หยุดก่อนจน 8 พฤติกรรมที่มักทำให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย รู้อีกทีหนี้สินบาน
ไม่ว่าใครต่างก็อยากมีเงินเยอะ ๆ กันทั้งนั้น แต่นอกเหนือจากการหาเงินเก่งแล้ว ก็ต้องรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องด้วย เพราะไม่ใช่หามาได้เท่าไหร่ก็ใช้ให้หมด ใช้เงินฟุ่มเฟือยจนเกินพอดี ท้ายที่สุดสิ่งที่หามาได้ก็ไม่มีประโยชน์และต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน แค่คิดก็น่าเศร้าแล้ว ซึ่งใครที่ยังมีพฤติกรรมใช้เงินในแบบที่กำลังจะกล่าวถึงทั้ง 8 พฤติกรรมนี้ แนะนำควรหยุดตัวเองให้ไว ไม่อย่างนั้นรู้ตัวอีกทีนอกจากไม่มีเงินเก็บแล้วยังอาจจะเต็มไปด้วยหนี้สินบานอีกด้วย
1. หยุดใช้เงินฟุ่มเฟือยด้วยการรูดบัตรเครดิต
การเป็นพนักงานมีเงินเดือนมักได้เปรียบในด้านสินเชื่อตรงเรื่องการทำบัตรเครดิต แต่นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนใช้เงินเกินตัว เวลาอยากได้อะไรก็รูดบัตรกันเพลิน ๆ ยิ่งมีบัตรหลายใบโอกาสมีหนี้สินพอกพูนก็เยอะขึ้นตามไปด้วย เพราะความรู้สึกเวลารูดบัตรไปแล้วมักคิดว่าจ่ายเงินไปเรียบร้อย แต่จริง ๆ นั่นคือเงินในอนาคตที่พอถึงเวลาเรียกเก็บก็ต้องจ่ายให้ครบ หากไม่จ่ายเต็มจำนวนก็จะกลายเป็นดอกเบี้ยจนหมุนเงินไม่ไหวสุดท้ายนอกจากกลายเป็นหนี้เสียยังติดแบล็คลิสต์จากสถาบันการเงินอีกต่างหาก
2. หยุดการหลงใหลในของแบรนด์เนม
เข้าใจดีว่าหลาย ๆ คนมีสังคมที่ต้องเข้าหา แต่ควรรู้ตัวอยู่เสมอว่าตนเองมีความสามารถในการใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด การใช้ของแบรนด์เนมหรูหราหรือการไปทานมื้ออาหารแพง ๆ ไม่ใช่สิ่งผิดหากเงินตรงนั้นแบ่งแยกเอาไว้ชัดเจน ไม่กระทบกับเงินเก็บหรือค่าใช้จ่ายประจำวัน แต่ก็มีอีกเยอะมากที่ไม่ได้คิดแบบนั้นและมองว่านี่คือสิ่งจำเป็นของชีวิต ท้ายสุดการมีของแบรนด์เนม การทานอาหารมื้อหรูบ่อยจนเงินเก็บแทบไม่เหลือ เงินใช้แทบไม่มีก็กลายเป็นหนี้สินไปเปล่า ๆ
3. หยุดการเห็นป้ายลดราคาแล้วพุ่งเข้าหาทันที
คนที่หลงใหลในการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ เวลาเจอป้ายลดราคา ป้าย Sale ต่าง ๆ ร่างกายมักเหมือนโดนดูดให้เข้าหาแล้วต้องซื้อของให้คุ้มค่าที่สุด ทั้งที่บ่อยครั้งของเหล่านั้นไม่ได้มีความจำเป็นกับชีวิตด้วยซ้ำ กลายเป็นการใช้เงินฟุ่มเฟือยในแบบที่ไม่ควรทำ พอซื้อมาเยอะ ๆ ก็ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร กลายเป็นเสียเงินโดยใช่เหตุเปล่า ๆ ดังนั้นหยุดสติตนเองแม้เห็นป้ายลดราคาก็ซื้อแบบพอดีตัวจะดีกว่า
4. หยุดการซื้อสินค้าแค่เพราะความอยากได้
เข้าใจดีว่าความอยากได้อยากมีเกิดขึ้นเสมอ แต่ถ้ารู้ว่าตนเองไม่ได้มีเงินเหลือมากมายขนาดซื้อของเหล่านั้น หรือไม่ได้มีสิ่งจำเป็นใด ๆ ให้ต้องมี อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับของเหล่านี้จะดีที่สุด เพราะแค่ความอยากเมื่อได้มาครอบครองแล้วก็ไม่ส่งผลใด ๆ ให้ชีวิตดีขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสเป็นหนี้สิน หรือเงินไม่พอใช้จนต้องขายของที่มีตัดราคาถูก ๆ แทบไม่มีความคุ้มค่าใด ๆ เกิดขึ้นเลย
5. หยุดซื้อของเงินเชื่อแล้วจ่ายทีเดียวตอนเงินเดือนออก
อีกพฤติกรรมแห่งการใช้เงินฟุ่มเฟือยสุด ๆ นั่นคือ การซื้อของแบบเงินเชื่อแล้วค่อยรอเงินเดือนออกตอนสิ้นเดือนจึงจ่ายไปทีเดียว พฤติกรรมนี้จะทำให้คุณไม่รู้เงินคงเหลือที่แท้จริงของตนเองว่ามีเท่าไหร่ เนื่องจากของที่ได้มายังไม่ได้มีการจ่ายเงินออกไป โอกาสการซื้อของใหม่เข้ามาก็มีอยู่เรื่อย ๆ พอถึงเวลาเงินออกจริงแล้วต้องจ่ายสิ่งที่ซื้อมาทั้งหมดก็แทบไม่มีเงินเหลือเก็บใด ๆ อย่าว่าแต่เงินที่เก็บไว้ใช้ฉุกเฉิน แค่เงินจะใช้แต่ละวันยังหาแล้วหาอีก หยุดใช้เงินเกินตัวกับวิธีซื้อของแบบนี้ดีกว่า
6. หยุดการซื้อสินค้าราคาถูก คุณภาพต่ำ
ทุกคนคงเคยมีความคิดประมาณว่า “ซื้อ ๆ ไปเถอะ ราคาแค่นี้ใช้ไม่กี่ทีถึงเสียก็คุ้ม” แต่ในความเป็นจริงเมื่อคุณทำพฤติกรรมแบบนี้บ่อย ๆ แทนที่จะรวมเงินเป็นก้อนใหญ่แล้วไปซื้อของดี คุณภาพมาตรฐาน ใช้งานได้ยาวนาน กลับต้องมาใช้ของที่เปลี่ยนบ่อย ๆ จนเมื่อรวมเงินกันเข้าปรากฏแพงกว่าของดีแบรนด์ดังด้วยซ้ำ ดังนั้นหยุดใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับของราคาถูก คุณภาพต่ำ แล้วเลือกของที่คุณภาพเหมาะสม แม้จะแพงกว่านิดหน่อยแต่ก็ใช้งานยาวนาน
7. หยุดการซื้อสิ่งที่เรียกว่า “ของมันต้องมี”
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น สินค้าไอทีต่าง ๆ บางคนแค่มือถือออกรุ่นใหม่มาก็เตรียมเงินไปซื้อเพียงเพราะมองว่าเป็น “ของมันต้องมี” ทั้ง ๆ ที่มือถือเครื่องเก่าก็ยังใช้งานได้ตามปกติ การซื้อแบบนี้นอกจากเป็นการใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบไร้เหตุผลแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการสร้างหนี้สินให้กับตนเองแบบไม่รู้ตัว เพราะของแฟชั่น ของมาใหม่ทั้งหลายมักมีราคาแพงเกินจริง
8. หยุดความคิดว่ามีเงินก็ต้องใช้ออกไปจากหัวได้เลย
สุดท้ายที่อาจไม่ได้เรียกพฤติกรรมโดยตรงแต่เป็น Mindset แบบผิด ๆ ประเภท มีเงินก็ต้องใช้สิ จะปล่อยให้บูดเน่าหรือไง เงินที่มีไม่เคยบูดเน่า มีแต่จะช่วยให้ชีวิตสบายขึ้น ดังนั้นหากคิดใช้เงินต้องแบ่งส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้บ้างแล้วกำหนดค่าใช้จ่ายแต่พอดีสำหรับตนเองในแต่ละเดือน
พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หากใครรู้ว่าตนเองตรงกับข้อไหนหรือตรงหลายข้อ ต้องรีบหยุดการใช้เงินฟุ่มเฟือยลงทันที เพราะไม่อย่างนั้นนอกจากหนี้สินที่เพิ่มพูนอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงาน ครอบครัว และเรื่องอื่น ๆ ตามมาแบบไม่จบสิ้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
