7 ส.ค. 2021 เวลา 08:46 • ประวัติศาสตร์
🇧🇾 สรุปแบบรวบรัด | เบลารุส ประเทศเผด็จการแห่งสุดท้ายของยุโรป
1) สาธารณรัฐเบราลุส (Republic of Belarus) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ภูมิภาคยุโรปตะวันออก โดยมีอาณาเขตติดต่อกับรัสเซีย ยูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย โดยมีเมืองหลวงคือกรุงมินสก์ (Minsk)
2) ในอดีตเบราลุสเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาตั้งแต่ปี 1920 จนกระทั่งเบราลุสได้แยกตัวและประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียต ในปี 1991 (ปีเดียวกับที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย)
3) ต่อมาในปี 1994 เบราลุสก็ได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็คือ อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก (Alexander Lukashenko) ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเบราลุส
1
Alexander Lukashenko ประธานาธิบดีผู้ครองอำนาจยาวนานกว่า 27 ปี
4) แต่ชาวเบลารุสในช่วงเวลานั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่า ประธานาธิบดีลูกาเชนโกจะกลายเป็นเผด็จการ ที่ปกครองประเทศเป็นเวลายาวนานกว่า 27 ปี จนถึงทุกวันนี้
5) โดยลูกาเชนโกเป็นอดีตสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์ และเคยเข้าร่วมกับกองทัพสหภาพโซเวียตมาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาแนวคิดยึดมั่นในแนวทางของคอมมิวนิสต์ รวมไปถึงมีความสัมพันธ์อันดีกับรัสเซีย (ที่ถือเป็นผู้สืบทอดต่อจากสหภาพโซเวียต) ซึ่งในปี 1999 รัสเซียกับเบลารุสได้ก่อตั้งรัฐสหภาพ (Union State) ที่ทำให้ทั้งสองชาติมีความใกล้ชิดมากขึ้น
6) ลูกาเชนโกได้นำแนวทางของคอมมิวนิสต์ (แบบเผด็จการของโซเวียต) มาใช้ในการปกครองประเทศของเขา ไม่ว่าจะเป็นการที่รัฐบาลควบคุมทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ รวมไปถึงสังคมอย่างเบ็ดเสร็จ การค้าเสรีและประชาธิปไตยในเบลารุสถูกบั่นทอนอย่างหนัก สื่อภายในประเทศก็มีเฉพาะฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น
7) และเมื่อมีคนคิดต่อต้านอำนาจของเขา ลูกาเชนโกก็จะใช้ความรุนแรงในการเข้าปราบปรามผู้เห็นต่างเป็นจำนวนมาก มีทั้งการจับกุมและถูกลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต (ปัจจุบันเบราลุสเป็นเพียงชาติเดียวในยุโรป ที่ยังมีโทษประหารชีวิต) นอกจากนี้ยังมีการตั้งหน่วยตำรวจลับ (ที่ใช้ชื่อว่า KGB เหมือนกับในยุคโซเวียต) เพื่อกวาดล้างผู้ที่คิดต่อต้านรัฐบาล ลูกาเชนโกเชื่อว่าเป็นเพราะต่างชาติที่ได้ยุยงให้ผู้คนต่อต้านเขา
8) โดยในเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา ลูกาเชนโกได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ส่งผลให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน (การเลือกตั้งในแต่ละครั้ง ลูกาเชนโกจะชนะถล่มทลายทุกครั้ง และเขายังแก้รัฐธรรมนูญให้ตัวเองสามารถลงเลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้)
2
9) การเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 6 ของลูกาเชนโกก็ได้ทำให้ประชาชนเบลารุสมากกว่า 2 แสนคน ได้ออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่เขา ซึ่งก็ได้เกิดการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งการต่อต้านลูกาเชนโกก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
การชุมนุมครั้งใหญ่ของชาวเบลารุสในเดือนสิงหาคม 2020 โดยสีขาวแถบแดง เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านคอมมิวนิสต์ และเรียกร้องประชาธิปไตย
10) อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ประชาชนเบลารุสต่อต้านอำนาจของลูกาเชนโก ก็มาจากนโยบายในการจัดการโรคระบาดโควิด-19 โดยลูกาเชนโกได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เบราลุสสามารถจัดการกับโรคระบาดนี้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำงานให้หนัก นั่งอบตัวในห้องซาวน่า และดื่มวอดก้าเท่านั้น
1
11) ปัจจุบันเบราลุสเป็นประเทศที่ให้เสรีภาพสื่อและมีความเป็นประชาธิปไตย ที่ต่ำมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
12) และด้วยความเป็นเผด็จการของลูกาเชนโก จึงทำให้เขาถูกขนานนามว่าเป็นเผด็จการคนสุดท้ายของยุโรป ซึ่งด้วยแรงสนับสนุนจากรัสเซีย รวมไปถึงประชาชนบางส่วนที่สนับสนุนเขา (ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ มักจะตราหน้าผู้ที่ต่อต้านลูกาเชนโกว่า เป็นพวกไม่รักชาติ) จึงทำให้ลูกาเชนโกยังคงรักษาอำนาจของเขาไว้ได้
1
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา