดียวคือ Brian ก็มาด่วนจากไปเสียแล้ว)
เจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัว Thomas เจอในที่สุด เขาปฏิเสธเสียงแข็ง ว่าไม่ได้ทำนะ จะไปฆ่า Brian ได้ไง วันที่เกิดเหตุก็อยู่กับภรรยาและลูกสาวที่บ้าน ไปถามเอาก็ได้ แต่ดูเหมือนข้ออ้างของ Thomas ก็ฟังไม่ขึ้น และตำรวจกับอัยการสั่งฟ้องเขาในข้อหาฆาตกรรม Brian ในที่สุด เพราะ
🔎 เมื่อไปถาม Cindy ผู้เป็นภรรยาที่ Thomas อ้างว่ายืนยันได้ว่าเขาอยู่บ้านในคืนนั้น Cindy กลับบอกว่าไม่มีทาง Thomas ไม่ได้อยู่บ้านในคืนเกิดเหตุ และเขานี่แหละผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง (นี่สิยอดหญิง) และสุดท้าย Cindy ตัดสินใจฟ้องหย่า Thomas ในทันที
🔎 Thomas มักจะชอบคุยโม้กับเพื่อนร่วมงานว่า หากเขาจะฆ่าใครสักคน เขาจะใช้ปืนกระบอกที่เป็น military rifle รุ่นเก่าที่เขามีอยู่ในครอบครองนี่แหละเป็นอาวุธสังหาร…..ดันไปตรงกับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิง Brian จนเสียชีวิต
🔎 Thomas บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า เขาไม่มีปืนดังกล่าว จะบ้าเหรอ มาดูที่บ้านได้เลย!!!! เจ้าหน้าที่ไปดูที่บ้าน ไม่พบปืน แต่พบกับรูปเก่าๆของครอบครัวที่ “Cindy” ภรรยาของ Thomas นั่งอยู่หน้าตู้เก็บของ และในตู้นั้นมีปืนลักษณะเดียวกับอาวุธสังหารตั้งอยู่ (คนเห็นนี่ก็ตาแหลม ตาดี ตามีราศรี ต่อจิ๊กซอว์ซับซ้อนหมื่นชิ้นน่าจะเสร็จภายใน 2 ชั่วโมงแน่ๆ)
🔎 เจ้าหน้าที่เจอเม็ดลูกพีชที่ตกอยู่ที่เกิดเหตุ และมี DNA ของ Thomas อยู่ (แต่ข้อนี้เป็นเรา เราจะสู้ว่า ก็ทำงานที่เดียวกันอะ ช่วงพักชั้นก็ออกไปกินพีชแล้วโยนเม็ดทิ้งไว้แถวนั้นไม่ได้เหรอ?)
ยังไม่รวมกับข้อความ อีเมล์ที่ Thomas ขู่ฆ่า ขู่ทำร้าย Brian อีกเยอะแยะมหาศาล หลักฐานเยอะขนาดนี้ทำให้ทนายฝั่ง Thomas แนะนำให้ทำข้อตกลงกับทางอัยการรัฐและยอมรับผิดไปเสีย ซึ่ง Thomas ใช้เวลาอยู่นาน ก่อนจะตอบตกลงด้วยการยอมรับข้อหา “First Degree Manslaughter” แทนข้อหาฆาตกรรม และถูกส่งตัวไปจำคุกในที่สุด
>>>>จะบ้าตาย ทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีใครเคยเจอกัน หรืออะไรยังไงมาก่อน แต่มีคนต้องมาตายกับเรื่องงี่เง่าระดับจักรวาลเนี่ยนะ!!!!!!!
Thomas ให้สัมภาษณ์จากในเรือนจำ https://icantbelieveitsnonfiction.com/.../thomas-montgomery/
กลับมาที่ Mary หรือ Talhotblond ของเรา คือ….ไม่บอกลูกกับสามี จนกระทั่งวันที่ต้องไปขึ้นศาล แถมยังไม่มีความสำนึกผิด จนสามีนางต้องขอหย่า แถมลูกตัวเองก็ช็อกมาก เพราะรู้ว่าแม่ที่สนิทกันมากๆ เอารูปตัวเองไปใช้ แอบถ่ายรูปตัวเองอีก ถึงขั้นตัดแม่ตัดลูกกันไปเลย…..สำคัญสุดคือ นางไม่มีความผิดและไม่ติดคุกนะคะ เพราะนางนั้น “ไม่ได้ทำผิดกฎหมายจ้าาา” แต่ก็โดนสาฟ้องหย่า แถมลูกก็ไม่ยอมพูดด้วยอีกต่างหาก
“ฉันคุยกับ Thomas เพราะรู้ตัวตนของเขา และไม่อยากให้เขาไปคุยกับเด็กๆคนอื่น ถึงได้พยายามจะคุยกับเขาต่อ” (จ๊ะ แม่นางฟ้าผู้มีจิตใจดี)
พอ Thomas รู้ว่า “Jessi” ตัวจริงเป็นผู้หญิงวัย 40 กว่าปีที่หลอกเขาอีกที เหมือนเขาก็อึ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังจะแถไปเรื่อยๆว่า ก็ผู้หญิงคนนี้ฝีมือการหลอกหลวงขั้นเทพเลยนี่นา เขาก็เชื่อแบบหมดใจเลยจริงๆนะว่า เธอเป็นเด็กสาวอายุ 18 ปีจริงๆ….และหัวเราะแหะๆ
😱😱😱 >>>เกือบเขียนไม่จบ ให้อารมณ์แบบอิหยังวะทั้งเรื่อง สมัยก่อนการจะหลอกใครสักคนน่าจะง่าย สมัยนี้ขอ video cal แป็ปเดียวก็รู้ แถมแอฟหาคู่ต่างๆเดี๋ยวนี้นางพัฒนา features กันหมดแล้วนะจ๊ะ ใครมีข้ออ้างเยอะ สันนิษฐานเลยเอารูปคนอื่นมาใช้
EP. เก่าๆดูได้อีกทางที่นี้ค่ะ
Facebook Page:
Blockdit:
โฆษณา