Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Reading Room
•
ติดตาม
3 ส.ค. 2021 เวลา 05:08 • หนังสือ
The Dry
ความสนุกอย่างหนึ่งของนิยายสืบสวน คือ การได้ร่วมลุ้นไปกับเรื่องว่าใครกันหนอคือฆาตกร และนักเขียนจะสร้างปมปริศนาต่างๆ ประดามีแบบไหนมาทำให้คนอ่านรู้สึกสงสัย กระหายใคร่รู้ และปวารณาตัวเองเป็นนักสืบตามล่าหาความจริง แต่ก็มีนักเขียนนิยายสืบสวนจำนวนหนึ่งที่ก้าวข้ามการเฉลยแบบหักมุมว่าใครคือฆาตกร ด้วยการเฉลยตัวฆาตกรตั้งแต่อ้อนแต่ออก แล้วปล่อยให้คนดูไปลุ้นในประเด็นอื่นแทน เช่น ฆาตกรจะรอด ไม่ถูกจับไหม หรือเพราะเหตุใดฆาตกรต้องทำสิ่งที่เขาทำในเรื่องด้วย
ทว่า “The Dry” หรือในชื่อภาษาไทยว่า “ฤดูล่า” ของ Jane Harper นักเขียนหญิงชาวออสเตรเลีย ที่แปลโดย ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี และวาริน นิลศิริสุขนั้น แตกต่างจากนิยายสืบสวนเรื่องอื่นๆ ใช่ครับ…ประเด็นสืบสวนที่แกะรอยให้คนอ่านลุ้นว่าใครกันหนอที่เป็นฆาตกรตามมาตรฐานนิยายสืบสวนทั่วไปยังคงอยู่ และมองเห็นกระเซ็นกระสายอยู่ในเส้นเรื่องบ้าง แต่หัวใจหลักที่ทำให้เรื่องถูกผลักไปข้างหน้ากลับไม่ใช่ประเด็นที่ว่าใครคือฆาตกร แต่คือการย้อนรอยอดีตของตัวละครหลักที่ได้รับการไถ่ถอนผ่านกระบวนการสืบสวนแกะรอยตามหาฆาตกรไปพร้อมกันแทน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรมสอบสวนกลาง แอรอน ฟอล์ก เดินทางกลับมาคีวาร์รา เมืองเล็กๆ ในออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเพื่อร่วมงานศพของลุค แฮดเลอร์ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเขาที่ใช้ปืนลูกซองยิงเมียและลูกชายตายสยองในบ้านก่อนจะยิงตัวตายตาม ทุกคนสันนิษฐานว่าลุคทำเช่นนั้นเพราะเครียดจากการที่คีวาร์ราประสบวิกฤติภัยแล้งที่รุนแรงที่สุด และไร่ที่เขาทำเป็นอาชีพกำลังจะล่มจมเพราะความร้อนที่อยากจะหาวิธีแก้ไขในครั้งนี้
แรกทีเดียว ฟอล์กที่ไม่เคยคิดอยากจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกตั้งใจว่าจะร่วมงานศพแล้วรีบชิ่งหนีให้ไวที่สุด แต่เมื่อเขารับปากกับพ่อแม่ของลุคว่าจะช่วยดูๆ คดีให้ ฟอล์คอดไม่ได้ที่นำพาตัวเองเข้าไปสู่วังวนของปริศนาเบื้องหลังการตายของลุค ที่อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับคดีความเกี่ยวกับการเสียชีวิตปริศนาของเพื่อนสาวในกลุ่ม ผู้ถูกลือว่าเคยคบหากับฟอล์ค ที่เขากับลุคร่วมกันปกปิดเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก แต่ที่แย่ที่สุดคือมันทำให้ตะกอนของความผิดบาปในในของเขาคละคลุ้งขึ้นอย่างไม่รู้จะหาทางแก้ไขอย่างไร นอกจากทำทุกอย่างเพื่อคลี่คลายคดีของลุคเพื่อไถ่ถอนบาปในใจของตัวเองไปด้วยพร้อมกัน
นิยายสืบสวนของ Jane Harper เรื่องนี้จึงเป็นนิยายที่ดึงเอาปมอดีตของตัวละครมาเล่าสลับไปมากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และล่อหลอกคนอ่านด้วยวิธีการแบบนี้ไปตลอดเรื่อง เมื่ออ่านมาถึงปมหนึ่ง เรื่องก็จะบิดพลิ้วไปอีกทาง บางครั้งคนอ่านจะรู้สึกเหมือนร่ำๆ ว่าจะรู้หรือเดาออกว่าใครคือฆาตกร แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าถ้าคนที่ว่าเป็นฆาตกรแล้ว เพราะอะไรเขาจึงทำแบบนั้น ซึ่งสำหรับผม วิธีการเขียนด้วยการเล่นลูกล่อลูกชนที่หลากหลายนี้ทำให้นิยายเรื่องนี้น่าสนใจ โดดเด่น น่าติดตาม จนเรื่องดำเนินมาถึงตอนจบที่ปริศนาทั้งหมดคลี่คลาย แม้จะไม่ได้ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึง แต่ก็ยอมรับได้ว่าเป็นตอนจบที่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยตัวฆาตกร เหตุผลของการฆ่า รวมทั้งปริศนาจากอดีตที่เลือนลางแต่มีเงื่อนงำก็ถูกอธิบายได้กระจ่างอย่างลงตัว
อีกจุดเด่นที่ผมชอบมากคือวิธีการบรรยาย การเลือกใช้คำ (ซึ่งกรณีนี้คงต้องยกเครดิตให้กับนักแปลทั้งสองท่าน) ที่ชัดเจน และถ่ายทอดภาพของสถานที่ จิตใจ และความหม่นหมองมืดดำของสภาพแวดล้อมทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องได้อย่างคมคาย
ถ้าหาก “ฆาตกรรมในบ้านสิบเหลี่ยม” ที่ผมรีวิวไปเมื่อคราวก่อนเป็นนิยายสืบสวนแบบดั้งเดิม (Old school) แล้ว .”The Dry” ก็สมควรจะถูกเรียกขานว่าเป็นนิยายสืบสวนที่ใช้วิธีการเล่าแบบใหม่ ไม่เชิงใหม่เอี่ยมอ่องไปเสียทีเดียว แต่ผสมรูปรอยเดิมๆ ที่นักอ่านเคยคุ้นกับวิธีการที่ทำให้เกิดอารมณ์ใหม่ๆ เป็นกระบวนการรังสรรค์นิยายสืบสวนในรูปแบบที่น่าสนใจ ไม่เหมือนใคร และชวนให้ติดตามอย่างแท้จริง ผมได้ข่าวว่านิยายเรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และนำแสดงโดย Eric Bana แล้ว นอกจากนี้ Jane Harper ยังเขียนนิยายเรื่องที่ 2 อันเป็นเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนตอนใหม่ของแอรอน ฟอล์ค (นิยายชื่อ Force of Nature) ก็ได้แต่หวังว่าตอนที่สองนี้ก็จะมีเล่มแปลไทยตามออกมาเหมือนกัน
#ReadingRoom #ฤดูล่า #TheDry #JaneHarper
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย