7 ส.ค. 2021 เวลา 12:00 • กีฬา
#โอลิมปิกสัมพันธ์
โดย มิสมาต้า
โค่นบัลลังก์​บักกิงแฮม
ปฏิบัติการ​ Italian job ที่ล้มแผน Football​'s coming home โดยทีมชาติอิตาลีจัดการเด็ดหัวสิงโต​คำรามจนร่ำไห้กลางกรุงลอนดอนยังไม่ทันจางหายดี
แฟนบอลอังกฤษ​ยังไม่ทันลืมภาพไม่น่าจดจำที่ จิออร์จิโอ คิเอลลินี กระชากคอ บูกาโย ซากา จนแทบเสียเด็ก กับ "ดอนนาไฟลท์" ที่ จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา โชว์ซูเปอร์​เซฟจากการยิงลูกจุดโทษ​ตัดสินในรอบชิงฟุตบอล​ยูโร​ 2020
แฟนกีฬา​ชาวสหราชอาณาจักร​ยังต้องมาน้ำตาตกในอีกครั้งแบบฉายภาพซ้ำในโตเกียว​เกมส์ จากกรีฑา​ประเภทลู่​ชนิด วิ่งผลัด​ 4x100 เมตรทีมชาย
ในยุคสมัยที่เชื้อชาติ กับ สัญชาติไม่สำคัญเท่ากับหน้าที่เพื่อชาติ มาร์เซล เจคอปส์ เจ้าของเหรียญทอง​100 เมตรชายทีมชาติอิตา​ลี​ ที่พลิกชีวิตจากนักวิ่งธรรมดามาเป็นนักวิ่งที่วิ่งไวที่สุดในโอลิมปิกครั้งนี้ รวมทั้งยังเป็นเป็นบุรุษ​ที่เร็วที่สุดของยุโรป​ทั้งที่ไม่ได้เกิดบนแผ่นดินรองเท้าบูท​เลยด้วยซ้ำ
1
มาร์เซล เจคอปส์ จูเนียร์เป็นลูกชายของ วิเวียนา มาซินี สาวอิตาเลียน กับ มาร์เซล เจคอปส์ ซีเนียร์ หนุ่มผิวสี ทหารอเมริกัน​ของหน่วยยุทธบริการที่มาประจำการอยู่ที่แคมป์เอเดอร์เล เมืองวิเซนซา ประเทศอิตาลี
1
ทั้งสองพบกัน และสร้างตำนานรักไร้พรมแดนหลังปิ๊งกันได้ไม่นาน แล้วเมื่อถึงกำหนดปลดประจำการในช่วงอิตาเลีย 90 พอดี  คู่รักก็ตัดสินใจบินกลับมาแต่งงานกันที่เมืองเอล ปาโซ รัฐเท็กซัส​ ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​
หลังจากนั้น 4 ปี มาร์เซล เจคอปส์ จูเนียร์​ ก็ได้ถือรองเท้าตะปูออกมาจากครรภ์​ของมารดา
ผู้เขียนเชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์​ และพรหมลิขิต​ มาร์เซลในวัยสามเดือนที่เกิดบนแผ่นดินอเมริกา​ในฐานะลูกครึ่งสองทวีปกลับต้องเดินทางกลับมาที่เมืองลอมบาร์ดี ประเทศบ้านเกิดของมารดา ในขณะที่คุณพ่อต้องไปประจำการที่คาบสมุทร​เกาหลี แล้วหลังจากนั้นอีก 3 เดือน พ่อแม่ของเขาก็ได้ตัดสินใจแยกทางกัน
บางทีโชคชะตาอาจเล็งเห็นแล้วว่าถ้ามาร์เซลต้องเติบโตที่แผ่นดินพ่อ พรสวรรค์​ด้านการกรีฑาอาจจะดีไม่พอสำหรับการเป็นนักกรีฑาฝีเท้าจัดของประเทศนี้ที่มีอยู่หลายคน จนในอนาคตเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในระยะโฟกัสของโค้ชที่ควรจะเกิดมาเพื่อกันและกัน
บนแผ่นดินแม่ พรสวรรค์​ของมาร์เซลได้ไปเตะตา อาเดรียโน เบอร์ตาซซี โค้ชฟุตบอลเข้าอย่างจัง แต่นั่นไม่ใช่เพราะเขาเล่นฟุตบอล​ได้ดีแต่อย่างใด แต่กลายเป็นสปีดต้นอันรวดเร็วที่ทำให้โค้ชคนนี้แนะนำให้เขาไปเอาดีที่ลู่วิ่ง
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของกาลเวลาล้วนๆ
มาร์เซลที่เพิ่งเคยวิ่งระยะ 100 เมตรได้ต่ำกว่า 10 วินาทีได้ตอนอายุ 26 ปีเป็นครั้งแรก ติดทีมกรีฑาของอิตาลีมาแข่งที่โตเกียวเกมส์​ ซึ่งเขามาอย่างเงียบๆ ชนิดที่ทีมตั้งความหวังเอาไว้แค่การเข้ารอบไฟนอลก็หรูแล้ว
"มีเพียงกล้ามเนื้อของผมที่เป็นอเมริกัน​ แต่ผมรู้สึกว่าเลือดทุกหยาดหยดเป็นอิตาเลียน​ 100%"
คือคำกล่าวของมาร์เซลที่เคยพูดเอาไว้ก่อนโอลิมปิก ซึ่งทำให้ผู้เขียนนึกถึงคำว่า Full Blood Italian หรือ FBI อันเป็นชื่อทีมมวยปล้ำของค่าย WWE เมื่อหลายๆ ปีก่อน
ในการวิ่ง 100 เมตรรอบชิงชนะเลิศ​ มาร์เซลเอาชนะนักวิ่งทุกคนจนได้เหรียญทอง​แบบที่ไม่มีใครคาดคิด เขาวิ่งได้ดีที่สุดในชีวิตจนทำลายสถิติยุโรปลงได้เป็นรางวัลชีวิตถัดจากเหรียญทอง​
ซาร์เนล ฮิวจ์ส​ หนึ่งในตัวเต็งจากสหราชอาณาจักร​ทำฟาวล์​ในการออกสตาร์ต​จนถูกตัดสิทธิ์​นั่นจึงทำให้นักวิ่งทุกคนเกร็ง
เคยมีคนกล่าวว่าที่ ยูเซน โบลต์​ เป็นเจ้าของสถิติโลกได้ นั่นก็เพราะว่าร่างกายของเขาถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้
ในการวิ่ง 100 เมตรของนักวิ่งระดับ​สูงจะใช้การก้าวระหว่าง 47-50 ก้าวเป็นมาตรฐาน​เพื่อเข้าเส้นชัย และนักวิ่งที่จะสามารถเป็นแชมป์​ได้ต้องมีจำนวนก้าวไม่เกิน 46 ก้าว
ยูเซน โบลต์​ ทำเอาไว้ที่ 41 ก้าว พร้อมเวลา 9.58 วินาที​
1
ส่วนมาร์เซลที่วิ่งได้ 9.80 วินาที ใช้การก้าว 45.5 ก้าวจนได้เหรียญทอง​
ทิ้ง เฟร็ด เคอร์ลี นักวิ่งอเมริกัน​ที่ได้อันดับสองอยู่ 0.04 วินาที ซึ่งสำหรับเฟร็ดถือเป็นเวลาที่ดีกว่าสถิติ 9.92 วินาทีของ คาร์ล ลูอิส ที่ได้เหรียญทอง​เมือปี 1988 อันเป็นสถิติ​โลกในเวลานั้นด้วย รวมทั้งวิ่งได้เท่ากับสถิติ​โลก 9.84 วินาทีของ โดโนแวน ไบลีย์ เมื่อแอตแลนตา​เกมส์ 1996
::
มาร์เซลก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ​ของทีมวิ่ง 4x100 เมตรของอิตาลี​ ที่พากันเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ​อีกหนึ่งรายการ
ครั้งสุดท้ายที่ทีมวิ่งผลัดอเมริกัน​ไม่ได้เข้าชิงก็ต้องย้อนกลับไปที่ปักกิ่ง​เกมส์ 2008 เมื่อส่งไม้กันผิดพลาดจนวิ่งไม่เข้าเส้นชัย
โอลิมปิกครั้งนั้นทีมอิตาลี กับ ทีมสหราชอาณาจักร​ตกรอบไปพร้อมกับทีมวิ่งผลัดไทยชุดประวัติศาสตร์​ที่ผ่านด่านรอบคัดเลือก​เข้ามาได้
ทีมผลัดญี่ปุ่นได้เหรียญ​เงิน ส่วนทีมผลัดเจ้าภาพได้ที่บ๊วยในรอบชิง
ที่โตเกียวเกมส์​ครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งที่ทีมวิ่งผลัดอเมริกันไม่ได้เข้ารอบชิง แต่ญี่ปุ่นในฐานะเจ้าภาพ​ที่พ่วงตำแหน่งรองแชมป์​เก่า กับ จีนผ่านเข้ารอบชิงได้พร้อมกันอีกครั้ง รวมทั้งทีมผลัดสหราชอาณาจักร​ก็เข้ามาเช่นกัน
อิตาลีมีนักวิ่งเจ้าของเหรียญทอง​ 100 เมตรนำทัพ
1
แคนาดามีนักวิ่งเจ้าของเหรียญทอง​ 200 เมตรเป็นผู้นำทีม
ในขณะที่ทั้งสองเหรียญทอง​จากโอลิมปิกครั้งที่แล้วเป็นของลมกรดจาไมก้าคนดัง ที่เป็นเจ้าของสถิติโลกทั้งสองรายการ
ในทีมแคนาดามี อันเดร เดอ กราส ลมกรดนิสัยดีชาวแคนาเดียน เขาเคยสร้างความ Bromance ในริโอเกมส์ 2016 เมื่อเขาพยายามไล่กวด ยูเซน โบลต์ ก่อนเข้าเส้นชัยในรอบรองชนะเลิศ​วิ่งระยะ 200 เมตร
อันเดรไม่ได้พยายาม​กวดยูเซนเพื่อเอาชนะ แต่นั่นคือการหยอกเย้า​กันระหว่างสองนักวิ่ง ทั้งคู่ต่างหันหน้ามายิ้มใส่กันในระหว่างการเข้าเส้นโดยไม่สนผลการแข่งขัน​
