Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Deemmi Pets
•
ติดตาม
7 ส.ค. 2021 เวลา 00:00 • สัตว์เลี้ยง
ข้อควรระวังที่เจ้าของต้องรู้สำหรับการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด
เจ้าของสัตว์: หมอคะ แมวของหนูหล่นลงมาจากระเบียงชั้น 3 ค่ะ หนูเลยรีบพาแมวใส่ตะกร้ามาหาหมอ หมอช่วยแมวของหนูด้วยนะคะ
ในใจหมอตอนนั้นกังวลว่า
สภาพของน้องจะแย่แค่ไหน ขาน้องจะหักหรือไม่ ??
แต่พอเจ้าของเปิดตะกร้าที่ใส่แมวออกมา น้องเดินออกมาได้เอง พร้อมส่งเสียงร้องเมี๊ยวเมี๊ยวได้เป็นปกติค่ะ (เห็นแบบนี้แล้ว แอบพ่นลมหายใจฟู่!! ออกมาเลย...ที่เค้าพูดกันว่า แมว 9 ชีวิต ก็คงจะจริงอย่างที่ว่ากัน) หลังจากที่หมอใช้เวลาตรวจเเละเอ็กซ์เรย์น้องแมวตัวนี้นานกว่า 45 นาที สรุปผลออกมาว่า น้องไม่มีกระดูกส่วนไหนที่หักหรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม รวมถึงไม่พบกระดูกร้าวด้วยค่ะ
ถือเป็นโชคดีของน้องแมวตัวนี้นะคะ…
แต่ความโชคดีก็อาจไม่ได้มีเสมอไป ดังนั้นก่อนการเลี้ยงแมวในคอนโดหรือตึกสูง หมอมีคำแนะนำมาฝากเจ้าของดังนี้
1. ทำความเข้าใจพฤติกรรมของแมว
โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระมากและแมวมีความเป็นตัวของตัวเองสูง แมวจะมีนิสัยแตกต่างจากสุนัข หากใครเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กมาก่อน อาจจะคิดว่าวิธีการเลี้ยงคล้ายกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่เหมือนกันเลยค่ะ นิสัยที่เราพบได้ในสุนัข เช่น ขี้อ้อน ประจบเก่ง หรือเรียกชื่อแล้วเดินมาหา พฤติกรรมเหล่านี้อาจไม่พบในแมวบางตัวก็ได้ค่ะ ดังนั้นก่อนการนำแมวมาเลี้ยง เจ้าของต้องศึกษาและทำความเข้าใจในนิสัยเฉพาะตัวของแมวด้วยค่ะ
2. สอบถามเรื่องกฎระเบียบของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด
ไม่ใช่ทุกคอนโดจะอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ ดังนั้นเจ้าของควรสอบถามเจ้าหน้าที่ส่วนกลางถึงระเบียบของคอนโดที่อยู่อาศัยก่อนนำแมวเข้ามาเลี้ยง
3. ศึกษาพรบ.ของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด
ข้อกำหนดกฎหมายของพรบ.ของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดระบุไว้ว่า “ในพื้นที่ 1 ห้องนอน (ประมาณ 30 ตรม.) สามารถมีสัตว์เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว และน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงต้องไม่เกิน 15 กก.” ซึ่งหมายความว่า สัตว์เลี้ยงที่ได้รับอนุญาติให้เลี้ยงในคอนโดได้ จะต้องมีขนาดสูงสุดไม่เกินสุนัขไชส์เล็กหรือค่อนมาทางไซส์กลาง และน้ำหนักไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ค่ะ
4. ฝึกใช้คำสั่งควบคุมเบื้องต้นกับสัตว์เลี้ยง
สำหรับสุนัข คำสั่งเช่น หยุดเห่า! เงียบ! นิ่ง! เป็นคำสั่งเบื้องต้นที่เจ้าของควรใช้เมื่อต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ซึ่งมีโอกาสที่เสียงของน้อง ๆ จะไปรบกวนเพื่อนบ้านได้ง่าย นอกจากนี้เจ้าของยังควรต้องฝึกให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับสายจูง รวมถึงฝึกการเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านและสัตว์เลี้ยงของพวกเค้า เพราะหากมีการพบเจอกัน สัตว์เลี้ยงจะได้ไม่เกิดอาการหวาดกลัวหรือทำร้ายใครได้
5. ตรวจสุขภาพแมวให้เรียบร้อยก่อนนำเข้ามา
น้องแมวอาจมีโรคแฝงที่ติดมาด้วยในบางครั้ง ซึ่งเป็นได้ทั้งโรคสัตว์สู่สัตว์ด้วยกัน หรือ โรคสัตว์สู่คน (Zoonosis) ตัวอย่างเช่น โรคขี้เรื้อนที่ผิวหนัง มีพยาธิในทางเดินอาหาร และพบเชื้อราตามตัวน้องแมว ซึ่งหากเจ้าของไม่ตรวจสุขภาพให้เรียบร้อยก่อนนำเข้ามาเลี้ยง อาจเจอปัญหาโรคติดต่อที่หมอพูดถึงได้ค่ะ
==========
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวในคอนโด
1. ควรเลือกพันธุ์ของแมวให้มีความเหมาะกับตัวเรา
