11 ส.ค. 2021 เวลา 10:23 • สุขภาพ
ปรับ GDP สิงคโปร์โต 7% เศรษฐกิจพุ่งกว่าช่วงก่อนการระบาด
กุญแจความสำเร็จจากระดมฉีดวัคซีนใกล้แตะ 80% ของประชากร
สิงคโปร์กำลังใกล้จะหลุดพ้นจากสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคระบาดในอีกไม่ช้าแล้ว หลังจากที่กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ได้มีการปรับการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ใหม่อีกครั้งในปีนี้เป็น 6% - 7% หลังจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้เพียง 4% - 6%
4
นับเป็นการปรับการคาดการณ์ GPD ที่สูงกว่าช่วงก่อนการเกิดโรคระบาดเมื่อปี 2019 ที่หดตัวลงถึง 5.4%
3
หาแยกสัดส่วนของเศรษฐกิจสิงคโปร์ออกมาจะพบว่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงในทุกๆ ภาคส่วน ดังนี้
🔹️ อัตราการเติบโตภายในประเทศขยายตัว 14.7%
🔹️ ภาคการผลิตขยายตัว 17.7%
🔹️ ภาคบริการขยายตัว 10.3%
🔹️ ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 106.2%
3
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวว่า “การเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แข็งแกร่งเกินคาด การแพร่ระบาดของเชื้อสามารถความคุมได้ในอัตราทรงตัว ส่วนโครการระดมฉีดวัคซีนให้กับพลเมืองก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง”
ฮิโรมาสะ มัตสึอุระ นักเศรษฐศาสตร์จากสิงคโปร์ที่ธนาคารมิซูโฮกล่าวว่า "การฟื้นตัวของภาคครัวเรือนยังคงอ่อนแอ เมื่อเทียบกับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจรวมถึงการส่งออก" ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการป้องกันในประเทศและตลาดแรงงานที่อ่อนแอยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
จากข้อมูลทางสถิติพบว่า การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ยังคงต่ำกว่าไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 ถึง 13% ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐและการส่งออกสุทธิ คาดว่าต่อจากนี้ไปเติมโตที่ 14% และเพิ่มขึ้น 15% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ กล่าวว่า "แม้เศรษฐกิจโลกจะถดถอยครั้งใหญ่ เศรษฐกิจสิงคโปร์คาดว่าจะยังคงเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก"
1
🔵 วัคซีนคือหัวใจสำคัญ
สำหรับประเทศสิงคโปร์นับว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนเร็วที่สุดในโลก โดยพบว่ามีพลเมืองได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน 2 โดสแล้วมากกว่า 2 ใน 3 ของประชากร 5.7 ล้านคน หรือที่ 72.5%
3
นอกจากนี้ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมชายแดนบางประการ ทำให้ผู้ถือบัตรผ่านงานสามารถยื่นขอเข้าเมืองได้โดยไม่คำนึงว่าจะเดินทางมาจากที่ใด ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันอังคารที่ 10 สิงหาคมผ่านมา
2
รัฐบาลยังผ่อนปรนกฎการเว้นระยะทางสังคมภายในประเทศ โดยอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสมบูรณ์แล้วรับประทานอาหารในร้านอาหารแบบเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน
“การผ่อนคลายข้อจำกัดภายในประเทศและเขตชายแดนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนของเรายังคงเพิ่มสูงขึ้น จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจที่ต้องการจำวนวนผู้เข้าใช้บริการและผู้บริโภค และบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคที่ต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ”
รัฐบาลสิงคโปร์คาดว่า จะผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม เพื่อเดินหน้ากลับสู่สถานการณ์ปกติรูปแบบใหม่ที่ผู้คนต้องอยู่ร่วมกับไวรัสให้ได้
นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง กล่าวว่า “ประชากรของเราในเวลานี้ส่วนใหญ่ได้รับการปกป้องที่ดีขึ้น เราอยู่ในสถานะที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ตอนนี้เราสามารถตั้งตารอที่เศรษฐกิจของเราจะกลับมาขับเคลื่อนได้ใหม่อีกครั้งอย่างเป็นขั้นเป็นตอน"
กระทรวงการค้าฯ ได้รายงานถึงภาพรวมการส่งออกว่า การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์และเภสัชภัณฑ์คาดว่าจะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี อุปสงค์ภายนอกที่ฟื้นตัวของสิงคโปร์ในช่วงที่เหลือของปียังคงเป็นไปในทางที่ดี
แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือ วิกฤตการระบาดที่ยังคงรุนแรงในประเทศเพื่อนบ้านของชาติสมาชิกอาเซียน การติดเชื้อและการระบาดที่รุนแรง จะเป็นความกังวลต่อการส่งออกของสิงคโปร์ในอนาคต มาเลเซียและอินโดนีเซียซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการส่งออกที่สำคัญของสิงคโปร์
ภาคที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะยังคงประสบกับการระบาดใหญ่ที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ระบาดมากขึ้นทั่วทั้งเอเชีย ยังคงทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ยังต้องระมัดระวังอย่างเข้มงวด แม้เศรษฐกิจภายในจะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้เกือบจะเป็นปกติก็ตาม
มีคนบอกว่าสิงคโปร์ ประเทศเล็ก คนน้อยกว่า สัดส่วนการฉีดวัคซีนย่อมสูงแน่นอน ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จริงๆ ก็ไม่เสมอไปอีกนะ เพราะประเทศที่มีขนาดใกล้เคียง ประชากรใกล้เคียง ความร่ำรวยใกล้เคียงสิงคโปร์หลายประเทศก็ฉีดวัคซีนไม่ได้เท่านี้ เช่น
🇸🇩 คูเวต ที่ฉีดวัคซีนได้แค่ 25% นิดๆ จากประชากร 4.1 ล้านคน
🇭🇲 นิวซีแลนด์ ประชากร 5 ล้านคน ฉีดได้แค่ 22%
🇭🇰 ฮ่องกง ประชากร 7 ล้าน ฉีดได้แค่ 42%
🇪🇪 เอสโตเนีย ประชากร 1.5 ล้าน ฉีดได้แค่ 44%
ซึ่งของแบบนี้มันอยู่ที่นโยบายภาครัฐ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพราะต่อให้เอาประเทศที่ประชากรใกล้เคียงกัน คุณภาพใกล้เคียงกันมาเป็น filter กรองแล้ว ประเทศอื่นๆ ก็ยังไม่เท่าสิงคโปร์ครับ ดังนั้นคนน้อยมีผลมั้ย...มี แต่ไม่ใช่เป็นตัวชี้วัดทุกสิ่ง
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
โฆษณา