4 ส.ค. 2021 เวลา 14:10 • นิยาย เรื่องสั้น
สวัสดีวัน พุธ แรม๑๑ ค่ำ เดือน ๘/๒ ครับ
ในบางสถานการณ์ แม้รู้ว่าโอกาสชนะมีน้อยมาก แต่ก็ต้องสู้และยอมตายในสงครามอย่างผู้กล้า ดีกว่ายอมแพ้แล้ว มีชีวิตอยู่อย่างทาสหรือ
อัปยศอดสู เพราะไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องตายอยู่ดี.
เรื่องเล่าจากมหากาพย์ มหาภารตะ
สวัสดีอีกครั้งครับ ณ.ช่วงเวลาที่ความปริวิตกได้
ครอบคลุมไปเกือบทุกพื้นที่ ที่มีมนุษย์อยู่ในขณะนี้ สู้ต่อไปครับ ผมเอาความหวังส่งให้ครับ แทน
กำลังใจ เพราะกำลังใจเป็นเรื่องเฉพาะตน แบ่ง
กันไม่ได้ในความเป็นจริง แต่ความหวังแบ่งปันกันได้ เหมือนกับน้ำใจ ที่แบ่งปันกันได้ สถานการณ์นี้
ธรรมชาติ ทดสอบ ความเป็นมนุษย์ และธาตุแท้
ของมนุษย์ แต่ละคนให้ประจักษ์ เท่านั้น
ส่วนเรื่องความตาย ช้าเร็วก็หนีไม่พ้นทุกคนแหละครับ เรากำลังถูกทดสอบในบริบท ที่ท้าทาย ทั้งสภาวะจิต วิญญาณ ของตัวเราเอง
และผู้บริหารการจัดการ ที่เสมือน แม่ทัพในศึกนี้.
เข้าเรื่อง
ต่อเลยนะครับจากตอนที่แล้ว
เมื่อโทรณาจารย์ สิ้นชีพลง เกิดความปั่นป่วนอย่างปัจจุบัน ในทหารฝ่าย เการพอย่างมากเป็นที่สังเกตดูได้ คือเหล่าทหารต่างถอดใจ ถอยหนี
เป็นที่สังเกตุ ความประหลาดนี้ ถึงอัศวถามาซึ่งเป็นลูกชาย ที่รบอยู่อีกฟากหนึ่งของสมรภูมิ
และเหตุนี้ อัศวถามา จึงรีบตรงมาหา ทุรโยธน์
ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสมรภูมิ เพื่อไถ่ถามความเป็นไป
และการมาครั้งนี้ มองไปทางไดก็ไม่เห็นบิดาของตน
ตัวทุรโยธน์ เองไม่กล้าให้คำตอบต้องเบี่ยงไปให้
กฤปาจารย์ ผู้เป็นลุงของอัศวถามมา ตอบแทน
เพราะ ทุรโยธน์ เองเมื่อเห็นการตายของโทรณาจารย์ อาจารย์ ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่ตน แถมยัง
บอกอีกว่า จะไม่ถอดเกราะจนกว่าจะชนะหรือ
ตนเองสิ้นชีพในสงครามนี้ มาถึงตรงนี้ ทุรโยธน์
รู้แล้วว่า ความพ่ายแพ้รอตนอยู่ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ในสงครามครั้งนี้ แต่ การยอมแพ้ในสงคราม นี้มันสายเกินไปแล้ว และยังรู้อีกว่าสุดท้ายพี่น้องของตนต้องตายหมดด้วยฝีมือของ
ภีมะ ตามที่เคยสาบานไว้ รวมถึงชีวิตตนด้วย
และด้วยมานะ ของวรรณกษัตริย์ ทุรโยธน์
ตัดสินใจแล้วว่า ขอตายในสงคราม เพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์ ตามความเชื่อ ที่มีมา
หันมาดูทางอัศวถามา เมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง
จากกฤปาจารย์ ความโกรธแรงเหมือน ภูเขาไฟ
ที่พร้อมประทุ
ในความตายอันไม่ชอบธรรมของบิดาตนที่ฝ่าย
ปาณฑพ กระทำ ทั้งการโกหกว่า ตนตายแล้ว
ของยุษธิฐีระ และการ ตัดหัวโดยธฤตทยุมทั้งที่
พ่อของตน ทำโยคะเพื่อละสังขารแล้ว
จะว่าไปแล้ว เรื่อง ความเป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม ของทั้งสองฝ่าย ได้ล่มสลายไปแล้ว
ตั้งแต่ท้าวภีษมะล้มลง จะเห็นได้ว่าต่างฝ่ายต่าง
มุ่งหมายในชัยชนะ มากกว่าความถูกต้อง
ใช้เล่ห์กล และ ความไม่ชอบธรรม เพื่อหวังเพียงชัยชนะ ถึงตอนนี้ทั้งฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ ก็ไม่ต่างกัน ไม่สามารถเรียกฝ่ายใดว่า
เป็นฝ่ายธรรมะหรือ อธรรมได้ ต่างเทาๆเหมือนกัน ทั้งหลายทั้งปวงเพียงเพื่อคำว่า ชัยชนะ ในสงครามครั้งนี้ เท่านั้น
 
ทางฝ่าย ปาณฑพ เองเมื่อเกิดกรณี สังหาร
โทรณาจราย์ ขึ้นก็เกิดการวิพากษ์ กันอย่างมาก
ในหมู่ฝ่ายปาณฑพเช่นกัน และแน่นอนผู้ที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้นในปฏิบัติการนี้คืออรชุน
เกิดการดราม่า ในหมู่นักรบฝ่ายปาณฑพ
โดยที่อรชุน ตำหนิ ยุษธิฐีระ พี่ชายของตนเรื่อง
การโกหก ต่อโทรณาจารย์ และยังตำหนิ ธฤตทยุม ที่ทำเช่นนั้น
จนภีมะ ทนไม่ไหว ต้อง ออกตัวแรงนิดนึงกับ
อรชุน ประมาณว่า แล้วมึงเห็นไหมว่าทหารเราล้มตายไปเท่าไหร่ แล้วมึงช่วยพวกเขาได้ไหม อย่าเอาแต่ตำหนิคนอื่นเพียงเพราะว่าเราชอบพอกับอีกคนหนึ่ง เหล่าทหารที่ตายเขามารบช่วยเราด้วยใจและความศรัทธาในตัวเรา เขาก็มีครอบครัวคนที่เขารัก และรักเขาเช่นกัน เขาคือ
ผู้เสียสละที่แท้จริง แม้สงครามชนะ เขาก็มิได้หวัง
ว่าจะเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองโลกนี้ แต่เขาหวังเพียงความสงบสุขและสันติ เท่านั้น เราจะทำหรือมองว่าชีวิต ของเขาไร้ค่า เหมือนมดตัวเล็กๆได้ยังไง อย่าเพียงเพราะว่าเรา ความสัมพันธ์เฉพาะ
ตัวของเราในหมู่มิตรหรือศัตรู ที่เรามี ทำให้เราลืม
ไปเสียว่า ใครคือผู้อุทิศให้เราอย่างแท้จริง.
อรชุน พูดไม่ออกครับ เมื่อภีมะ กล่าวเช่นนี้
อัศวถามา จะจัดการต่อไปเช่นใด รบกวนติดตามต่อตอนหน้า นะขอรับ คงอีกสักสองสาม
วัน อิอิ รอข้อมูลผสมครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน และติดตามครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
เรื่องเล่าจากมหากาพย์ มหาภารตะ
ของ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ที่นับถือ
ไม่มีความมืดไดบดบังแสงสว่างได้นานเกินไปหรอก
โฆษณา