10 ส.ค. 2021 เวลา 04:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รีวิวกองทุน ONE-DISC-RA
[กองทุนเปิด วรรณ Discovery เน้นหุ้นขนาดเล็กทั่วโลก ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว]
วันนี้ #เด็กการเงิน จะพาไปทำความรู้จักกับกองทุน ONE-DISC-RA ที่มีกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Discovery Fund ที่เป็นกองทุนรวมหุ้นเติบโตที่มีขนาดเล็กที่มีศักยภาพ มีพลังเต็มเปลี่ยนพร้อมเติบโตเป็นผู้นำ และมีความสามารถที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมได้
สิ่งที่จะได้จากบทความนี้คือ
1) ปรัชญาการลงทุนของ Baillie Gifford ผู้บริหารงานกองทุนหลัก ONE-DISC-RA
2) แนวทางการเลือกหุ้นของ Baillie Gifford ที่ทำให้กอง ONE-DISC-RA โดดเด่น
3) กองแม่ของ ONE-DISC-RA ลงทุนที่ไหนบ้าง และถือสัดส่วนหุ้นอะไร
4) ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลักของ ONE-DISC-RA
5) กอง ONE-DISC-RA แตกต่างจาก ONE-UGG-RA อย่างไร
6) สรุป กอง ONE-DISC-RA เหมาะกับใคร และน่าลงทุนหรือไม่
⭐️ปรัชญาของค่าย Baillie Gifford เป็นอย่างไร?
ค่าย Baillie Gifford เป็นบริษัทจัดการกองทุน ที่มีอายุมามากกว่า 100 ปี และมีปรัชญาการลงทุนที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการลงทุนแบบ Active เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว และลงทุนในธุรกิจที่มี Growth ชัดเจน เน้นดูที่ตัวบริษัทเป็นหลัก (Pure Bottom Up) ค้นหาหุ้นที่จะเติบโตโดดเด่น และมีจุดแข็งของตัวเอง โดยเขาจะไม่สนใจผลงานระยะสั้น แต่จะมองการลงทุนเป็นแบบระยะยาว เพราะเขาเชื่อว่า เขานั้นเป็นนักลงทุนไม่ใช่นักเกร็งกำไร “We are investors, not speculators”
⭐️กอง ONE-DISC-RA คือกองแบบไหน?
กอง ONE-DISC-RA เป็นกองประเภท Feeder Funds ลงทุนใน Master Fund ของค่าย Baillie Gifford ชื่อ Baillie Gifford Worldwide Discovery Fund ลงทุนหุ้นขนาดเล็ก-กลาง ทั่วโลก และมีลักษณะเป็น Growth Stock โดยจะสอดคล้องกับปรัชญาหลักของ Baillie Gifford คือเน้นลงทุนแบบ Active และเป็นการลงทุนระยะยาว คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up Approach หรือการเลือกดูที่บริษัทเป็นหลัก
⭐️แนวทางการเลือกหุ้นของ Baillie Gifford ที่ทำให้กอง ONE-DISC-RA โดดเด่น
สำหรับกอง Worldwide Discovery Fund ผู้จัดการกองทุนคิดว่าน่าจะมีหุ้นกว่า 50,000 ตัว ทั่วโลกที่ขนาดเล็ก-กลาง แต่มีเพียง 15,000 ตัวเท่านั้นที่ขนาดและสภาพคล่องเหมาะสมกับกองทุนนี้ให้เข้าลงทุนได้ โดยแนวทางคือเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดเล็ก-กลาง คือมีขนาดประมาณ $10 bn หรือน้อยกว่า โดยทาง Baillie Gifford ตั้งเป้าว่ากองนี้จะสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นจากการที่ลงทุนในบริษัทที่มีสามลักษณะ ดังนี้
1) Global Mid-Small Equity ขนาดเล็ก-กลางทั่วโลก
2) Emerging Competitive Advantage – เลือกบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน มีนวัตกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงเติบโตรองรับกับผู้บริโภคในอนาคต