เจ้าของบางคนไม่ชอบหวีขนน้องแมว ก็ควรต้องเลือกเลี้ยงแมวที่มีลักษณะขนสั้น เพราะจะทำให้ระยะเวลาในการแปลงขนของน้องสั้นลง แต่อย่างไรก็ตามการทำความสะอาดขนให้น้องก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ เพราะขนของแมวจะมีความละเอียดสูงมาก การแปลงคนนอกจากจะช่วยให้ขนละเอียดไม่หลุดปลิวไปทั่วคอนโดแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการสำรอกขนแมว (Hairball) ออกมาด้วยค่ะ
2. พื้นที่ภายในห้องเลี้ยงควรมีอากาศปลอดโปร่ง
มีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดี นอกจากนี้ผู้เลี้ยงต้องมีจำนวนกระบะทรายเพียงพอวางตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน และหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายแมว สิ่งปูรองนอนของแมวไม่ให้สกปรก หรือส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้าน
จำนวนกระบะทรายที่เหมาะสม จะมีสูตรคำนวณเฉพาะคือ n + 1 ค่ะ โดยที่ n จะเท่ากับ จำนวนตัวแมวที่เลี้ยง เช่น ถ้าเลี้ยงแมว 1 ตัว ต้องมีกระบะทราย 2 กระบะ หรือถ้าเลี้ยงแมว 2 ตัว เราจำเป็นต้องจัดหากระบะทรายในห้องไว้ 3 กระบะค่ะ สำหรับอุจจาระแมวหรือทรายแมวที่ใช้แล้ว ต้องมีการกำจัดทิ้งให้เหมาะสม โดยหาถุงใส่ให้ถูกสุขลักษณะ และไม่สร้างกลิ่นรบกวนผู้อยู่อาศัยห้องอื่น
3. ห้องมีระเบียงต้องหาอุปกรณ์ป้องกันการปีนป่ายของแมว
เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยชอบเที่ยว ดังนั้นห้องที่มีระเบียงจึงมีโอกาสที่น้องจะพยายามออกมาปีนเล่น ซึ่งอาจเป็นอันตรายเหมือนเคสน้องแมวตกตึกที่หมอได้รับมา ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เจ้าของควรขึงลวดหรือกั้นระเบียงให้แน่นหนา ไม่ให้มีช่องว่างจนแมวสามารถกระโดดออกจากระเบียงได้
4.การทำหมันสำหรับแมวเลี้ยงในคอนโดเป็นสิ่งจำเป็น
เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ของแมว เจ้าของควรพิจารณาพาแมวไปทำหมัน เพราะเมื่อน้องเข้าสู่รอบการเป็นสัด จะมีพฤติกรรมส่งเสียงร้องออกมาดัง ๆ ซึ่งอาจจะรบกวนเพื่อนบ้านได้ คำแนะนำของหมอคือ เจ้าของอาจพาน้องมาทำหมันได้ตั้งแต่อายุเฉลี่ย 5-6 เดือนขึ้นไป
==========
คำถามที่พบเจอบ่อยในกรณีเลี้ยงสัตว์ในคอนโด
Q: ถ้าต้องการเลี้ยงน้องหมาน้องแมวเกิน 1 ตัวจะทำได้มั้ย
ได้ค่ะ แต่เจ้าของสัตว์ต้องมีพื้นที่ในคอนโด หรือที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 50-60 ตรม. หรือเท่ากับคอนโดขนาด 2 ห้องติดกันค่ะ จึงจะรองรับตามข้อกฏหมายของพรบ.การเลี้ยงสัตว์ในคอนโด และทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาวะที่ดีในการใช้ชีวิต
Q: เราสามารถเลี้ยงสัตว์พิเศษในคอนโดได้หรือไม่
การเลี้ยง Exotic Pet สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องไม่ใช่สัตว์ประเภทดุร้ายหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น สัตว์ที่นิยมเลี้ยงกัน ได้แก่ งูเหลือมบอล (Ball Python) เพราะสามารถเลี้ยงในพื้นที่จำกัดได้ ส่วนสัตว์ชนิดอื่น ๆ เช่น นกแก้วมาคอร์ นกกระตั้ว ก็เป็นที่นิยมเลี้ยงเช่นกัน แต่มีข้อพึงระวังในเรื่องเสียงดังที่อาจจะรบกวนเพื่อนบ้านได้ ซึ่งเจ้าของต้องพิจารณาก่อนเลือกชนิดสัตว์เข้ามาเลี้ยง
ดังนั้นไม่ว่าเจ้าของจะเลือกเลี้ยงสัตว์ชนิดไหน ควรพิจารณาพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของเจ้าของด้วยค่ะ การคำนวณพื้นที่การเลี้ยงก็สำคัญ ต้องมีให้เพียงพอต่อจำนวนสัตว์ และสุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายกับน้อง ๆ ด้วยนะคะ
หมอหวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านนะคะ
สพ.ญ. กรกช ศิริวิบูลย์ไชยกุล
============
👉 Deemmi
ที่ปรึกษาออนไลน์เพื่อคนเลี้ยงสัตว์ (Televetmed)
ให้คำแนะนำโดยคุณหมอจากโรงพยาบาลสัตว์ทั่วประเทศ
👉 พบกับเราเร็ว ๆ นี้ผ่านช่องทาง
Website:
www.deemmi.com
(เร็ว ๆนี้)
Line: @deemmi
FB: Deemmi
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย