9 ส.ค. 2021 เวลา 12:08 • กีฬา
โค้ช 5 ประเภท
จากประสบการณ์ของผมตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ได้เดินทางอยู่ในยุทธจักรสายฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา รวมระยะเวลามากกว่า 3,650 วันนั้นทำให้ผมผ่านร้อนผ่านหนาว และได้พบ ได้เห็น ได้เรียนรู้ ได้ลงมือทำในบทบาทที่เรียกว่า “โค้ช” ฟุตบอลมาพอสมควร
ซึ่งการที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัว “ฟุตบอล” ทำให้เราได้พบเห็นผู้คนมากมาย ได้มีโอกาสสัมผัส ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของ “ฟุตบอล” มาโดยตลอด
หลายคนมองว่า “วงการโค้ชฟุตบอล” นั้นจะว่ามันเป็นเรื่องง่ายมันก็คงเป็นเรื่องง่ายแต่หากจะมองว่ามันเป็นเรื่องยากก็คงกล่าวเช่นนั้นได้ เพราะหากว่ามันง่าย “โค้ช” หลายคนก็คงประสบความสำเร็จกันหมดแล้ว “นักฟุตบอล” ที่กำลังเล่นอยู่ซึ่งเป็นผลผลิตโดยตรงของ “โค้ช” ก็คงมีอยู่กันเต็มไปหมดและแน่นอนว่านั่นคงเป็นผลดีต่อทีมชาติไทยที่คงจะมีผู้เล่นดีๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งนี้ท่านผู้อ่านเมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วก็คงจะมีคำตอบในใจว่า “การเป็นโค้ชฟุตบอล” นั้น “ง่าย” หรือ “ยาก”? หากจะเปรียบเทียบ ”วงการฟุตบอล” ในปัจจุบันก็คงไม่แตกต่างจากการขับรถบนท้องถนนมากนักเพราะเมื่อคุณมีความสนใจจะเดินทางและมียานพาหนะ เพียงแค่นี้คุณสามารถที่จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ หากแต่เพียงคุณไม่มีใบขับขี่คุณก็จะถูกดำเนินคดีเพราะเป็นการทำผิดกฎหมายแต่หากคุณต้องการเดินทางภายในหมู่บ้าน ใบขับขี่อาจไม่จำเป็นมากนัก ใน “วงการฟุตบอล” ก็เช่นกัน
1
ในปัจจุบันพบว่ามี “โค้ชฟุตบอล” อยู่ 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. ไม่มีความรู้ และไม่มีทักษะ กลุ่ม”โค้ช” ประเภทนี้จะเป็นผู้ที่มีแต่ใจรัก และให้ความสนใจในกีฬาฟุตบอล ซึ่งในบางครั้งอาจได้รับมอบหมายหน้าที่เนื่องมาจากงบประมาณหรือข้อจำกัดอื่นๆ เช่น ครูตามโรงเรียนต่างๆ ที่ขาดแคลนบุคลากรหรืองบประมาณ
2. ไม่มีความรู้ แต่มีทักษะหรือมีประสบการณ์ กลุ่ม “โค้ช” ประเภทนี้จะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเทคนิค และใช้ประสบการณ์การเล่นของตนเองมาถ่ายทอดตามแนวทางที่ตนเองเคยฝึกหรือเคยทำสำเร็จมาแล้วในขณะที่ตัวเองยังเล่นอยู่
1
3. มีความรู้ แต่ไม่มีทักษะหรือประสบการณ์มากนัก กลุ่ม “โค้ช” ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สนใจใฝ่รู้ แต่จะไม่ชำนาญในการปฏิบัติซึ่งอาจมีปัญหาเวลาที่ต้องสาธิตให้นักฟุตบอลดู
4. มีความรู้ และมีทักษะหรือประสบการณ์ กลุ่ม “โค้ช” เรียกว่ามีพร้อมทั้งความรู้ในเชิงทฤษฎี และความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติ
5. มีความรู้ มีทักษะหรือประสบการณ์ และมีความคิดสร้างสรรค์ กลุ่ม “โค้ช” ประเภทนี้มักจะมีความคิดที่เรียกว่า “นอกกรอบ” บนพื้นฐานของหลักการ และความเชี่ยวชาญที่มี
อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่มีทฤษฎีใดมาพิสูจน์ว่ากลุ่มโค้ชประเภทไหนที่ถือได้ว่าเป็นประเภทที่ดีที่สุด ทำทีมได้ประสบความสำเร็จมากที่สุด สร้างนักฟุตบอลที่เก่งได้มากที่สุดก็ตาม และทั้งหมดนั้นก็คงไม่สำคัญอะไรถ้าเป็นการพัฒนานักฟุตบอลเพื่อความเป็นเลิศซึ่งไลเซ่นหรือใบปริญญาก็คงไม่สำคัญเท่ากับผลการแข่งขัน ตราบใดที่คุณทำทีมได้แชมป์ ยังชนะได้ในทุกเกมการแข่งขัน คุณก็ยังได้โอกาสที่จะทำงานต่อไปแต่ในทางตรงกันข้ามกับ “โค้ช” ที่กำลังสอนนักกีฬาฟุตบอลในขั้นพื้นฐาน และในช่วงของการพัฒนาที่ “ความสำเร็จ” ไม่ได้อยู่ที่ชัยชนะแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็น “ความเสี่ยง” ที่สูงมากหาก “โค้ช” ที่อยู่ในประเภทที่ 1-3 ต้องมาทำหน้าที่หรือรับผิดชอบดูแลเด็กในช่วงอายุนี้ที่มีความจำเป็นต้องระมัดระวัง และเอาใจใส่ในรายละเอียดเป็นอย่างมาก
1
การออกแบบกิจกรรมการฝึกซ้อมที่ขาดความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของ “โค้ช” สามารถนำไปสู่ “บาดแผล” ทั้งทางกาย และใจที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ในขณะเดียวกันการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของ “โค้ช” ที่ดีจะช่วยพัฒนา “ทักษะการเคลื่อนไหว” ของนักกีฬาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในการเล่นในอนาคตได้ดีกว่าอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตข้างหน้าคำกล่าวที่ว่า “การที่เด็กจะได้เจอโค้ชที่ดีควรมีมากกว่าโอกาสถูกล็อตเตอรี่ซักใบ” นั้นจะหมดไปจากประเทศไทยในเร็ววันนี้นะครับ
1
โฆษณา