3) Immaturity – ลงทุนในหุ้นที่อยู่ในช่วงก่อนจะเติบโตเต็มที่
โดยเขาเชื่อว่าโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูงนั้นมาจากเหตุผล ดังนี้
1) ส่วนใหญ่แล้วน้อยมากที่นวัตกรรมจะมีจุดเริ่มต้นจากบริษัทใหญ่ๆ และบ่อยครั้งที่บริษัทใหญ่ก็ไม่เก่งด้านการปรับตัว (Adapt to Change) แม้ว่าตลาดหรือขนาดของบริษัททำให้มีความเหนือคู่แข่งในแง่ของการเข้ามาแข่งขันด้วย แต่วัฒนธรรมองค์กรและการบริหารจัดการที่ไม่ดีก็ทำให้เป็นตัวฉุดรั้งการพัฒนาของบริษัท แต่บริษัทที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น มีความเป็น Entrepreneurial มากกว่าและมีโอกาสที่จะพลิกอุตสาหกรรมได้
2) บริษัทขนาดเล็กลงมาหน่อย มีความน่าสนใจไม่ใช่เพราะขนาดของมัน แต่เป็นช่วงในการเติบโตและพัฒนาของธุรกิจ สามารถที่จะสร้าง Upside ได้สูง ทั้งในแง่ของกำไรที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก และสุดท้ายสะท้อนออกมาในราคาหุ้น
⭐️ ทีมที่บริหารกองนี้จะดูหุ้นกว่า 500 ตัวในแต่ละปี และเลือกมา 50-75 ตัวเข้าพอร์ท โดยปัจจุบันถือยู่ที่ราว 75 ตัว แต่ละตัวมีสัดส่วนตั้งแต่ 0.75% ไปจนถึงมากสุด 3% ณ ตอนที่ซื้อตอนแรก อีกทั้งจะลงทุนให้ได้อย่างน้อย 6 ประเทศขึ้นไป และขั้นต่ำ 10 อุตสาหกรรม นี่คือหลักการจัดพอร์ทของเขา เพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะหุ้นแต่ละตัวด้วยความที่มันเป็น Growth และมีความเสี่ยงเฉพาะตัวสูงด้วย ฉะนั้นกองนี้ก็จะมีความผันผวนระยะสั้นสูงกว่ากอง Global Equity ทั่วไป
⭐️กองแม่ของ ONE-DISC-RA ลงทุนที่ไหนบ้าง และถือสัดส่วนหุ้นอะไร
กองแม่ลงทุนในสัดส่วนหุ้นในUSAสูงถึง 63.9%, อังกฤษ 10.4%, จีน 5.9% เป็นต้น
สำหรับอุตสาหกรรมที่ลงทุนนั้น กองนี้ลงทุนใน Health Care 31.9%, Information Technology 24.6%, Consumer Discretionary 19.1%, Financials 7.0% และ Communication Services 6.3%
สัดส่วนหุ้นสิบตัวแรก Top Ten Holdings (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564)
1. Ocado (5.6%) – บริษัทซูเปอร์มาเก็ตออนไลน์รายใหญ่ของอังกฤษ
2. Zillow (4.4%) – บริษัทให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับเช่า ซื้อ ขาย อสังหาริมทรัพย์ออนไลน์แบบครบวงจร
3. Tesla lnc (4.3%) – บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และผู้คิดค้นพลังงานงานทางเลือก
4. Alnylam Pharmaceuticals (4.1%) – บริษัทวิจัยและพัฒนาชีวเวชภัณฑ์ในการรักษาโรคบนพื้นฐานนวัตกรรม RNAi
5. Novocure (3.9%) – บริษัทคิดค้นและพัฒนาการรักษามะเร็งและเนื้องอกด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
6. STAAR Surgical (3.6%) – บริษัทผู้ผลิน Implantable lenses เทคโนโลยีซึ่งช่วยแก้ปัญหาสายตาสั้น ยาว เอียง แบบถาวร
7. MarketAxess (3.4%) – บริษัท Fintech ให้บริการแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ในการซื้อขายตราสารหนี้ทั่วโลก
8. Zai Lab (3.3%) – บริษัทยาจากเซี่ยงไฮ้ ทำการวิจัยและพัฒนายาเกี่ยวกัยโรงมะเร็งให้กับผู้ป่วยในประเทศจีนและทั่วโลก
9. Chegg (2.8%) – บริษัทให้บริการด้านการศึกษาอย่างครบวงจร โดยสามารถเรียนผ่าน VDO ยืมหนังสือและติวเตอร์
10. Xero (2.8%) – บริษัทให้บริการซอฟแวร์สำหรับทำการบัญชีแก่บริษัทขนาดเล็ก
ผลตอบแทนย้อนหลังของกองแม่ของ ONE-DISC-RA
ตั้งแต่จัดตั้งกองมาในเดือนกันยายนปี 2017 กองแม่ของ ONE-DISC-RA สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 29.6% ต่อปี !! เทียบกับ Benchmark ที่ใช้คือ MSCI ACWI Small Cap Index ที่ 13.1% ต่อปี เรียกได้ว่าแตกต่างกันเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้
⭐️ ความแตกต่างระหว่าง ONE- DISC-RA และ ONE-UGG-RA
สำหรับบลจ. วรรณ เองก็มีกองทุนหลักจาก Baillie Gifford ทั้งหมดสองกอง คือ ONE-UGG-RA และ ONE-DISC-RA ซึ่งมีแนวทางการลงทุนที่แม้จะคล้ายกันแต่ก็มีความแตกต่าง
โดยกอง ONE-UGG-RA จะลงทุนใน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund (LTGG) ขณะที่ ONE-DISC-RA ซึ่งลงทุนใน Baillie Gifford Worldwide Discovery Fund
ความแตกต่างหลักคือกองแม่ของ ONE-DISC-RA จะมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ที่ Immature หรือยังไม่เติบโตเต็มที่ ขณะที่ ONE-UGG-RA ไม่ได้มีข้อจำกัดตรงนี้ แต่แนวทางการเลือกลงทุนคล้ายกันคือมุ่งเน้น Growth Stock ลงทุนแบบ Active มุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาว แต่พอมาดูหุ้นรายตัวจะเห็นว่า ONE-UGG-RA นั้นจะมีลงทุนในบริษัทที่นักลงทุนทั่วไปอาจจะคุ้นเคยมากหน่อย แต่ ONE-DISC-RA จะมีหน้าตาหุ้นบางตัวในพอร์ทที่หลายคนอาจจะไม่รู้จักเลย อันนี้ต้องเชื่อใจฝีมือของนักวิเคราะห์ทีม Worldwide Discovery ว่าเลือก”หุ้นเล็ก”อันดับต้นๆมาไว้รวมกันแล้ว
ONE-UGG-RA จะกระจายตัวไปทั่วโลกและมีหุ้น USA น้อยกว่า ONE-DISC-RA และมีพวกหุ้นจีน 26.4% มากกว่าเท่าตัวถ้าเทียบกับ ONE-DISC-RA โดยตัว ONE-DISC-RA ก็จะมีพวก Health Care + Info Tech เป็นสัดส่วนสองอันดับแรก ส่วน ONE-UGG-RA มี Consumer Discretionary + Info Tech (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564)
⭐️ สรุป
กองทุน ONE-DISC-RA นี้เป็นอีกกองที่น่าสนใจ เป็นกองที่ Active มาก ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก-กลาง ทั่วโลก ที่ยังอยู่ในช่วง Immature หรือยังไม่เติบโตเต็มที่ หากใครกำลังมองหาหุ้น Growth ที่มีแนวโน้มเติบเติบสูง เชื่อมั่นในทีมของ Baillie Gifford และรับความผันผวนสูงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจลงทุนระยะยาว การันตีด้วยเรทติ้ง 5 ดาวจากมอนิ่งสตาร์ กอง ONE-DISC-RA นั้นเป็นอีกทางเลือก นอกจาก ONE-UGG-RA จากค่ายวรรณเช่นกัน สำหรับ ONE-DISC-RA นั้น ตามความเห็นส่วนตัวของเด็กการเงิน มองว่าเหมาะจะเป็น Satellite โดยมีประมาณ 10-20% ได้ สามารถลงคู่กับ ONE-UGG-RA ได้ แต่ถือกองทุนไม่ควรเกิน 30% ของพอร์ท เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความผันผวนสูง คาดการณ์ผลตอบแทนที่คาดหวังได้อย่างไม่แน่นอน
กองทุน ONE-DISC มีอีกหนึ่งทางเลือก ในรูปแบบกองทุน SSF นั่นคือ ONE-DISC-ASFF
โฆษณา