11 ก.ย. 2021 เวลา 01:00 • ปรัชญา
## นี่เราใช้ชีวิตรีบร้อนไปหรือเปล่า? ##
.
.
โลกของเราในทุกวันนี้มันหมุนเร็วขึ้นมากครับ มีการพัฒนา การเปลี่ยนแปลง มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเกิดขึ้นตลอดเวลา และความเร็วเหล่านี้ ทำให้เราใช้ชีวิตเร็วขึ้นไปด้วย
.
.
มันเป็นนิสัยที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวครับ มนุษย์ใช้ชีวิตว่องไวขึ้น รีบร้อนขึ้น และรู้สึกหงุดหงิดเวลาที่อะไรไม่ได้ดั่งใจ หรือว่าช้าว่าที่คุ้นเคย เพราะว่าสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายมันทำให้เราคุ้นชินกับความรวดเร็ว
.
.
อยากคุยกับใครก็คุยได้ทันที อยากดูอะไรก็ดูได้ทันที อยากได้เอกสาร ก็ส่งหากันได้สบายๆ อยากกินอะไรก็สั่งเอา มาส่งถึงที่ รวมถึงการหาข้อมูลความรู้ที่อยู่ห่างจากเราแค่เพียงปลายนิ้ว และแสดงผลหลายล้านข้อมูลได้ในเสี้ยววินาทีจากการเสิร์ชเพียงครั้งเดียว
.
.
ความสะดวกสบาย ความรวดเร็วเหล่านี้ ทำให้เราติดเป็นนิสัย และใช้ชีวิตอย่างรีบร้อนโดยไม่รู้ตัวครับ
.
.
มันก็ถูกครับ ที่ว่ายิ่งเร็วยิ่งดี แต่ก็ยังมีบางสิ่งในชีวิตครับ ที่เราต้องให้เวลากับมัน และไม่จำเป็นต้องทำให้มันหมุนเร็วตามโลกไปด้วย
.
.
อย่างที่ 1 ตกหลุมรัก
.
การตัดสินใจรักใครสักคน มันต้องผ่านกระบวนการทางความคิดที่ซับซ้อนเกินอธิบาย รวมไปถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆมากมายที่ต้องจัดการ และที่สำคัญ ความรักคือการเรียนรู้ครั้งใหญ่ของชีวิต
.
เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องรีบร้อนครับ ให้เวลาตัวเองได้เรียนรู้ อารมณ์ ความรู้สึก และความสวยงามของความรักให้เต็มที่
.
.
อย่างที่ 2 การตัดสินใจครั้งใหญ่
.
การตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ไม่ว่าจะในเรื่องการงาน ครอบครัว หรือเรื่องของตัวคุณเอง ถ้ามันเป็นการตัดสินใจที่จะส่งผลกระทบที่ชัดเจนและยิ่งใหญ่ ก็ไม่ควรจะรีบด่วนจัดสินใจครับ ให้เวลากับมันเยอะๆ และทำให้แน่ใจว่า วินาทีที่คุณตัดสินใจ มันเกิดจากเหตุผลมากกว่าอารมณ์
.
.
อย่างที่ 3 ให้ความเชื่อใจ
.
ความเชื่อใจเป็นเรื่องใหญ่นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนๆนึงเข้ามาในชีวิตเราแล้ว ยังเป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้คนๆนั้นมีอิทธิพลกับความรู้สึก กับชีวิตเราด้วย
.
และอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรรีบร้อนให้ความเชื่อใจใครสักคน เพราะเมื่อคุณเสียมันไป มันจะเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆกับทั้งสองฝ่าย
.
.
อย่าที่ 4 รับประทานอาหาร
.
ในยุคที่รีบร้อนแบบนี้ กิจวัตรในชีวิตประจำวันอย่างเช่นการกินข้าวก็ดูจะรีบร้อนไปด้วย บางคนกินไปทำงานไป กินไปดูทีวีไป และไม่ได้ใส่ใจถึงอาหารที่กำลังเข้าไปในปาก กินก็แค่กินๆไป
.
นอกจากจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแล้ว สิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ คุณกำลังเสียโอกาสในการรับรู้รสชาติอาหาร ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยในการดำรงชีวิตของคุณ
.
ลองสังเกตตัวเองดูครับ "คุณจำรสชาติอาหารมื้อล่าสุดที่คุณกินได้มั้ย?"
.
.
อย่างที่ 5 ตัดสินคนอื่น
.
"อย่าตัดสินหนังสือจากแค่หน้าปก" ยังสามารถใช้ได้กับทุกเรื่องครับ และยิ่งจะดูใช้ได้มากขึ้นในปัจจุบันด้วย ในยุคสมัยที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว เราไม่มีทางรู้เลยว่า ใครเป็นคนยังไง หรือว่าเขาอยู่ในฐานะแบบไหน
.
เด็กอายุ 20 ยังสามารถทำเงินเป็นแสนเป็นล้านได้ คนที่แต่งตัวดูดีอาจจะไม่ได้มีฐานะ คนที่อวดฉลาดอาจจะโม้ไปเรื่อย และคนที่แต่งตัวเฉยๆอาจจะเป็นคนรวยก็ได้
.
เพราะฉะนั้น การด่วนตัดสินใจคนอื่นจากแค่ภาพลักษณ์ของเขา ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณควรจะทำครับ
.
.
อย่างที่ 6 คิดว่าคุณรู้จักใครดีพอ
.
นี่เป็นอีกหนึ่งบทเรียนครั้งใหญ่ของหลายคน ซึ่งมันเชื่อมไปถึงความเชื่อใจด้วยครับ การรีบร้อนให้ความเชื่อใจ เพราะคุณคิดว่ารู้จักเขาดีพอแล้ว นับได้ว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้
.
บางคนรู้จักกันมาเป็นสิบปี ยังไม่พอที่จะใช้คำว่า "รู้จักกันดีพอ" เลยครับ
.
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรเชื่อใจใครเลยนะครับ การเชื่อใจกันและกันเป็นสิ่งสวยงามในทุกความสัมพันธ์ ประเด็นก็คือ "อย่ารีบร้อน"
.
.
นี่คือ 6 อย่างที่อาจจะพอเตือนสติทุกคนได้บ้างนะครับ รวมถึงตัวผมเองด้วย
.
.
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จนะครับ
.
.
ถ้าชอบก็ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Facebook:
YouTube:
Blockdit:
.
เข้ากลุ่มเพื่อมาฟังเรื่องราวทุกคนกัน
โฆษณา