SET 21-day challenge #Day3
ประเด็น 1: เป้าหมายการลงทุน
เพื่อชนะดอกเบี้ยเงินฝาก, เพื่อการดำรงชีพหลังเกษียณ, เพื่ออิสรภาพทางการเงิน
ประเด็น 2: ประเภทการลงทุน
🙂สายพื้นฐาน สายวีไอ ซื้อหุ้นให้เหมือนซื้อธุรกิจ ประเมินมูลค่าหุ้น
🙂สายเทคนิค สายกราฟ เชื่อว่าราคาจะบอกทุกอย่าง วิเคราะห์รูปแบบกราฟ
🙂สายผสมผสาน ผสมระหว่าง vi และ สายเทคนิค มีทฤษฎีที่เป็นที่ยอมรับกัน เรียกว่า CANSLIM
🙂สายออม ด้วยวิธี DCA โดยมีทฤษฎีที่ว่าถ้าในระยะยาวแล้วหุ้นจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นซื้อตอนไหนก็ดีทั้งนั้น
ประเด็น 3: ประเมินกลยุทธ์การลงทุน
ต้องรู้ตนเองก่อนว่าเป็นนักลงทุนประเภทไหนจะได้ซื้อหุ้นให้เหมาะกับตัวเอง ว่า สั้น กลาง หรือยาว หุ้นก็เปรียบเสมือนกับพืชพันธุ์การเกษตร หุ้นบางตัวเหมือนถั่วงอกต้องซื้อไว ขายไว บางตัวเหมือนข้าว ต้องใช้เวลาพอประมาณก่อนที่จะเก็บเกี่ยวได้ บางตัวเหมือนยางพารา ว่าจะให้ผลผลิตก็ 7-8 ปี จึงกรีดยางได้เหมือนหุ้นให้ปันผล
ส่วนในด้านกลยุทธ์
ขั้น 1 ชนะดอกเบี้ย ง่ายเลือกในหุ้นดีส่วนมากก็จะให้ปันผลเกินอยู่แล้ว
ขั้น 2 เพื่อเกษียณ ก็ต้องมีพอร์ตขนาด 10 ล้าน กลยุทธ์ ก็ต้อง ซื้อ LTF RMF แล้วก็ต้องทำ DCA หุ้น เริ่มให้ไวแล้วค่อยๆออมทีละน้อยไปเรื่อยๆ
ขั้น 3 มีอิสรภาพทางการเงิน ขนาดพอร์ตต้องประมาณ 20 ล้าน กลยุทธ์ ต้องมีความรู้ความชำนาญในการลงทุนมาก ต้องเลือกซื้อหุ้นดีที่ราคา under value มาก แล้วเติบโตไปพร้อมๆกัน แต่สำคัญคือต้องเริ่มไว
ประเด็น 4: หุ้น 6 ประเภทของปีเตอร์ลินช์
1. โตช้า: คือหุ้นที่มีการเติบโตน้อยและมีการดำเนินธุรกิจรวมถึงจ่ายปันผลคงที่ ข้อดีราคาไม่แรง ข้อเสียคือราคาหุ้นจะไม่ไปไหน
2. หุ้นโตปานกลาง: คือ หุ้นพื้นฐาน พลังงาน สื่อสาร ประปา หุ้นจะไม่หวือหวามาก
3. หุ้นโตเร็ว: คือหุ้นที่เติบโตเกิน 20% ซึ่งย่อมเป็นที่หมายปองของนักลงทุน ข้อเสียคือแพง
4. หุ้นวัฏจักร: คือหุ้นที่เติบโตขึ้นลงเป็นรอบๆ
5. หุ้นสินทรัพย์: คือหุ้นที่สามรถสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มี
6. หุ้นฟื้นตัว: คือหุ้นที่เคยย่ำแย่มาก่อน แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้กลับมาทำกำไรได้ดีขึ้น ข้อดีคือถ้ากลับมาได้จริงๆ จะมีกำไรสูงมาก ข้อเสียถ้ากลับมาไม่ได้ก็เจ๊ง
ไว้พบกันในวันถัดไปครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