ยูเซนอาจจะยิ้มเพื่อบอกว่า อ๊ะๆ เผลอไม่ได้เชียวนะเพื่อน
ส่วนอันเดรอาจจะยิ้มเพื่อบอกว่า อย่าผ่อนสิเพื่อน เราเตือนไว้นะ
แล้วเวลาแห่ง 4 คูณ 100 รอบชิงชนะเลิศ​ก็มาถึง
เจ้าภาพส่งไม้พลาดตั้งแต่ไม้แรก จบความหวังตั้งแต่​ช่วง 1 ใน 4 ของระยะทางเท่านั้นเอง
ส่วนมาร์เซลที่เป็นไม้สองของอิตาลีรับไม้ต่อจาก ลอเรนโซ ปัตตา แล้วพาทีมขึ้นนำจนได้ โดยวิ่งทิ้ง ซาเนล ฮิวจ์ส​ ไม้สองของสหราชอาณาจักร​แบบเห็นๆ
ในไม้ที่สาม เอเซโอซา เดซาลู สปีดตกจนโดนทีมสหราชอาณาจักร​ไล่กวด แล้วก็ถูกแซงในช่วงส่งไม้ให้เพื่อน
อิตาลีมาได้ ฟิลิปโป ตอร์ตู ใช้จังหวะสับแล้วก้าวยาวๆ วิ่งแซง นาธานีล เบลค ใน 5 ก้าวสุดท้ายพาทีมคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 37.50 วินาที อันเป็นการทำลายสถิติของประเทศ แล้วยังเป็นการคว้าเหรียญทอง 4x100 เมตรชายโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย
1
ที่ยูโร 2020 ทีมชาติอังกฤษ​ทำได้แค่เพียงพาฟุตบอลแวะมาเยี่ยมบ้านเกิดที่สนามเวมบลีย์​เท่านั้น เพราะการได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่​ต้นเกมไม่ได้ทำให้พวกเขาชนะเมื่อหมดเวลา​การแข่งขัน​ สุดท้ายถ้วยรางวัลที่พวกเขารอคอยก็ยังไม่ได้กลับบ้านเสียที
ที่โอลิมปิก​เกมส์ 2020 ทีมไต้ฝุ่นอิตาเลียน​ก็ยังตามมาล้มภารกิจ Gold medal for UK อีกจนได้
ส่วน อันเดร เดอ กราซ ไม้สุดท้ายของแคนาดาก็พาทีมเข้ารับเหรียญทอง​แดง​ ทั้งที่ในช่วงก่อนรับไม้สุดท้าย แคนาดาอยู่ในอันดับที่หกเท่านั้น
ทีมจีนนั้นกู้หน้าให้ทวีปเอเชียได้ด้วยการเข้าเส้นชัยในฐานะอันดับ​ที่สี่
นี่คือการแข่งขันอันมีสีสันอีกหนึ่งรายการที่ทำให้โตเกียว​เกมส์​กลายเป็นหนึ่งในโอลิมปิกที่มีสีสันมากมายสำหรับมวลมนุษยชาติ​ทุกคน
กีฬา กีฬา​ เป็นยาวิเศษ​สมชื่อเพลง
1
เพราะในขณะที่โลกของ​เรากำลังต่อสู้กับภัยโควิด หลายชาติร่วมแรงร่วมใจ​ ร่วมแบ่งปันทรัพยากร​ จนทำให้คำที่ว่ามนุษย์​เรานั้นจะรู้รักสามัคคี​กันในยามที่มีภัยแบบในหนังกลายเป็นความจริงขึ้นได้อีกครั้ง
โอลิมปิก​ที่บางคนคิดว่าไม่สมควรจัด นั่นก็เพราะว่าเขามองแต่เรื่องทางบัญชี​ จนขาดการมองในเรื่องของความรู้สึก​ และ ด้านกำลังใจจนสร้างความเชื่อมั่นอย่างมหาศาล​อันเป็นสินทรัพย์​ที่ประเมิน​ค่าไม่ได้
ซึ่งประเทศ​ญี่ปุ่น​ และนักกีฬา​ทุกคนทำให้เห็นแล้วว่ามหกรรมที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้มีแต่กำไร
เพราะไม่ว่าจะมองจากทางด้านยุทธศาสตร์​ รัฐศาสตร์​ และ มนุษยศาสตร์​ ทุกวินาทีที่โตเกียวคือประวัติศาสตร์​อันยิ่งใหญ่​ที่ทุกคนจะได้จดจำแบบไม่มีวันลืมเลือน
เมื่อ​มิตรภาพ​ และความรักไม่มีพรหมแดน ความต่างทางเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา และวัฒนธรร​มก็มิอาจปิดกั้นกำลังใจที่มนุษย์​มีให้แก่กันได้เช่นเดียวกัน
#PlayNowThailand #khelnow #4x100m​ #OlympicGames2020​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา